ร้านอาหาร “ไก่ย่างไม้มะดัน” ดิ้นฝ่ามรสุมไข้หวัดนก ดันแฟรนไชส์กู้วิกฤต เปิดทั้งรูปแบบร้าน และคีออส ตั้งเป้าคลุม 51 เขตทั่วกทม. ชี้ผู้รับแฟรนไชส์ กำไร 1,000 บ./วัน ยันไก่ชั้นเยี่ยมปลอดโรค 100% จากโรงงานมาตรฐานการันตี 

 

นายบุญโฮม วรสุม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปัน-เน-วีโน จำกัด เจ้าของร้านอาหาร “นายโฮม ไก่ย่าง” เปิดเผยที่มาของธุรกิจว่า ไก่ย่างด้วยไม้มะดัน เป็นอาหารขึ้นชื่อของ อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ มากว่า 70 ปี โดยไม้มะดัน จะขึ้นในที่ลุ่ม ชุบน้ำ ซึ่งไม้มะดันมีรสเปรี้ยวฝาด เมื่อมานำใช้หนีบไก่แล้วปิ้งไฟ จะเกิดกลิ่นหอม ทำให้ไก่แห้ง และไม่เหม็นคาว แต่เดิมชาวบ้านที่นี่จะทำกินขายกันเอง กระทั่งปี 2545 มีนายอำเภอท่านหนึ่งมาจัดระเบียบการผลิต และรวมกลุ่มชาวบ้านเป็นชมรม “ไก่ย่างไม้มะดัน” พัฒนาจนไก่ย่างไม้มะดัน เป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ระดับ 5 ดาว อีกทั้ง ได้เป็นหนึ่งในเมนูอาหารสำหรับเสิร์ฟผู้นำประเทศ ในประชุมเอเปก ณ กรุงเทพฯ ที่ผ่านมาด้วย 

 

สำหรับตนเองเป็นคนท้องถิ่น อยากนำไก่ย่างไม้มะดันมาเผยแพร่ในกรุงเทพฯ จึงเริ่มมาเปิดร้านอาหาร “นายโฮม ไก่ย่าง” บริเวณสี่แยกเหม่งจ๋าย เมื่อกลางปี 2546 เป็นร้านอาหารขายไก่ย่างไม้มะดันแห่งแรกของประเทศไทย ก่อนจะขยายสาขาสอง ที่แถวสุทธิสาร ซึ่งเริ่มแรกร้านอาหารได้ผลตอบรับดีมาก ยอดขายวันละ 400-500 ไม้ แต่นับจากเกิดวิกฤตไข้หวัดนกเป็นต้นมา ทำให้ยอดขายตกลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ 

 

ทั้งนี้ เพื่อแก้วิกฤตดังกล่าว จะขยายธุรกิจในลักษณะกึ่งแฟรนไชส์ โดยเปิดให้ผู้สนใจ มาติดต่อขอเป็นสาขา ซึ่งแบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่ 1.ร้านสาขา และ2. คีออส ซึ่งจะไม่มีการเก็บค่าแฟรนไชส์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่บริษัทจะมอบแบบแปลนของ “ร้านค้า” และ “คีออส” ที่ออกแบบไว้ ให้แก่ผู้รับแฟรนไชส์ นำไปลงทุนผลิตเอง รวมถึงบริหารธุรกิจเองทั้งหมด ส่วนบริษัทฯ จะทำหน้าที่ขายวัตถุดิบไก่สดหนีบด้วยไม้มะดันปรุงสำเร็จ ในราคาขายส่งไม้ละ 30 บาท ( ไก่ 1 ตัว แบ่งเป็น 4ไม้ ) ผู้รับ นำไปขายต่อ 40 บาท ได้กำไร 10 บาทต่อไม้ 

 

สำหรับวัตถุดิบไก่มาจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ปลอดจากโรคไข้หวัดนก ได้รับเครื่องหมายฮาลาล การันตี เป็นไก่ชนิด “สามสายพันธุ์” (ไก่บ้าน ผสมไก่เนื้อ) ซึ่งจะมีวิธีเลี้ยงแตกต่างจากไก่ฟาร์มทั่วไป กำหนดน้ำหนักไม่เกิน 1 .2 กิโลกรัม ทำให้ไก่เนื้อแน่น ไม่เหนียว 
 

 
 

นายบุญโฮม เปิดเผยอีกว่า จากการประเมินเชื่อว่า ผู้รับแฟรนไชส์แบบคีออส จะขายได้วันละ 100 ไม้ มีกำไร 1,000 บาทต่อวัน ทั้งนี้ ให้สิทธิ์ผู้ซื้อแฟรนไชส์ หาเมนูอาหารรอง มาขายเสริมเอง เพื่อเพิ่มกำไร สำหรับเป้าอยากขยายคีออสให้ได้อย่างน้อย 51 จุด ทั้งทุกเขตของกรุงเทพฯ ภายในปีหน้า ส่วนขยายในรูปร้าน ต้องประเมินจากผู้สนใจมาร่วมเป็นแฟรนไชส์อีกครั้ง 

 

แต่ทั้งนี้ มีแผนจะขยายร้านสาขาด้วยทุนของตัวเอง ให้คลุมทุกเขตของกรุงเทพฯ ภายในกลางปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อเงินทุน จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมฯ (เอสเอ็มอีแบงก์) คาดว่าใช้เงินทุนในการขยายสาขาทั้งหมดประมาณ 100 ล้านบาท 

 

“มันเป็นการสวนกระแส ผมคิดอย่างนักต่อสู้ ตอนนี้ ถ้าผมทำอาชีพขายไก่ย่างอย่างเดียว ผมก็ตาย ถ้าผมสู้ ยังมีสิทธิ์รอด เมื่อคนกำลังจะจมน้ำ ฟางเส้นเดียวผ่านมาก็ต้องคว้าไว้ก่อน ส่วนแนวโน้มผู้บริโภค ขึ้นอยู่กับภาครัฐ ว่าจะออกมาตรการเพิ่มความมั่นใจอย่างไร ส่วนเชื้อที่มีอยู่ในประเทศไทย ก็ต้องอยู่ที่รัฐบาลจะควบคุมดูแลอย่างไร ซึ่งแนวคิดของผม เชื่อว่า ไข้หวัดนก เป็นโรคที่ควบคุมได้ ซึ่งผมสู้ เพื่อทนรอให้รัฐบาลแก้ให้ได้” 

 

นายบุญโฮม เปิดเผยต่อว่า การขยายธุรกิจยังเป็นส่วนต่อยอดสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านจะมีรายได้จากการส่งไม้มะดัน เฉลี่ยไม้ละ 1.6 บาท อีกทั้ง เครื่องเทศ ในการหมักไก่ เช่น หอม และกระเทียม นำมาจาก จ.ศรีสะเกษ เช่นกัน ส่วนแรงงานในร้าน 60 เปอร์เซ็นต์มาจาก จ.ศรีสะเกษ และหากในอนาคตไก่ย่างไม้มะดัน เป็นที่นิยมของคนทั่วประเทศ จะเป็นการสร้างรายได้ยั่งยืนให้แก่ชาวศรีสะเกษ 

 

ทั้งนี้ บริษัท ฯ ยังจะออกสินค้าใหม่อีก 2 ตัว เพื่อช่วยเสริมกิจการ คือ “ซอสไก่ย่างไม้มะดัน” บรรจุขวด ซึ่งซอสดังกล่าว เป็นสูตรดั่งเดิมของ จ.ศรีสะเกษ ผ่านกระบวนผลิตที่สะอาดและทันสมัย และอีกชนิดคือ “น้ำเกสรบัวหลวง” มีทั้งแบบบรรจุขวด และแบบผงชง ซึ่งมีสรรพคุณ ช่วยบำรุงหัวใจ ทั้ง 2 ชนิด คาดว่าจะออกตลาดได้กลางปีหน้า โดยจะวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป 

 

 

ติดต่อ โทร.02-691-0312 

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์