วิดีโอ อีซี่ ขยายร้านสร้างความรู้จัก
วิดีโอ อีซี่ เร่งเปิดสาขาให้ได้อย่างน้อย 4 สาขา/เดือน หรือ 50 สาขา/ปี เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก มุ่งเปิดในทำเลดีระดับเกรดเอ-ซี พร้อมให้บริการติดต่อเรื่องแผ่นภาพยนตร์ให้กับ แฟรนไชซี่โดยตรงกับค่ายหนัง
พจนีย์ ใสอีเม้ง Franchise Coordi-nator บริษัท วิดีโอ อีซี่ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ "วิดีโอ อีซี่ " ว่าเป็นแฟรนไชส์ร้านวิดีโอ ให้เช่าจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 500 สาขาทั่วโลก เปิดในประเทศนิวซีแลนด์, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย ฯลฯ
ร้านวิดีโอ อีซี่ ในไทยบริษัทได้รับการแต่งตั้งจากวิดีโอ อีซี่ (ออสเตรเลียแอนด์นิวซีแลนด์) ให้เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ในประเทศไทย และเริ่มขายแฟรนไชส์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2542 จนถึงปัจจุบันนี้บริษัทมีสาขาทั้งหมด 136 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นสาขาของบริษัท 12 สาขา, สาขาของแฟรนไชซี่ 60 สาขา ส่วนที่เหลือจะเป็นสาขาที่ร่วมทุนและเครือข่ายร้านวิดีโอที่มีความสนใจ เข้าร่วมกับธุรกิจกับบริษัท ซึ่งผู้ร่วมทุนต้องถือหุ้น 49% ส่วนบริษัทจะถือหุ้น 51%
ปัจจุบันตลาดร้านวิดีโอให้เช่า ถือว่ามีการ เติบโตอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากธุรกิจนี้มีผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำให้มีสินค้าหมุนเวียนเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มเป้าหมายของร้านวิดีโอให้เช่าส่วนใหญ่จะเป็น กลุ่มที่ฐานะปานกลางจนถึงระดับล่าง เพราะกลุ่มเหล่านี้นิยมการเช่าภาพยนตร์มาชมที่บ้านมากกว่าการ ไปชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์ ด้วยเหตุผลที่ราคาถูกกว่าและสามารถชมได้ทั้งครอบครัว
อย่างไรก็ตามรูปแบบของร้านเช่าวิดีโอได้ปรับเปลี่ยนสินค้าจากวิดีโอเป็น วีซีดีและดีวีดีแทน ในอนาคตคาดว่า จะมีสินค้าประเภทดีวีดีมากขึ้นเนื่อง จากดีวีดีจะมีราคาถูกลงกว่า ปัจจุบันตลอดจนมีคุณภาพที่ดีกว่า
ส่วนคุณสมบัติของแฟรนไชซี่นั้นทางบริษัทฯ จะพิจารณเรื่องของ โลเคชั่นเป็นสำคัญ โดยจะต้องมีการ ประเมินพื้นที่ก่อนซึ่งบริษัทฯ ได้จัดแบ่งเกรดของพื้นที่เป็นระดับเอถึงซี สำหรับพื้นที่ระดับเอนั้น จะเป็นพื้นที่ที่มีชุมชนที่หนาแน่นที่สุด และไม่มีหรือมีคู่แข่งในพื้นที่น้อย อย่างไรก็ตามพื้นที่ระดับ เอส่วนใหญ่จะอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพฯ ส่วนผู้ที่มีทำเลที่ถูกจัดให้อยู่ในระดับต่ำกว่าซีนั้นจะไม่ได้รับการพิจารณา
โดยทางบริษัทฯ จะทำให้หน้าที่ ติดต่อกับทางค่ายภาพยนตร์เพื่อสั่ง แผ่นภาพยนตร์ที่จะออกใหม่ทุกสัปดาห์เข้าร้านทุกสาขา โดยแฟรนไชซี่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 25-30% ของรายได้สำหรับเลือกซื้อแผ่นภาพ-ยนตร์และจะสามารถเลือกสั่งซื้อแผ่นภาพ-ยนตร์กี่แผ่นก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าและความต้องการของตลาดบริเวณนั้น
บริษัทฯ ได้ประมาณการระยะเวลาของ
การคืนทุนว่าหากเป็นร้านขนาดเล็กจะสามารถคืนทุนได้ในเวลา 2-3 ปี ถ้าเป็นร้านขนาดใหญ่จะสามารถคืนทุนภายในเวลา 3-4 ปี (ต้องเปิดบริการประมาณ 12 ชั่วโมง/วัน)
ส่วนเป้าหมายของบริษัทฯคือ ต้องการเปิดให้ได้ประมาณ 4 สาขา/เดือน หรือประมาณ 50 สาขา/ปี เนื่องจากหากขยายสาขาได้มากขึ้นเท่าไร จะยิ่งส่งผลต่อการสร้างแบรนด์ "วิดีโอ อีซี่" เป็นที่รู้จักมากขึ้น
อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์