ดาวเด่นแฟรนไชส์    แฟรนไชส์ทูดาริเจ้าของคือ เอ๊ะ ศศิกานต์
7.8K
1 เมษายน 2559
แฟรนไชส์ทูดาริเจ้าของคือ เอ๊ะ ศศิกานต์ 


นับวันอาหารเกาหลีจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนในบ้านเรามากยิ่งขึ้น เห็นได้จากจำนวนร้านอาหารเกาหลีที่เพิ่มจำนวนในแต่ละปี  โดยเฉพาะในห้างใหญ่ๆทั้งในกทม.และต่างจังหวัด แสดงว่าคนไทยนิยมชอบอาหารแดนกิมจิในปริมาณที่สูงขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งเราๆท่านๆอาจจะคุ้นชินกับอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีกันเป็นอย่างดี และเชื่อว่าหลายคนคงเคยลิ้มชิมรสกันมาแล้วอย่างแน่นอน

คุณศศิกานต์ อภิชาติวรศิลป์   หรือคุณเอ๊ะ  CEO ของบริษัท ทูดาริ เอฟบีซี จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ทูดาริ จากประเทศเกาหลี จะมาเล่าให้ฟังว่าแบรนด์นี้เติบโตมากน้อยแค่ไหน และในอนาคตวางแผนไว้อย่างไรบ้าง

ก่อนอื่นคุณเอ๊ะให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับซอสปรุงรส ทั้งผลิตและส่งออก  โดยเกาหลีเป็นหนึ่งในประเทศที่นำเข้า  กระทั่งต่อมาได้รู้จักกับผู้บริหารบริษัท เอฟบีซี อีวอนกรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ทูดาริ ในประเทศเกาหลี  จากนั้นบริษัททูดาริ เอฟบีซี จำกัด ตกลงเซ็นสัญญาร่วมทุนกันกับบริษัท เอฟบีซี อีวอนกรุ๊ป ในปี 2553  และเปิดร้านแรกในไทยในปี 2554   เป็นการทำธุรกิจร่วมกันมา 5  ปีแล้ว เฉพาะในเมืองไทย ตอนนี้มีอยู่ รวม 16 สาขา เป็นกิจการของทางบริษัท เอง 10 สาขา ส่วนอีก 6 สาขา เป็นรูปแบบการขายสิทธิ์แฟรนไชส์


เกาหลีมีเกือบ 2000 สาขา

เธอว่า ก่อนที่จะทำร้านอาหารเกาหลีเคยไปเที่ยวเกาหลี รู้สึกว่าอาหารที่เกาหลีไม่อร่อย หรืออาจจะเป็นเพราะไปกับทัวร์ที่พาไปกินร้านไม่อร่อย แต่พอได้ไปทานร้านอาหารทูดาริที่เกาหลี ช่วงหลังจากทางบริษัท เอฟบีซี อีวอนกรุ๊ป ตกลงร่วมลงทุนกัน ยอมรับว่าชิมอาหารที่นั่นแล้วชอบมาก อร่อย ถูกปากคนไทย  ซึ่งเป็นอาหารรสจัด และมีซอสให้เติมด้วย มีเครื่องปรุงหลายชนิด จึงคิดว่าน่าจะถูกปากคนไทย

“ร้านทูดาริที่เกาหลีมีเกือบ 2000 สาขา จีนเกือบ 200 เวียดนาม อินโดนีเซียประเทศละ 1 สาขา แต่ที่ไทย ทางเกาหลีค่อนข้างแฮปปี้กับเรามาก เพราะเราขยายให้เขาดี  ถ้าไปที่เกาหลีจะไม่ได้เห็นเป็นร้านอาหารแบบบ้านเรา  เป็นร้านเหล้าร้านปิ้งย่าง ที่เน้นขายเบียร์ ขายโซจู ซึ่งคนจะไปนั่งทานตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง ตี 3 แต่คนไทยไม่ได้มีวัฒนธรรมการดื่มเหล้าแบบนั้น จึงต้องปรับให้เข้ากับคนไทย  และต้องเอาขึ้นห้างฯ “

 

 
ช่วง5 ปีมานี้ คุณเอ๊ะบอกว่า ลูกค้าให้การตอบรับอย่างดี ทางบริษัทเองก็คาดไม่ถึง  เนื่องจากมีลูกค้าสนใจจะซื้อแฟรนไชส์กันเยอะมาก  ดังนั้นทางบริษัทจึงตัดสินใจขายแฟรนไชส์ปี 2557  ทำให้มีการขยายสาขามากถึง 6 สาขา ในช่วง 6 เดือนหลังของปีที่แล้ว เรียกว่า ประสบความสำเร็จมาก  เป็นการโตแบบก้าวกระโดด

สำหรับปีนี้เธอว่า ยังเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างในภาคเหนือก็ได้ “คุณอัญชลี ลิ้มเล็งเลิศ” ซึ่งจะช่วยดูแลในส่วนของภาคเหนือ  ที่ผ่านมาเปิดไปแล้วที่ห้างเมญ่าชั้น 4 จ.เชียงใหม่  และจะไปเปิดที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ต ในช่วงกลางปีนี้  ขณะที่ทางดร.ประมวล… คนดูแลสาขาอยุธยา ก็สนใจที่จะเปิดสาขาอื่นๆ ในภาคกลางอีกเหมือนกัน เพราะพอเปิดร้านแรกที่อยุธยาซิตี้พาร์คประสบความสำเร็จก็จะอยากจะเปิดสาขาอื่นต่อไปอีกเรื่อยๆ  ซึ่งทางบริษัทมีนโยบายจะขายแฟรนไชส์ในต่างจังหวัด  ส่วนในกทม.นั้นเป็นสาขาของบริษัทเอง

พูดถึงคู่แข่งร้านอาหารเกาหลีในท้องตลาด  คุณเอ๊ะแจกแจงว่า  ก่อนหน้านี้จะเห็นว่าร้านอาหารเกาหลีมีน้อยมาก ที่เข้าห้างอาจจะมีแค่บางแบรนด์  โดยทาดูริเป็นแบรนด์ต้นๆ ที่นำเข้าห้างฯ จากนั้นก็มีหลายเจ้าเข้าห้าง  ถือว่า ปี 2557 นี้เป็นปีที่คู่แข่งโผล่ขึ้นมาค่อนข้างเยอะ บริษัทจึงต้องถีบตัวเองต่อไปอีกในเรื่องของการขยายสาขา หรือการลงสื่อ ซึ่งในเดือนธันวาคม– มกราคมที่ผ่านมามีแคมเปญใหญ่ที่ร่วมกับบัตรเครดิตของSCB คือ มีชิงโชคไปเที่ยวเกาหลี จำนวน 6 ที่นั่งด้วยกัน จะมีแคมเปญมาให้เล่นตลอด  เป็นการโฟกัสไปที่เรื่องการตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนที่เป็นออนไลน์ หรือออฟไลน์

อย่างไรก็ตามคุณเอ๊ะระบุว่า คู่แข่งโดยตรงที่เป็นร้านอาหารเกาหลี ยังไม่มี เพราะทูดาริเป็นเรสเตอรอง ที่ไม่ได้ขายไก่ทอดอย่างเดียว หรือว่ามีหม้อไฟอย่างเดียว แต่ร้านมีอาหารที่หลากหลาย มีเมนูกว่า 100 เมนู ที่หมุนเวียนมาให้เลือก  และจะมีเมนูใหม่ออกมาแทบจะทุกไตรมาส  ถือเป็นจุดแข็งของร้าน ซึ่งทางบริษัทแม่ที่เกาหลีคอยซัพพอร์ตเต็มที่


สำหรับเมนูยอดฮิตและสร้างชื่อให้กับร้านทูดาริ  คือ เมนูหม้อไฟเกาหลี ชินดังดงต๊อกปกกิ  ซึ่งเป็นเส้นชินราเมง แล้วก็ต๊อกปกกิ และก็มีอีกหลายอย่าง เป็นสเปเชี่ยลต๊อกปกกิ แบบที่เป็นพรีเมียม แบบที่เป็นซีฟู้ดให้ลูกค้าได้เลือก เรียกว่า มีความหลากหลายมากขึ้น แล้วก็มี topping ที่เป็นลูกชิ้น โน่น นี่ นั่น อีกมากมาย เรียกว่า เป็นการต่อยอดจากตัวที่เมนูขายดี

นอกเหนือจากเมนูนี้แล้วก็มีข้าวยำ “บิบิมบับ"  ที่เสิร์ฟมาในชามหินร้อนๆ ลักษณะข้าวต้องไปคลุก หรือซุปกิมจิก็จะเป็นเมนูที่คนเห็นจากซีรีส์เกาหลี  อีกอย่างคือบะหมี่ปากดำ ที่เห็นนางเอกทานแล้วพระเอกต้องมาเช็ดปากให้ คนก็อยากจะมาลองชิม ซึ่งเมนูพวกนี้ได้จากกระแสภาพยนตร์เกาหลีพอสมควร

คุณเอ๊ะพูดถึงเป้าหมายการขายแฟรนไชส์ว่า  จะเน้นการขายแฟรนไชส์ในต่างจังหวัด  โดยจะเลือกคนที่มีศักยภาพที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องเงินทุนอย่างเดียว เพราะบางครั้งวิธีคิด หรือสไตล์ในการทำงาน ต้องไปด้วยกันได้ เนื่องจากการทำธุรกิจแบบแฟรนไชส์เหมือนกับมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่ม เป็นความความผูกพันระยะยาว จึงต้องเลือกลูกค้าแฟรนไชส์ค่อนข้างมาก   ซึ่งนอกจากจะต้องมีศักยภาพในเรื่องของเงินทุน การบริหารแล้วยังต้องมีความใส่ใจด้วย เพราะร้านอาหารมีเรื่องจุกจิก เช่น เรื่องโอเปอเรชั่น การสั่งของ การบริการลูกค้า ทุกอย่างกลับมาเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์

“เรื่องโลเกชั่น เราแนะนำให้อยู่ในห้างชั้นนำของจังหวัดนั้นๆ เพราะการทำร้านอาหาร เรื่องระบบเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้างานระบบไม่เรียบร้อยก็จะทำยาก คือ อยากได้ห้างฯที่เป็นมือโปรในการทำงาน ในส่วนของค้าปลีกเอง ห้างฯที่ดีจะมีคนมาให้เราอยู่แล้ว  ซึ่งจะง่ายกว่าที่ต้องไปอยู่นอกห้างฯ จะเกิดความเสี่ยงมากขึ้นว่า จะมีคนหรือไม่ หรือจะประสบความสำเร็จไหม แต่ถ้าในห้างฯ ทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว”

แม้ว่าการตั้งร้านในห้างสรรพสินค้าจะเป็นทำเลที่ดี  แต่ก็ต้องดูมุมอีกด้วยว่าเหมาะแค่ไหน มีคนเดินผ่านไปผ่านมาหรือไม่ อย่างที่คุณเอ๊ะบอก  “ ทำเลในห้างฯ ก็สำคัญ ต้องดูด้วย อย่างถ้าบริเวณสุดทางตันจะอันตราย เพราะคนจะไม่เดิน  ในห้างอย่าคิดว่า ตรงไหนก็ได้ อย่างร้านทูดาริสาขาอยุธยาซิตี้พาร์ค โชคดีตรงที่ว่าอยู่ทางเข้าหลัก ซึ่งโดดเด่นเห็นได้ชัด  และเป็นโซนต่อขยาย จอดรถง่าย จอดรถปุ๊บก็สามารถเดินเข้าร้านได้เลย”

สำหรับค่าแฟรนไชส์ ถ้าเป็นต่างจังหวัด คิดราคา 1 ล้านบาท แต่ถ้าพูดถึงรวมเงินลงทุนทั้งหมด ผู้ประกอบการน่าจะเตรียมไว้สัก 6 ล้าน รวมเงินสำรองแล้ว  ทั้งนี้ส่วนที่บริษัทดูแลให้จะคิดเป็นตารางเมตรเช่น ตกแต่ง ทำครัว บริษัทจะเป็นผู้ทำให้ทั้งหมดจนกระทั่งส่งมอบให้ลูกค้า จากนั้นลูกค้าก็จะซื้อของจากบริษัทในเรื่องของวัตถุดิบ

ด้วยราคาค่าแฟรนไชส์หลักล้านนี่เอง ทำให้สามารถกลั่นกรองผู้ประกอบการได้ระดับหนึ่ง อย่างที่คุณเอ๊ะบอก  “คนที่มาขอซื้อแฟรนไชส์ที่ไม่พร้อมจะถอยไปเอง ด้วยเงินทุน หรือ โลเกชั่น อย่างที่เชียงใหม่ เราไปดูหลายห้าง แล้วตัดสินใจร่วมกัน คือ บริษัทก็ต้องไปสำรวจด้วย ไม่ใช่ว่าคนที่ซื้อแฟรนไชส์เลือกสถานที่มา แล้วเบริษัทจะตกลงตามนั้นทั้งหมด เพราะท้ายที่สุดถ้าขายไม่ดีก็จะมาโทษบริษัท เพราะฉะนั้นต้องคิดด้วยกันตั้งแต่แรกทั้งการเลือก ทำเล เลือกห้างฯ และงบประมาณ”


 ไม่กี่ปีคืนทุนแล้ว


ในการลงทุนซื้อแฟรนไชส์ของแบรนด์นี้  CEO ของบริษัท ทูดาริ เอฟบีซีฯ ระบุว่าระยะคืนทุน ไม่เกินปีครึ่ง แต่ถ้าขายดีแบบสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ไม่ถึงปีก็คืนทุนแล้ว  ซึ่งเป็นการลงทุนน้อยมาก เพราะพื้นที่แค่ 36  ตารางเมตร และทำเป็น express ซึ่งราคาจะไม่เท่ากับสยามพารากอน หรือเซ็นทรัลเวิลด์ อย่างเมนูหม้อไฟ ที่สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์กตกชุดจะ 399 บาท เพราะว่าหม้อใหญ่ แต่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวเป็นไซส์เล็กลง ราคาเลยเหลือแค่ 250 บาท เพราะฉะนั้นนักเรียนนักศึกษากินได้ กินง่าย ที่ตั้งเป็น express เพราะอยากให้เป็นลักษณะ เสิร์ฟเร็วและกินง่าย

ปัญหาหนึ่งที่บรรดาแฟรนไชส์ประสบพบเจอคือ เรื่องคุณภาพ ประเด็นนี้คุณเอ๊ะบอกว่า  เรื่องQC ของแฟรนไชส์  บริษัทคุมมาตั้งแต่โรงงานที่จะแพ็คมาเป็นที่ๆ เพราะฉะนั้นจำนวนหรือปริมาณบริษัทสามารถคุมได้ แต่เรื่องรสชาติอาจจะมีนิดหน่อย อยู่ที่พ่อครัวคนสุดท้ายที่ผัดแห้งหรือไม่แห้ง แต่ส่วนมากจะควบคุมด้วยสินค้าที่ส่งมา  นอกจากนี้บริษัทมีทีมงานที่จะแอบไปชิมโดยที่ร้านไม่รู้ว่า เป็นทีมงานของบริษัท  ซึ่งต้องคอยเซ็คสอบผ่านหรือไม่ในเรื่องของการบริการ หรือ ปริมาณอาหารให้คงที่ไหม  บริษัทจะมี QC ตรงนี้ด้วย

คัมภีร์เศรษฐี คุณเอ๊ะเล่าถึงแผนของทูดาริในไทยปีนี้ว่า  จะเปิดที่ห้างเซ็นทรัลบางใหญ่ เซ็นทรัลแอร์พอร์ต ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และที่เทอมินอล 21 ตรงชั้น 5 ใกล้กับฟู้ดคอร์ด ซึ่งที่เทอมินอลอาจจะได้เห็นคอนเซ็ปต์ใหม่ เพราะด้วยพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ อาจจะมีการปรับคอนเซ็ปต์ และในส่วนของราคาอาจจะมีการผสมผสานกัน คล้ายๆ กับที่อยุธยาซิตี้พาร์ค แต่อาจจะมีบางเมนูที่เพิ่มเข้ามา

ในส่วนของการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC คุณเอ๊ะบอกว่า ห้างฯในลาวโทรศัพท์มาติดต่อส่งอีเมล์มาอยากให้ทูดาริไปเปิดที่ลาว และก็มีคนสนใจซื้อแฟรนไชส์ไปที่พม่า แต่ส่วนตัวมองว่า ในประเทศไทยยังสามารถโตอีกได้เยอะ ดังนั้นจึงขอโตในไทยก่อนดีกว่า ขอโตแบบช้าๆ แต่มั่นคงดีกว่า  อย่างไรก็ตามลาว พม่า ก็เป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะเพิ่งเปิดประเทศ น่าจะพร้อมรับอะไรใหม่ๆ ค่อนข้างดี


 
“เอ๊ะสนใจประเทศลาวกับพม่ามาก แต่ยังไม่กล้าที่จะไปลงทุน เพราะพม่ายังไม่แน่ใจเรื่องการเงินที่สามารถเอาเงินออกนอกประเทศได้ไหม แม้กระทั่งที่ลาวเองก็ตาม คงต้องรอให้เปิด AEC สักพัก ให้มันนิ่งก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ”

กับคำถามที่ว่าการเป็นดารานักแสดงช่วยเรื่องการทำธุรกิจมากน้อยแค่ไหน คุณเอ๊ะตอบว่า ช่วยได้เยอะไม่ว่าจะดิวงานกับใครก็เหมือนกับลูกค้ารู้จักอยู่แล้ว ซึ่งจะมีความไว้ใจกัน เพราะการดิวธุรกิจใหม่ต้องมีความไว้วางใจ แรกๆ เจอกันอาจจะมีข้อสงสัยเช่น เรื่องการเงินโอเคไหม แต่พอลูกค้าได้เห็นหน้า  ทุกอย่างก็ง่าย ทำให้เกิดความไว้วางใจกัน พูดคุยกันง่ายขึ้น แต่ในท้ายที่สุดขีดเส้นใต้เรื่องของธุรกิจ ต่อให้เริ่มต้นง่าย ถ้าทำต่อไปก็ต้องเป็นเรื่องของมืออาชีพ ที่สามารถทำให้คนยอมรับได้ แต่ตอนนี้พูดได้ว่าเป็นนักธุรกิจเต็มตัว เล่นละครเป็นงานอดิเรกเหมือนเป็นการผ่อนคลายมากกว่า

นักธุรกิจหญิงรายนี้พูดถึงหลักในการทำธุรกิจว่า  โชคดีที่เติบโตในครอบครัวที่ทำธุรกิจ ทำให้ซึมซับมาเองโดยไม่รู้ตัว พอถึงวันที่มือทำจริงๆ ก็เหมือนมีโค้ชที่ดี คอยเตะให้เข้าที่เข้าทาง อย่างเรื่องการเงิน การวางแผน ซึ่งคุณพ่อจะเก่งเรื่องนี้มาก เลยได้ส่วนนี้มาจากคุณพ่อ หลักจริงๆ ในการทำธุรกิจขอตัวเอง คือ 1. เรื่องความซื่อสัตย์  จะไม่บอกคู่แข่งไม่ดี หรือไปโจมตีเขา ถือเรื่องความถูกต้อง ความซื่อสัตย์ อย่างที่บอกธุรกิจแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่ทำกันยาว ถ้าไม่ซื่อสัตย์จะไปด้วยกันไม่ได้  ดังนั้นต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง และซื่อสัตย์กับลูกค้าที่เป็นแฟรนไชส์กับลูกค้าที่มาทาน ต้อง happy together ตามสโลแกนของร้าน คือ มีความสุขทั้งคนทำงานที่ส่งต่อไปถึงลูกค้า

นับเป็นนักธุรกิจสาวอีกคนที่มากความสามารถ อยากรู้ว่าอาหารที่ร้าน”ทูดาริ”  อร่อยเด็ดแบบที่คุณเอ๊ะโฆษณาหรือเปล่า ลองไปชิมกันดู

อ้างอิงจาก  siamedunews.com

ขอบคุณรูปภาพจาก  tudarithailand.com
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
157,519
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,645
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,650
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,807
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,558
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
55,082
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด