|
10 กรกฎาคม 2558 |
บริการ "เจ้าตูบ-เหมียว" ที่เดียวจบ
บริการ สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เราพบเห็นเป็นร้านค้าที่ตั้งแบบเดี่ยว ไม่ครบกับความต้องการทั้งหมด อีกทั้งทำให้สัตว์เครียดจากการเดินทาง จึงเกิดไอเดียธุรกิจแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ครั้งแรก ที่เดียวครบ
นาง สมฤดี ตัณศลารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ็ทคลับ จำกัด กล่าวว่า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่เติบโตมากกว่า 10% ต่อปี มูลค่าตลาด 22,000 ล้านบาท ทางแบรนด์จึงทุ่มงบฯ 30 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมทั้งการบริการด้านการแพทย์ สปา โรงแรม และธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์
บนพื้นที่ 1,500 ตร.ม. ที่โครงการแฮปปี้ คอนโด ลาดพร้าว 101 ซึ่งเป็นคอนโดฯ ที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ รับลูกค้าคอนโดฯ และชุมชนข้างเคียงซึ่งเป็นกลุ่มระดับบีบวก รวมถึงถนนสามารถทะลุซอยโพธิ์แก้ว ถนนนวมินทร์
"เพ็ทคลับมี 4 สาขา กระจายยังพัฒนาการ, รามอินทรา, พาซิโอ รามคำแหง และแฮปปี้แลนด์ คอนโด 101 แต่ยังไม่มีการบริการที่ครบวงจร ซึ่งทางแบรนด์มีฐานลูกค้าเดิมอยู่ และมีความน่าเชื่อถือจากการเป็นโรงพยาบาลมาก่อน จึงได้เกิดไอเดียเป็นรายแรกที่มีการบริการแบบ One Stop Service ให้ผู้ใช้บริการ สามารถส่งต่อบริการได้เลย โดยไม่ต้องขับรถเพื่อไปยังโรงพยาบาลสัตว์ที่อยู่อีกที่"
ชวนใช้ซ้ำ ทำโปรโมชั่น
แม้ เพ็ทคลับจะผูกกับแฮปปี้คอนโด แต่ 80% เป็นลูกค้าจากข้างนอก การตลาดจึงเน้นให้ลูกค้ามาใช้ซ้ำ โดยการทำระบบสมาชิกแบบฟรีตลอดชีพ เมื่อซื้อสินค้าครบ 500 บาท โดยสมาชิกจะได้รับส่วนลดในการใช้บริการต่าง ๆ 10% ในทุกสาขาและสะสมแต้มเพื่อรับส่วนลดอีกด้วย
ทั้งนี้ สมาชิกสามารถอัพเกรดเป็นสมาชิกแบบพรีเมี่ยม ซึ่งจะได้รับบริการเพิ่ม เช่น เสิร์ฟกาแฟ รวมถึงบริการพิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงแบบเฉพาะตัว เช่น สุนัขบางตัวต้องแปรงฟันทุกวัน เป็นต้น
ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 5,000 ราย คาดภายในสิ้นปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ราย ตามการขยายตัวของสาขา อัตราการใช้จ่ายของลูกค้าอยู่ที่ 800-1,000 บาท/ครั้ง/หัว ขณะที่สมาชิกจะมีความถี่ในการเข้ามาใช้บริการมากกว่า คืออาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ขณะที่ลูกค้าทั่วไปจะเป็นเดือนละครั้ง ซึ่งการเพิ่มจำนวนสมาชิกก็เป็นการดึงดูดการมาใช้บริการด้วย
"รายได้ หลักมาจากสินค้าอาหาร แต่กลุ่มโรงพยาบาลเป็นกลุ่มที่ทำกำไรมากที่สุด แต่ผู้เลี้ยงยังไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพสุนัข จึงดึงลูกค้าผ่านการจัดแพ็กเกจสำหรับตรวจสุนัขในระยะเวลา 1-3 ปี สำหรับการฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพราคาเริ่มที่ 1,500 บาท และราคา 4,500 บาท สำหรับการตรวจแบบเต็มรูปแบบ ที่มีการอัลตราซาวนด์ด้วย หวังดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการและเห็นความสำคัญของการตรวจสุขภาพของสุนัขมาก ยิ่งขึ้นด้วย"
โดยปีนี้คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 50 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 30% เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ และการเติบโตของผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในไทยเองด้วย
ตลาดโต-แฟรนไชส์ก็ตามมา
นอก จากการเติบโตของธุรกิจสัตว์เลี้ยงยังมีแนวโน้มที่เห็นได้ชัดเจนจากผู้มาใช้ บริการของเพ็ทคลับ คืออัตราผู้เลี้ยงแมวสูงขึ้น 20-30% คาดภายใน 2 ปี ผู้เลี้ยงแมวจะเป็นสัดส่วน 50-50 มาจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอาศัยอยู่ในคอนโดฯ ซึ่งมีพื้นที่น้อย และ พฤติกรรมแมวที่ไม่ส่งเสียงรบกวน
ทั้งนี้ปริมาณหมาไม่ได้ลดลง แต่อาจเปลี่ยนเป็นพันธุ์เล็ก รวมถึงผู้เลี้ยงสัตว์ช่วงอายุจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นถึงคนทำงานมากขึ้นคือ 18-35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงดูมากกว่าคนรุ่นเก่า เน้นการดูแลแบบองค์รวมเหมือนเลี้ยงลูกทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงยัง สามารถขยายได้อีกมากทำให้มีผู้สนใจทำธุรกิจเหล่านี้แต่ยังขาดองค์ความรู้ เพ็ท คลับ จึงจะเปิดรูปแบบแฟรนไชส์ มีการเจรจาตกลงแล้วหนึ่งราย ใช้งบฯลงทุน 3-5 ล้านบาท มีร้านจำหน่ายสินค้า ซาลอน และคาเฟ่ คาดจะเปิดบริการในปลายปีนี้
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|
|
|