ดาวเด่นแฟรนไชส์    'คุมอง' แข่งความต่าง แบรนด์แข็งด้วยกระแสบอกต่อ
11K
2 ตุลาคม 2560
'คุมอง' แข่งความต่าง แบรนด์แข็งด้วยกระแสบอกต่อ

 
 
คุมองยังเชื่อมั่นจุดขายหลักสูตรสอนคณิตฯและอังกฤษที่แตกต่าง ซึ่งเน้นให้เด็กพัฒนาสมองไปตามวัยจนลูกค้าเชื่อมั่นและช่วยบอกต่อ พร้อมตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์เพิ่มปีละ 50 สาขา หวัง 1,000 สาขา ภายใน 10 ปี 
 
ชนินทร์ ปรีชพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท คุมอง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า คุมองถือเป็น คนละตลาดกับโรงเรียนกวดวิชาและคณิตคิดเร็ว ตรงที่คุมองไม่ได้มีการสอน แต่เป็นการให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเอง ส่วนตัวผู้สอนจะเป็นเพียงผู้ชี้แนะในสิ่งที่เด็กไม่เข้าใจ โดยวิชาที่ คุมองสอนจะเป็นวิชาคณิตศาสตร์กับ ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กต้องเรียนในโรงเรียน ซึ่งวิชาดังกล่าวถ้าเด็กเรียนและมีความเข้าใจจะเป็นสื่อในการสร้าง กำลังเรียนรู้ และให้เด็กมีกำลังที่จะเรียนในโรง เรียนได้อย่างสบาย เนื่องจากระบบการเรียนในโรงเรียนจะเป็นการสอนแบบ ที่ให้เด็กเรียนเหมือนกันหมดผ่านครูคนเดียวกัน 
 
แต่โดยพื้นฐานความรู้ที่ไม่เหมือนกันของเด็ก ทำให้เด็กรู้สึกว่าไม่อยากเรียนและก็จะไม่ประสบความสำเร็จในการเรียน ดังนั้นคุมองจะเข้ามาช่วยสร้างให้เด็กมีความรู้ในระดับความรู้ที่ควรจะมี ซึ่งตรงนี้ทำให้เด็กรู้สึกที่อยากจะเรียน ในชั้นเรียนต่อไป 
 
"อย่างคณิตศาสตร์เราต้องพัฒนาให้เขาเหนือชั้นเรียนของเขาให้ได้ ถ้าเด็ก ป.3 สามารถทำคณิตศาสตร์ของ ป.5 หรือ ป.6 ได้ เขาก็อยาก จะเรียนตามชั้นที่เรียนอยู่ นี้คือวิธีการของเราซึ่งจะต่างจากโรงเรียนกวดวิชา ที่เด็กเรียนไม่รู้เรื่องก็ให้มาเรียนซ้ำเอาคำตอบมาเฉลย แต่ของเรา ไม่ใช่ เราจะทำเด็กให้รู้ไกลกว่าที่เรียนอยู่ ซึ่งตรง นี้ไม่ใช่การสอนเพราะการสอนไม่ทำให้เด็กเหนือชั้นเรียนได้ แต่เด็กต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองถึงจะเหนือชั้นเรียนได้ เมื่อเด็กเรียนเลขและอังกฤษแล้วง่าย ทุกวิชาก็จะง่ายหมดเลย
 
นอกจากนี้การเรียนด้วยตัวเองยังทำให้เด็กมีการอดทนในการแก้ปัญหา เราจะมีเกณฑ์ในการวัดมาตรฐานของเขาก่อนขึ้นระดับต่อไป ด้วยการดูเวลาในการทำและความถูกต้อง ถ้าผิด มากกว่าปกติ หรือเวลาในการทำต่ำกว่ามาตรฐาน เราจะให้เขาซ้ำชั้น"
 
 
 
หลักสูตรการเรียนของคุมองจะถูกออก แบบมาใหม่เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง ได้โดยไม่ต้องสอน เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีพื้นฐานการเรียนไม่เหมือนกันแบบฝึกหัดจึงต้องออก แบบมาให้เด็กเรียนเฉพาะตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาให้เด็กสามารถทำคณิตศาสตร์ด้วย ตัวเองอย่างสบายๆ และเร็วที่สุด โดยจะให้เด็กเริ่มเรียนต่ำกว่าชั้นเรียนก่อน เพราะง่ายและเหมาะสมกับตัวเด็ก ซึ่งเด็กจะสามารถทำได้เองโดยไม่ต้องสอน เมื่อผ่านก็จะขึ้นแบบฝึกหัดใหม่ไปเรื่อยๆ ผู้สอนจะเป็นคนตรวจสอบและแนะนำให้ประมาณ 1 ปีเด็กจะสามารถเรียนตามชั้นเรียนได้ ถ้าเรียน 2-3 ปีก็จะเรียนก้าวหน้าไป 2-3 ชั้นเรียน 
 
ปัจจุบันคุมองมีแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษที่สามารถ ครอบคลุมได้ตั้งแต่ระดับเด็กอนุบาลจนถึงมัธยมปลาย ซึ่งแบบฝึกหัดของคุมองจะมีการปรับปรุงทุก 2 ปี เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพให้กับเด็กมากขึ้น 
 
โดยการปรับเปลี่ยนแบบฝึกหัดแต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณ 60 ล้านบาทสำหรับการเปลี่ยนแบบฝึกหัดของ คุมอง ทั่วโลกซึ่งมีอยู่ 44 ประเทศ สำหรับแนวโน้ม ของวิชาเรียนในอนาคตของคุมองในประเทศไทย อาจจะมีการเพิ่มหลักสูตรวิชาภาษาไทยเข้ามา 
 
"หลักสูตรคุมองถูกพัฒนามาจากประเทศญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาในไทยเมื่อประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ผมจะเข้ามาทำงานที่นี่ ผมทำงานที่ญี่ปุ่นแล้วผมเห็นลูกไปเรียนระบบนี้ผมก็มองว่า อันนี้จะเป็นอะไรที่แก้ปัญหาให้กับเด็กได้ ผมก็ร่วมมือ กับทางญี่ปุ่นช่วยเหลือเขาในการที่เข้ามาทำธุรกิจ ในไทย และเริ่มเปิดศูนย์อย่างจริงจังเมื่อปี 2540" 
 
วิธีการเรียนการสอนแบบคุมองถือว่าเป็นสิ่งที่คนไทยไม่เคยรู้จักมาก่อน ดังนั้นการที่จะอธิบายให้คนไทยฟังจึงเป็นเรื่องที่ยาก ช่วงแรกที่เปิดโรงเรียนจึงมีคนมาเรียน 7 คน ซึ่งจะเป็นญาติกัน และเด็กแถวบ้าน หลังจากนั้นก็โตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากหลังจากเรียนไป 6 เดือนนักเรียนทุกคนที่มาเรียนสามารถสอบได้ที่หนึ่งหมดจึงเริ่มมีการ บอกปากต่อปากจึงมีปริมาณนักเรียนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ 
 
ถึงปัจจุบันศูนย์ คุมองมีทั้งหมด 200 ศูนย์ทั่วประเทศอยู่ในกรุงเทพฯ 160-170 ศูนย์ และมีอัตราการเพิ่มศูนย์ปีละ 50 สาขา หรือเดือนละประมาณ 5-6 ศูนย์ โดยบริษัทจะมีการคัดเลือกศูนย์ด้วยระบบการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งในแต่ละเดือนมีคนที่มาสัมภาษณ์ประมาณ 100 กว่าราย และคาดว่าใน 10 ปีข้างหน้า จะต้องมีศูนย์คุมองอย่างน้อย 1,000 ศูนย์ทั่วประเทศ
 
แม้ว่าศูนย์จะมีการเติบโตมากขึ้น แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องของการยกเลิกศูนย์เช่นกัน โดยอัตราการยกเลิกศูนย์มีประมาณ 5-10% ส่วนใหญ่จะมาจากการไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์เงื่อน ไขที่กำหนดไว้ ปัญหาเรื่องของการไม่ซื่อสัตย์ของ ผู้ประกอบการ เนื่องจากระบบการทำงานของคุมองจะเป็นการทำงานแบบเชื่อใจกัน ดังนั้นจะไม่มีการเข้าไปตรวจสอบว่าแต่ละศูนย์มีนักเรียน เท่าไหร่ แต่หากจับได้ว่าศูนย์มีการทุจริตก็จะสั่งปิดทันที 
 
 
 
นอกจากนี้การปิดกิจการมียังมาจากการ ที่ผู้ประกอบการมองว่าเป็นการทำงาน ที่หนักเกินไป โดยคุมองจะกำหนดจำนวนผู้สอนให้สัมพันธ์กับจำนวนนักเรียนโดยนักเรียน 30 คนต้องมีผู้สอน 1 คน เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจ สอบการบ้าน ประเมินว่าเด็กแต่ละคนเหมาะกับหลักสูตรการเรียนแบบไหน และหากนักเรียนไม่เข้าใจต้องเข้าไปช่วยสอนให้ได้ 
 
ส่วนปริมาณนักเรียนของคุมองที่ผ่านมามีการโตขึ้นเป็นเท่าตัวตลอดเวลาจนเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมาการเติบโตเริ่มมีปริมาณคงที่ เพราะฐานของนักเรียนเริ่มมีปริมาณกว้างขึ้น จากนักเรียน 7 คนในปี 2539 จนถึงปัจจุบันบริษัทมีนักเรียนประมาณ 30,000 คนที่มีการเรียนอย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราการเพิ่มของปริมาณนักเรียนในแต่ละปีมีประมาณ 5,000-6,000 คน โดยค่าเล่าเรียนของคุมองจะมี 2 ระดับ คือถ้าเรียนระดับความรู้ต่ำกว่าชั้นประถม 6 จะต้องเสียค่าเรียน 1,284 บาทต่อวิชาต่อเดือน
 
ส่วนเรียนระดับมัธยมต้นขึ้นไปจะเสียค่าเรียน 1,391 บาทต่อวิชาต่อ เดือน ซึ่งอัตราค่าเรียนของคุมองจะเท่ากันทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คุมองมีเป้าหมายจะขยายแฟรนไชส์เพิ่มปีละ 50 สาขา เป็น 1,000 สาขาภายใน 10 ปี 
 
อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
156,874
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,390
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,179
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,424
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,427
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,590
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด