ดาวเด่นแฟรนไชส์    'เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้' ผลไม้สดๆถึงคนรักสุขภาพ
28K
11 เมษายน 2551
'เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้' ผลไม้สดๆถึงคนรักสุขภาพ

 
 
"เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้" เตรียมรุกตลาดรถเข็นผลไม้ สร้างความต่างตรงเคลื่อนที่สะดวก รวดเร็วด้วยมอเตอร์ไซค์พร้อมตู้ผลไม้พ่วงข้าง ขายความสะอาดของผลไม้คุณภาพ พร้อมน้ำผลไม้พร้อมดื่ม คาดว่าจะส่งรถออกสู่ตลาดปีนี้ 50 คัน 
 
นุชรี ปินะกาโน กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจเฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้ว่า เกิดจากการที่เธอและเพื่อนอีกสองคนคือ นภา รักเที่ยง และ ภัททิรา พลาพิวัติ มองว่าคนในสังคมปัจจุบันมีความรู้และดูแลสุขภาพมากขึ้น การทานผลไม้สดก็เท่ากับเป็นการดูแลสุขภาพโดยตรง ด้วยจุดนี้จึงได้ประยุกต์รถเข็นผลไม้แบบดั้งเดิมเป็นรถต่อพ่วงติดแบรนด์ "เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้" โดยรถพ่วงผลไม้นี้ได้รับการคิดค้น ออกแบบ และผลิต จากทางบริษัท ไทก้า มอเตอร์เซลส์ จำกัด ซึ่งถูกต้องตามกฎจราจร 
 
"เราสำรวจพบว่าคนทั่วไปรับประทานผลไม้กันแทบทุกวัน ดูจากตัวเองและเพื่อนรอบข้าง และยังสอบถามพ่อค้าแม่ค้าที่ขายผลไม้ในกรุงเทพฯ ได้ตัวเลขว่าคนๆ หนึ่งจะซื้อผลไม้ไม่ต่ำกว่าสองชิ้น/วัน ส่วนผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือมะม่วง รองลงมาเป็นสับปะรด แตงโม ฝรั่ง และแคนตาลูป ความที่สังคมไทยเวลามีน้อยลง การซื้อผลไม้จากรถเข็นจึงเข้ามาแทนที่การซื้อผลไม้แบบเป็นลูก และมีความหลากหลายกว่า" 
 
ราคาสินค้าของ "เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้" จะจำหน่ายในราคาชิ้นละ 12 บาท ซึ่งแพงกว่าร้านรถเข็นทั่วไป 2 บาท แม้ว่าผลไม้สดของ เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้ จะมีราคาที่แพงกว่าท้องตลาด แต่สิ่งที่ทำให้ เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้ เหนือกว่าคู่แข่งคือเรื่องของแพกเกจจิ้งที่สามารถป้องกันสิ่งปลอมปนได้ การคัดสรรผลไม้อย่างดี และความสะอาดความปลอดภัยที่ลูกค้าจะได้รับ ซึ่งหากเทียบกับเงินที่ต้องเพิ่มขึ้นสองบาทถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีผลกระทบมากนัก 
 
 
 
แพกเกจจิ้งของ เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้ นอกจากจะช่วยป้องกันฝุ่นละอองแล้วยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับ เรื่องของคุณค่าทางโภชนาการบอกเอาไว้ด้วย อย่างการทานฝรั่งจะได้รับวิตามินซีและวิตามินซีนี้ให้ประโยชน์กับร่างกายอย่างไร 
 
สำหรับน้ำผลไม้พร้อมดื่มนั้นจำหน่ายราคา 15 บาทขนาด 500 ml ซึ่งเป็นน้ำผลไม้ที่ผลิตขึ้นเองโดยใช้ผลไม้เกรดเดียวกันหมด และเป็นการผลิตแบบวันต่อวัน นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 
 
น้ำผลไม้พร้อมดื่มดังกล่าวมีส่วนผสมของผลไม้สดอยู่ 40% และมีให้เลือก 3 รส คือ ส้ม ฝรั่ง แครอท เนื่องจากได้มีการศึกษาตลาดก่อนที่จะผลิต ออกจำหน่ายพบว่าน้ำผลไม้ที่นิยมดื่มกันมากคือน้ำส้ม น้ำผัก และน้ำฝรั่ง 
 
 มีการจัดโปรโมชั่นด้วย ซึ่งจุดนี้ร้านผลไม้ทั่วไปไม่มี แต่การจัดโปรโมชั่นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของผลไม้ อย่างช่วงนี้ถ้ามีมะม่วงออกตลาดเยอะ ก็จะมีการโปรโมชั่น มะม่วงแบบซื้อสองแถมหนึ่งให้กับลูกค้า 
 
คุณสมบัติแฟรนไชซี่ของ เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้ นั้น หลักสำคัญคือจะต้องมีทำเลที่ไม่อยู่ในโซนเดียวกัน หรือภายใน ระยะทาง 10 กิโลเมตรจะสามารถมีรถพ่วงของ เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้ ได้เพียง 1 คัน นอกจากนี้ แฟรนไชซี่ยังต้องอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนดไว้คือจะต้องรับผลไม้และน้ำผลไม้ของ เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้ ไปจำหน่ายเท่านั้น เนื่องจากหากแฟรนไชซี่ซื้อผลไม้มาขายกันเอง จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องของมาตรฐานจะเปลี่ยนไป 
 
"อย่างมะม่วงถ้าเราบอกว่ามะม่วง 4 ขีดก็ต้อง 4 ขีดจริงๆ เรามีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน แต่ขณะนี้เรายังไม่มีการสรุปรายละเอียดตรงนี้อย่างแน่นอน แต่ที่แน่ๆ คือผลไม้ที่เห็นของเราจะต้องมีขนาดไม่เล็กกว่าคู่แข่งในท้องตลาดอย่างแน่นอน โดยแหล่งซื้อผลไม้จะมาจาก 2 แหล่ง คือตลาดไทยกับตลาดคลองเตย" 
 
 
 
ประมาณการยอดขายของ เฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้ จะจำหน่ายได้ 2,000 บาท/วัน/คัน ซึ่งจากการสำรวจรถเข็นผลไม้ทั่วไปจะจำหน่ายได้ประมาณ 1,400 บาทต่อวัน ส่วนการส่งสินค้าให้กับแฟรนไชซี่จะมีการแบ่งการส่งเป็นโซนๆ เพื่อให้แฟรนไชซี่ได้สินค้าในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งสินค้าจะต้องส่งถึงตัวแฟรนไชซี่ทุกรายในเวลาไม่เกิน 9 โมงเช้า นอกจากการส่งผลไม้ให้กับแฟรนไชซี่แล้ว ยังมีการส่งน้ำจิ้มแบบที่บรรจุเรียบร้อยแล้วให้กับแฟรนไชซี่โดยมีให้เลือก 4 อย่าง คือ พริกเกลือสด พริกป่น น้ำจิ้มบ๊วย น้ำจิ้มกะปิแห้ง ตามปริมาณการสั่งผลไม้ 
 
ส่วนปริมาณการสั่งสินค้าของแฟรนไชซี่จะต้องมียอดการสั่งไม่ต่ำกว่าวันละ 2,000 บาท โดยไม่จำกัดชนิดของผลไม้ แฟรนไชซี่ยังได้รับการอบรมเกี่ยวกับการจัดเรียงผลไม้ การแช่ผลไม้ อบรมหลักในการขาย และการพรีเซนสินค้าด้วย 
 
นุชรีคาดว่าจะเปิดจุดขายในปีนี้ได้ประมาณ 50 คัน ซึ่งภายในกรุงเทพฯ น่าจะมีรถเฮลท์ตี้ ฟรุ๊ตตี้ เต็มที่ได้เพียง 100 คันเท่านั้น แต่ช่วงแรกคงต้องมีพนักงานของตัวเองออกไปจำหน่ายระยะหนึ่งก่อน เนื่องจากต้องการดูในเรื่องของการตลาด และเรื่องของเส้นทางที่จะจัดให้กับแฟรนไชซี่ โดยรถขายของพนักงานจะต้องไม่ซ้ำซ้อนพื้นที่กับแฟรนไชซี่ แต่หลังจากที่ตลาดเริ่มติดแล้วจะหยุดขยายรถของตัวเอง เพราะต้องการเป็นแค่ศูนย์กระจายสินค้าให้กับแฟรนไชซี่ ซึ่งศูนย์กระจายสินค้าตั้งอยู่ที่เขตอ่อนนุช 
 
สนใจติดต่อธุรกิจได้ที่ 081-911-9020 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
157,522
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,645
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,650
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,812
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,558
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
55,082
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด