ไม่ว่าจะหันไปมองไปทางไหน สังคมไทยยังเกาะกระแสความนิยมเคป็อปเอาไว้อย่างเหนียวแน่น หลังจาก "เทรนด์เกาหลี" แผ่อิทธิพลเข้ามาครองใจหนุ่มสาวไทยมายาวนานติดต่อกันเกือบ 10 ปี

ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ ดารา นักร้อง เสื้อผ้าหน้าผม ข้าวของเครื่องใช้ ฯลฯ ส่งผลให้แบรนด์สินค้าต่างๆ ในประเทศ หรือเจ้าของธุรกิจต่างๆ ที่อยากอินเทรนด์ต้องเลือกใช้ศิลปินเกาหลี หรือสอดแทรกความเป็นเกาหลีเพื่อทำให้แบรนด์ติดอยู่ในกระแสและได้ใจแฟนคลับ เรียกว่าแทบจะยกประเทศเกาหลีมาไว้ที่นี่ ให้ชาวติ่งได้สัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมสไตล์เกาหลีได้อย่างชัดเจน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารเกาหลีก็ได้รับความนิยมและสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้ธุรกิจอาหารเกาหลีในไทยเติบโต มีหลากหลายประเภทเมนูให้คอเกาหลีได้เลือกลิ้มชิมรสกันอย่างเต็มคราบ ล่าสุด วิคเก็ต สโนว์ (Wicked Snow) ก็ได้นำเอา "พิงสุ (Bingnsu)"ของหวานไฮโซจากเกาหลีซึ่งเป็นขนมหวานเกล็ดหิมะที่นิยมมากในเกาหลีมากว่า 10 ปี มาเปิดสาขาแรกของโลกในไทยที่โครงการ I'm park ซอยจุฬาฯ 22 ให้ติ่งเกาหลีได้ชิมตามแบบต้นฉบับแดนกิมจิเลยทีเดียว

กรรมการบริษัท ไวท์ แคสเซิล จำกัด ผู้ซื้อไลเซนส์ร้านวิคเก็ต สโนว์ เผยถึงที่มาในการทำธุรกิจนี้ว่าด้วยตนเองเป็นคนชอบท่องเที่ยว และเป็นเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ประทับใจในอาหารจากหลากหลายประเทศ โดยหนึ่งนั้นก็คือพิงสุ น้ำแข็งไสจากเกาหลี จากการได้ลองทานช่วงซัมเมอร์ในหมู่บ้านโบราณที่นั่นแล้วติดใจในความอร่อย สดชื่น กินแล้วมีความสุข จึงอยากทำเป็นธุรกิจขึ้น เลยตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ Wicked Snow ซึ่งเป็นร้านกาแฟสไตล์เกาหลี และมีเมนูพิงสุที่เราชื่นชอบ ประกอบกับบริษัทนี้เป็นผู้ผลิตเครื่องมือในการทำพิงสุ จึงมีความเชี่ยวชาญและตอบโจทย์ของตัวเอง
 

 

โดยเชื่อมั่นว่าพิงสุภายใต้แบรนด์วิคเก็ต สโนว์ จะได้รับความสนใจจากคนไทย เพราะเป็นขนมหวานที่มีรูปลักษณ์และเหมาะกับบุคลิกของคนไทย เชื่อว่าจะถูกปากคนไทย เหมาะสำหรับเมืองร้อน อีกทั้งปัจจุบันพิงสุเป็นเมนูหนึ่งในร้านอาหารเกาหลีในไทย และการเปิดจำหน่ายเฉพาะพิงสุยังมีไม่กี่ราย
หน่าย "กระแสเกาหลีฟีเวอร์" รณรงค์รักไทย

ด้วยความนิยมและสังคมตอบรับการคลั่งไคล้ของแฟนคลับเกาหลี ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มคนบางกลุ่มว่าบ้าเกาหลีเข้าขั้น รับเอาวัฒนธรรมเข้ามา หลงบริโภคจนไม่ลืมหูลืมตาจนหลงลืมและเสียเอกลักษณ์ความเป็นไทย เกิดเป็นกลุ่มแอนตี้ขึ้นมาจำนวนมาก ไม่อยากสนับสนุนอะไรที่เกี่ยวข้องกับกระแสเกาหลี

เรื่องนี้ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจที่นำเอาอาหารที่เป็นของหวานเกาหลีเข้ามา คุณนพมาศ ชี้แจงว่า ร้านนี้เกิดจากความชอบขนมชนิดนี้ และคิดว่าเหมาะกับรสนิยมของคนไทยและภูมิอากาศของประเทศที่มีอากาศร้อน และทุกคนในประเทศย่อมคุ้นเคยกับการทานน้ำแข็งไส ขนมหวานเย็นมาช้านานอยู่แล้ว เราจึงอยากมอบความสุขให้กับผู้บริโภค โดยนำสิ่งดีๆ มาให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสกับการทานขนมอร่อยๆ ในการบริโภคของที่มีคุณภาพบนราคาที่เหมาะสม โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลี ซึ่งการทำธุรกิจของเราไม่ได้เกาะกระแสเกาหลีฟีเวอร์ เพียงแต่เลือกสิ่งที่คิดว่าเหมาะกับคนไทยเท่านั้น ซึ่งประจวบเหมาะเผอิญตรงกับเทรนด์นิยมของคนไทยในขณะนี้ โดยกระแสเหล่านี้ก็เป็นความชอบบางช่วงของคนไทยที่เคยนิยมอเมริกา จีน ญี่ปุ่นมาแล้ว

แม้พิงสุจะเป็นขนมหวานน้ำแข็งไส แต่ความโดดเด่นของขนมหวานชนิดนี้คือเกล็ดน้ำแข็งที่นุ่มละมุนราวกับปุยนุ่น ซึ่งมีรสชาติของนมเป็นส่วนประกอบหลัก โรยหน้าด้วยท็อปปิ้งหลากหลายรสชาติทั้ง 6 แบบ ในราคาเริ่มต้นที่ 120-240 บาท โดยราคานี้ กรรมการบริษัท ไวท์ แคสเซิล จำกัด ได้คำนึงถึงสังคมไทยและปรับราคาให้ลดลง "พิงสุในเกาหลีจะขายในราคา 250 บาทขึ้นไป

ซึ่งค่อนข้างเป็นราคาที่สูง เมื่อจะขายในไทยเราจึงประยุกต์ขอไปที่บริษัทแม่ด้วยการปรับขนาดให้เหมาะสมกับการทานคนเดียว ให้ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งราคานี้หากเทียบกับไอศกรีมพรีเมียมตามห้างก็อยู่ในระดับเท่าๆ กัน ดังนั้นราคานี้เป็นราคาสมเหตุสมผลอย่างแน่นอนกับอาหารสุขภาพ วัตถุดิบคุณภาพดีมีคุณประโยชน์จากในประเทศที่ทัดเทียมหรือดีกว่าเกาหลี ที่ผู้บริโภคชาวไทยจะได้รับ
 

 

"ตัวเองไม่ใช่ประเภทเกาหลีจ๋า เราไม่ได้ขายเกาหลี หรือเปิดร้านเพื่อเอาใจติ่งเกาหลีโดยเฉพาะ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการมีความหลากหลาย ทุกเพศทุกวัย ที่ไม่ใช่ติ่งแต่ต้องการสรรหาอะไรอร่อยทาน ดีกับสุขภาพ หรือแม้แต่บางคนก็ชื่นชอบบรรยากาศตกแต่งร้าน อยากลองทานเมนูใหม่ๆ รวมไปถึงบางคนก็อาจเคยมีประสบการณ์ทานขนมชนิดนี้แล้วจากเกาหลีมาก่อนก็อยากกลับมาทาน ไปจนถึงติ่งเกาหลีจริงๆ มาใช้บริการก็มี

แต่ต้องยอมรับว่าเนื่องจากเป็นแฟรนไชส์จากเกาหลี เงื่อนไขบางอย่างก็ต้องคงไว้ อาทิ การตกแต่งร้านสไตล์เกาหลี หรือเมนูที่มาจากเกาหลีก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามไม่สูญเสียความเป็นไทยอย่างแน่นอน อะไรในโลกก็มี 2 ด้านเสมอ ให้ลูกค้าเป็นผู้ประเมินดีกว่าว่าการได้ทานแล้วเกิดความสุขหรือเปล่า เราจึงอยากเอาสิ่งดีๆ มาให้คนไทยค่ะ" คุณนพมาศ กล่าว

ความชื่นชอบที่คนไทยกำลังอินกับกระแสเคป็อบนี้ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยว่า กระแสเหล่านี้ต้องยอมรับว่าตัวมีเดียทำให้เกิดกลุ่มก้อนได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนและการแสดงออกเปิดกว้างมากขึ้น ภายใต้กลุ่มใหญ่ก็จะมีกลุ่มย่อยเกิดขึ้น โดยการชื่นชอบดาราศิลปินลามไปถึงแฟชั่น การแต่งตัว การกินอาหาร มันเป็นไปตามวัย เป็นช่วงเวลาหนึ่งของอายุ ซึ่งคนที่ชอบลงลึกเข้าไปถึงแก่นจริงๆ จะมีเพียงส่วนน้อย ถือเป็นเรื่องปกติยอมรับได้ แต่ความชื่นชอบคลั่งไคล้อะไรบางอย่างเราก็ต้องรู้ว่าอะไรเกินลิมิตของตัวเองไปแล้วหรือเปล่า

แต่ถ้าไปถึงจุดหนึ่งที่เขาแยกแยะไม่ได้ เช่น ต้องสะสมของให้ได้ในราคาเกินความสามารถตัวเอง ใช้ทุกหนทางเพื่อได้เงินมา ไม่ไปเรียน ขอตามอย่างเดียว ขาดสอบก็ยอม เสียการงาน แสดงว่าระบบการตัดสินใจต่อการใช้ชีวิตมันแยกไม่ได้ว่าเรื่องหลักเป็นเรื่องอะไร หลักวิธีคิด ระบบเหตุผลเริ่มถูกกระทบ ส่งผลกระทบในทางลบต่อการใช้ชีวิต สุดท้ายอาจพบว่าในเด็กกลุ่มนี้บางคนอาจมีภาวะจิตใจไม่ปกติ เรียกว่าเป็นความหลงผิด

 

 

สิ่งที่ต้องฝากคือ ด้วยความเป็นกลุ่มย่อยมันย่อมมีการขัดแย้ง เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ซึ่งหมอคิดว่ามันไม่ได้แปลกอะไรที่จะมีทั้งติ่งเกาหลีและคนไม่ชอบเกาหลี แต่มันต้องไม่ใช่ความขัดแย้งเป็นไปด้วยความรังเกียจ เนื่องจากเราอยู่ในสังคมที่หลากหลาย การใช้ชีวิตอย่างถูกต้องให้มีความสุข ก็คือยอมรับในความชื่นชอบของแต่ละคนให้ได้ค่ะ.

ติ่งเกาหลี แล้วไง??ออย-ธัญญ์ฐิตา ธนาพิริยรัตน์ อายุ 34 ปี พนักงานบริษัท บอกว่าตัวเองชื่นชอบศิลปินเกาหลีวงดงบังชินกิตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วทำให้เราอยากจะรู้และสัมผัสอะไรเกี่ยวกับเกาหลีมากขึ้น ความชอบก็เลยขยายต่อไปยังหนังซีรีส์ แฟชั่น อาหารการกิน เป็นไปโดยอัตโนมัติ แล้วที่ตอนนี้สังคมตอบรับมีธุรกิจเกี่ยวกับเกาหลีเยอะมันก็เป็นสิ่งปกติ อะไรฮิตก็ต้องตามเทรนด์แฟชั่นกันไป ขายทั้งคนชอบเกาหลี หรือคนที่อยากลอง ถูกใจโดนใจคนที่เขาชื่นชอบก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล

ส่วนที่ตอนนี้มีขนมหวานเกาหลีมาเปิดตลาดในไทย พี่ชอบนะคะ เพราะตอนไปเกาหลีก็เคยทานประจำ แล้วดาราเกาหลีก็นิยม แต่ราคาค่อนข้างสูงเหมือนกัน ซึ่งพอมีที่ไทยราคาก็อาจถูกลง โอเคนะคะ จะได้ไม่ต้องไปกินที่เกาหลี เพราะเขาจะมีขายแค่ตอนฤดูร้อนเท่านั้นด้วยค่ะ.

อ้างอิงจาก  www.ryt9.com