สมัยนี้สังคมถือว่าเป็นการแข่งขันในทุกๆ ด้านอย่างสูง ไม่เว้นแม้เด็กเล็กๆ แรกเกิดถึง 5 ขวบ ที่ผู้ปกครองเป็นผู้ต้องปรับตัวให้ทันยุค ส่งผลให้เกิดธุรกิจกิจกรรมเสริมพัฒนาการเด็กเล็ก “Gymboree Play & Music” ที่เป็นแฟรนไชส์ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดากว่า 300 แห่ง สำหรับในประเทศไทยเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2543 โดยบริษัท เพลย์ แอนด์ มิวสิค จำกัด และเริ่มขายแฟรนไชส์ในไทยกลางปี 2545 รวม 9 สาขาในปัจจุบัน

 

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย ผู้จัดการบริษัท เพลย์ แอนด์ มิวสิค จำกัด กล่าวถึง ธุรกิจศูนย์กิจกรรมเสริมพัฒนาการเด็กเล็กที่ Gymboree ว่า เป็นธุรกิจที่มุ่งเน้นไปที่เด็กอายุตั้งแต่ 0-5 ปี โดยทาง Gymboree จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กจากการเรียนรู้ผ่านการเล่น รวมถึงการให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกับเด็กด้วย ซึ่ง Gymboree ในไทยได้เปิดตัวมากว่า 4 ปี มีสาขารวม 9 สาขา ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับพรีเมี่ยมหรือลูกค้าระดับบีขึ้นไป รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่เล็งเห็นความสำคัญของ การเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกในช่วงก่อนเข้าโรงเรียน

 

Play Music Arts 3 กิจกรรมเสริมพัฒนาการ 

 

สำหรับกิจกรรมที่เป็นการเสริมพัฒนาการเด็กที่ Gymboree จะเน้นกิจกรรมใน 3 ส่วน คือ กิจกรรมการเล่น ดนตรี และศิลปะ แต่กิจกรรมที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของ Gymboree คือ กิจกรรมการเล่น ที่ยึดหลักการให้เด็กๆ ได้เล่นเพื่อเสริมทักษะและพัฒนาการ ที่จะใช้ห้องขนาด 130-150 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยเครื่องเล่นที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษจากประเทศสหรัฐฯ กว่า 40 ชิ้น ทั้งที่เป็นอุปกรณ์ที่ทำด้วยไม้และฟูก โดยในแต่ละชั้นเรียนจะมีกำหนดบทเรียนตามความเหมาะสม และจะเปลี่ยนทุก 2 สัปดาห์ 
 

 
 

กิจกรรมการเล่น

 

ส่วนกิจกรรมดนตรี ที่ทาง Gymboree ได้จัดให้มีขึ้นสืบเนื่องมาจากผลงานวิจัยในต่างประเทศที่กล่าวว่า เด็กที่ได้รับประสบการณ์ทางดนตรีจะมีพัฒนาการด้านภาษา การอ่าน และคณิตศาสตร์ เป็นอย่างดี โดยกิจกรรมจะมี 5 องค์ประกอบหลักคือ การฟัง การเปล่งเสียง การเคลื่อนที่ การเล่น และการสร้างสรรค์โดยผ่านชนิดของดนตรีที่ต่างๆ กันถึง 16 ชนิด ตั้งแต่ Rock, Jazz, Classic ไปจนถึง Reggae ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทุกๆ 3 สัปดาห์ ด้านกิจกรรมศิลปะ ถือเป็นกิจกรรมใหม่ล่าสุดที่ Gymboree ได้พัฒนาขึ้นและเริ่มนำเสนอในปี 2002 ซึ่งกิจกรรมศิลปะเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยเสริมพัฒนาการทั้งด้านจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กได้เป็นอย่างดี โดยผ่านทางกิจกรรมหลัก 5 ชนิด ได้แก่ การวาดภาพ การระบายสี การปั้น งานตัดปะ และงานพิมพ์ภาพ เป็นต้น 

 

“สำหรับกิจกรรมต่างๆ ของเรานั้น เราพยายามจัดหากิจกรรมที่เป็นการเสริมพัฒนาการเด็กให้มากที่สุด รวมถึงการให้เด็กมีกิจกรรมร่วมกับผู้ปกครองด้วย เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง โดยเราเชื่อว่าหากเด็กที่ได้เสริมพัฒนาการกับทาง Gymboree แล้ว เด็กจะมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์และสติปัญญาดี โดยเฉพาะเมื่อเด็กเข้าโรงเรียนอนุบาลครั้งแรกเด็ก จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนได้เร็ว ซึ่งที่ผ่านมาผู้ปกครองบางคนเมื่อพาลูกมาที่ Gymboree แล้ว ลูกร้องไห้ ก็ไม่พาลูกมาอีกเลย ซึ่งถือเป็นการไม่ให้โอกาสเด็กปรับตัว ซึ่งเราคิดว่าพ่อแม่น่าจะให้โอกาสลูกได้เรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆ บ้าง” นายพิเชษฐกล่าว 
 

 
 

คัดคนตั้งใจจริงร่วมขยายแฟรนไชส์ 

 

ทั้งนี้ในเรื่องของการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ นายพิเชษฐ กล่าวว่า ขณะนี้ Gymboree มีทั้งสิ้น 9 สาขาโดยเป็นแฟรนไชส์ 8 แห่ง และอีก 1แห่ง เป็นร้านที่ลงทุนเองถือเป็นร้านต้นแบบตั้งอยู่ที่ สุขุมวิท 39 ซึ่งค่าแฟรนไชส์รวมถึงการลงทุนในการเปิดร้านใช้เงินทุนประมาณ 5 ล้านบาท ใช้พื้นที่ประมาณ 250-300 ตรม.โดยจะเน้นที่ความตั้งใจจริงของผู้ที่สนใจ เนื่องจากธุรกิจนี้ผู้ประกอบการจะต้องมีความตั้งใจ และเข้าใจรูปแบบธุรกิจเป็นอย่างดี รวมถึงต้องมีเวลาไปดูแลธุรกิจของตนเองอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาผู้ที่สนใจร่วมแฟรนไชส์กับ Gymboree ส่วนใหญ่จะเป็นแม่บ้านที่เคยทำงานบริษัทจนถึงจุดอิ่มตัวมาก่อน และต้องการมีเวลากับลูกมากๆ จึงหันมาลงทุนกับธุรกิจนี้ 

 

นอกจากนี้แผนการตลาดในไทยในส่วนของ การขยายสาขาคาดจะให้ครบ 15 สาขา ภายใน5 ปี โดยเล็งการขยายสาขาไปตามจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา และหาดใหญ่เป็นต้น เพื่อรองรับลูกค้าในต่างจังหวัดที่มีความสนใจ 

 

แม้ Gymboree จะเป็นธุรกิจที่ค่อยๆ เติบโตตามกระแสสังคม แต่ก็ถือ้ป็นนิมิตหมายที่ดีที่ขณะพ่อแม่ไทย เริ่มหันมาสนใจกับกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กเล็กกันมากขึ้น เชื่อแน่ว่าในอนาคตธุรกิจนี้จะต้องได้รับ การตอบรับเป็นอย่างดีกับพ่อแม่ยุคใหม่อย่างแน่นอน 

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์