ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ใครจะคิดว่า จากวิกฤตของชีวิต ทำธุรกิจโรงกลึงผิดพลาดมีหนี้ 5-6 ล้านบาท จากเถ้าแก่โรงกลึง กลายเป็นพ่อค้าตลาดนัด หิ้วหม้อต้มแซบกระดูกหมูสูตรเด็ดของคุณพ่อเช่าพื้นที่เล็กๆ เปิดขายเล้งต้มแซบ เพียงเพื่อหวังว่าพอจะมีรายได้นำไปใช้ภายในครอบครัวระหว่างช่วงที่วิกฤตยังหาเงินใช้หนี้ไม่ได้

 

นายปกรณ์ ปรีชาวิทย์ เจ้าของร้าน

 

จากวันนั้น พ่อค้าขายเล้งหม้อเล็กๆ ถ้าขายหมดมีรายได้ 3,000 บาทต่อวัน หรือถ้าขายไม่หมดมีรายได้หลักพันบาทต้นๆ แต่วันนี้เขากลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน ปลดหนี้ 5-6 ล้านบาทได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี กับการขายเล้งต้มแซบ ภายใต้แบรนด์ “ซุปเปอร์เล้ง นายป้อม” หลายคนคงอยากรู้ว่า แล้วเขาขายได้วันละเท่าไรทำไมปลดหนี้ 5-6 ล้านบาทได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว 

 

คำตอบคือ วันละ 40,000-70,000 บาทต่อสาขา และวันนี้มี 15 สาขา ลองคำนวณกันดูว่าเขามีรายได้เท่าไรต่อวัน และถ้าต่อเดือน และต่อปี คิดแบบต่ำสุดคือ 40,000 บาท x 356 วัน = 14,600,000 บาทต่อสาขา และ 15 x 14,600,000 = 219,000,000 บาทต่อปี 

 

ข้าวหมูแดง เมนูที่ขายคู่กับเล้ง

 

 มาทำความรู้จักกับเศรษฐีคนใหม่ เจ้าของ ซุปเปอร์เล้ง นายป้อม คือ “นายปกรณ์ ปรีชาวิทย์” เป็นลูกชายของ “นายป้อม ปรีชาวิทย์” ซึ่งเป็นเจ้าของสูตรตัวจริง ซุปเปอร์เล้ง นายป้อม นั่นเอง 

 

คุณปกรณ์บอกว่า เขาได้รับการถ่ายทอดสูตรการทำเล้งมาจากพ่อ ซึ่งเปิดร้านขายข้าวหมูแดง หมูกรอบ อยู่ที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ย่านริมคลองรังสิต นครนายก ซึ่งเมนูเล้งที่ร้านของพ่อนั้นเกิดมาจากที่ร้านของพ่อขายข้าวหมูแดง หมูกรอบ พ่อคิดว่าน่าจะมีน้ำซุปให้ลูกค้า ก็เลยลองทำน้ำซุปที่เป็นต้มแซบ หรือเล้ง มาเสิร์ฟลูกค้า ปรากฏว่า ลูกค้าชื่นชอบกันมาก จากเดิมที่เป็นร้านข้าวหมูแดง หมูกรอบธรรมดา คนไม่เยอะ แต่พอจัดเมนูเล้งสามารถเรียกคนเพิ่มขึ้นมาจนเป็นที่รู้จักในย่านนั้น

 

เมนูเล้ง แซ่บกระดูกหมู

 

“คุณปกรณ์” เล่าว่า ที่ตนมาขายเล้ง เกิดมาจากเมื่อ 3 ปีก่อนได้ลาออกจากงานประจำ พ่อ แม่อยากให้มาทำกิจการโรงกลึง ครั้งนั้นคิดการใหญ่ หวังว่าถ้าไม่ลงทุนเครื่องจักร โอกาสที่จะสู้กับคู่แข่งคงเป็นไปได้ยาก ก็เลยตัดสินใจซื้อเครื่องจักรมาลงเพิ่ม ลงทุนไปกว่า 5-6 ล้านบาท ซึ่งหวังว่าการที่เราลงทุนเพิ่มจะต้องมีออเดอร์หลักล้านบาท แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะการแข่งขันสูงมาก

สุดท้ายก็ขาดทุนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ตนเองกับภรรยาก็เลยมองว่าถ้าเราไม่หารายได้มาเพิ่มคงจะลำบากแน่ ก็เลยเอาต้มแซบ หรือเล้ง สูตรของพ่อไปลองขายที่ตลาดนัด ครั้งแรกทำไปหม้อเล็ก เช่าพื้นที่เล็กลองขาย

ซึ่งก็ขายหมด ได้เงินมา 3,000 บาท แต่พอดีตลาดปิดตัว คนไม่มี เราก็เลยต้องเลิกไปด้วย และมาหาที่ใหม่ ได้ที่แห่งที่ 2 ใกล้บ้าน คือ มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรีคลอง 6 รังสิต นครนายก เปิดตลาดนัดภายในมหาวิทยาลัย ที่เลือกที่นี่เพราะมองว่ามีนักศึกษาเยอะ ของกินน่าจะขายได้ และที่นี่เอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัดสินใจขายเล้งอย่างจริงจังเพราะขายดีมาก

 

บางสาขา ต้องต่อคิวกันแบบนี้

 

จากวันแรกๆ ทำหม้อเล็กขายได้ 3,000 บาท ผ่านไป 2 อาทิตย์ทำหม้อใหญ่ขึ้น ขายได้ 7,000 บาท และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนถัดมาขายได้วันละ 15,000 บาท บางวันขายได้ถึง 20,000 บาท 

 

ทั้งนี้ จากความสำเร็จในตลาดที่มหาวิทยาลัยราชมงคลฯ เป็นตัวจุดประกายว่าต้องขยายสาขาเพิ่ม และมองที่ตลาดนัดกลางคืน เพราะเป็นตลาดที่คนเดินเยอะ และเปิดแห่งที่ 2 ที่ตลาดหัวมุม เกษตรนวมินทร์ แต่เดือนแรกไม่เป็นอย่างที่คิด ร้านอื่นๆ คนแน่นทุกร้าน แต่ร้านเรากลับไม่มีคนเลย ขายได้วันละ 1 พันกว่าบาท อยู่เกือบ 1 เดือน กำลังจะเลิกวันสุดท้าย ปรากฏว่าคนแน่นร้าน วันนั้นขายได้หมื่นกว่าบาท

ซึ่งสาเหตุที่คนมากินกันเยอะก็เพราะมีเว็บไซต์แนะนำอาหารมากินและชอบ ก็เลยนำไปเขียนรีวิว จึงเป็นจุดพลิกผันที่ว่าจะเลิกกลับคนแน่นร้านทุกวัน ปัจจุบันตลาดนี้เคยทำยอดขายได้มากถึง 1 แสนบาทเลยทีเดียว ปัจจุบันสาขานี้ก็ยังคงเป็นสาขาที่ทำรายได้มากที่สุด ไม่ต่ำกว่าคืนละ 50,000-70,000 บาท 

 

 

 

หลังจากประสบความสำเร็จในสาขาที่ 2 พอเริ่มมีเงินขยายสาขาเพิ่ม โดยเป็นการลงทุนเองทั้งหมด ไม่ได้ขายแฟรนไชส์ แต่เป็นลักษณะให้ญาติๆ มาลงทุนร่วม ตอนนี้ไปตลาดกลางคืน ส่วนใหญ่จะได้เห็น ร้านซุปเปอร์เล้ง นายป้อม ซึ่งมีอยู่ถึง 15 สาขา ภายในระยะเวลา 2 ปี แต่ละสาขามียอดขายต่อคืนไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท และถ้าดูจากตัวเลขคงไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะปลดหนี้ได้ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนจากการลงมาขายซุปเปอร์เล้งฯ ในครั้งนี้

 

สาขานี้ เปิดในปั้มน้ำมัน

 

อย่างไรก็ตาม ส่วนของการขายแฟรนไชส์ ตอนนี้ยังไม่พร้อม และอยากจะขยายธุรกิจในกลุ่มของญาติๆ ก่อน เพราะดูแลได้ง่าย ส่วนการขายแฟรนไชส์ เป็นเรื่องของอนาคต

 

 

 

นอกจากนี้ ในส่วนของตลาดกลางวัน ได้จับมือกับทาง ปตท. และบางจาก เตรียมนำซุปเปอร์เล้ง นายป้อม เข้าไปเปิดในปั๊ม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าตลาดกลางวัน เพราะเป็นตลาดที่ยั่งยืนกว่า ตลาดกลางคืน

 

ร้านแรก เปิดแบบนี้ ที่ ม.ราชมงคล รังสิตนครนายก คลอง 6

 

ทำไม “ซุปเปอร์เล้ง นายป้อม” ถึงประสบความสำเร็จ อย่างแรก เมื่อเป็นอาหารก็ต้องรสชาติดี และเขาบอกว่า เขาเป็นคนแรกที่ทำเล้งแบบมีเนื้อติดกระดูกเยอะ เพราะเดิมเล้งทั่วไปจะมีเนื้อติดกระดูกน้อย แต่ของเขาให้เนื้อเยอะ ในชามใหญ่ขายราคาชามละ 80 บาท สร้างความคุ้มค่าให้ลูกค้า ซึ่งเป็นจุดขายที่ทำให้ลูกค้าแวะเวียนมากินเล้งของ ซุปเปอร์เล้งนายป้อม และเป็นความสำเร็จของหนุ่มคนนี้ในวัยเพียง 29 ปี

 

 

 

สนใจโทร. 08-6666-6049


อ้างอิงจาก  ผู้จัดการออนไลน์