'ทอมแอนด์ทีม' กาแฟสไตล์คาวบอย ตั้งเป้าขยายเกิน 30 สาขา เตรียมฟื้นชีพรูปแบบคีออสรุกห้างและโรงพยาบาล พร้อมเร่งเครื่องลุยเปิดร้านในปั๊มคิวเอทพันธมิตรหลัก เน้นกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัดเล็งแหล่งท่องเที่ยวหรือเมืองใหญ่ งัดกลยุทธ์โปรโมชั่นเด็ด‘ดูดวง-แข่งหมากรุก' พร้อมออกเมนูใหม่กาแฟและชาเขียวยอดฮิต 

 

วันวิสา วงษ์พรหม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทอม ทีม ฟู๊ดแอนด์ดริ๊งซ์ จำกัด ผู้ให้บริการร้านกาแฟ 'ทอมแอนด์ทีม' กล่าวว่า ด้วยความชอบในการทำธุรกิจ ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจอาหาร และต่อมาหันมาทำธุรกิจกาแฟโดยช่วงแรกเป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ ทำเป็นรูปแบบคีออสหรือมุมกาแฟในสนามไดร์ฟกอล์ฟประชาชื่น โรงพยาบาลเอกชนต่างๆ และห้างสรรพสินค้าได้แก่ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน โลตัส คาร์ฟูร์ แฟชั่นไอส์แลนด์ และทอปซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งต่อมามีการทยอยปิดตัวลง 

 

"หลังจากนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นรูปแบบร้านที่สวยงาม แล้วเจาะตลาดในปั๊มน้ำมันโดยเปิดสาขาแรกที่ปั๊มปิโตรนาส ซึ่งเป็นของประเทศมาเลเซียและถือเป็นสาขาต้นแบบ จากนั้นจึงขยายมาในปั๊มคิวเอท จนถึงปัจจุบันมี 11 สาขา แบ่งเป็นของแฟรนไชส์ 8 สาขา และที่เหลือ 3 สาขาเป็นของบริษัท" 

 

สำหรับปีนี้มีแผนขยายสาขาให้ได้อย่างน้อย 30 สาขา ในรูปแบบคีออสหรือมุมกาแฟ โดยคาดว่าจะเป็นสาขาในปั๊ม 20 สาขา ซึ่งยังคงขยายในปั๊มคิวเอทต่อไป และที่เหลือ 10 สาขา จะอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่กับห้างสรรพสินค้า 

 

"ปัจจุบันบริษัทไม่มีร้านในรูปแบบคีออสแล้ว แต่กำลังจะเริ่มนำกลับมาขยายตัวใหม่อีกครั้งในปีนี้ โดยจะเปิดในห้างสรรพสินค้าและโรงพยาบาล ออกแบบเป็นมุมกาแฟซึ่งใช้คอนเซ็ปท์เป็นคาวบอยแบบเดียวกับร้าน แต่จะทำให้ดูทันสมัยขึ้น อาจจะไม่ใช้แบบลายไม้ แต่ยังความเป็นคาวบอยนิดๆ และไม่ให้ดูหนักหรือแรงเกินไป" 

 

ส่วนสาขาในปั๊มยังคงคอนเซ็ปท์คาวบอย เนื่องจากเป็นจุดเด่นดึงดูดลูกค้าได้พอสมควร สำหรับการขยายสาขาไปต่างจังหวัดคงจะขยายไปบางจังหวัดเท่านั้น คาดว่าจะขยายไม่เกิน 10 สาขาโดยจะเน้นจังหวัดที่มีการท่องเที่ยวมากหรือเป็นจังหวัดใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น 

 

อย่างไรก็ตามไม่ต้องการเน้นการขยายสาขาต่างจังหวัดมากนัก เนื่องจากบริษัทต้องการทำตลาดกรุงเทพฯ มากกว่าเพื่อให้ผู้บริโภคในกรุงเทพฯ รู้จักกับทอมแอนด์ทีมมากขึ้น
 

พร้อมทั้ง ยังมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยตลอด ซึ่งกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเมื่อปีที่ผ่านมา และจะเป็นกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องในปีนี้คือ การสั่งกาแฟสด 1 แก้วได้ดูดวงฟรี 

 

 

"ปีนี้เราก็จะทำตลาดเหมือนปีก่อน เพราะเมื่อปลายๆ ปีที่แล้วมีลูกค้าสนใจเรื่องนี้เยอะมากๆ แทบจะทุกสาขาต้องการ คาดว่าประมาณเดือนมีนาคมเราจะจัดขึ้น โดยทำแคมเปญในระยะเวลาที่นานขึ้น ชัดเจนมากขึ้น และมีรูปแบบมากขึ้น จะไม่ทำเป็นช่วงๆ เหมือนที่ผ่านมา แต่ยังคงเป็นการเวียนสลับกันไปตามสาขาต่างๆ" 

 

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการในร้าน ปีนี้อาจจะเพิ่มการ จัดการแข่งขันหมากรุกสมัครเล่นเพื่อหาผู้ชนะเลิศของแต่ละสาขา และนำมาแข่งกันเองโดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลจากบริษัท และยังมีการจัดบอร์ดแนะนำผลิตภัณฑ์หรือข้อมูลน่าสนใจต่างๆ ที่ลูกค้าต้องการ เช่น ร้านเสื้อผ้า รองเท้า ตัดเย็บผ้าม่าน เป็นต้น โดยร้านที่จะนำเสนออยู่บนบอรด์ต้องมีสินค้าหรือบริการคุณภาพดีและราคาไม่แพง

 

"เราต้องการให้ลูกค้ารู้สึกว่า เราเป็นมากกว่าร้านกาแฟเข้ามาแล้วรู้สึกผ่อนคลาย มีกิจกรรมได้ร่วมสนุกเหมือนกับว่าเราสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับสังคมเมือง ซึ่งอาจจะเกิดความตึงเครียดจากการขับรถ เมื่อเข้ามาแล้วเขารู้สึกดี ได้จิบกาแฟ ดื่มเครื่องดื่มที่เขาชอบ" 

 

วันวิสา กล่าวต่อว่า สำหรับรสชาติกาแฟของทอมแอนด์ทีม เน้นรสชาติความสะใจที่เหมือนคาวบอย คือเน้นความเข้มข้นของกาแฟจะไม่หวาน ซึ่งถูกใจลูกค้ามาก นอกจากกาแฟแล้วยังมีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลากหลายชนิด โดยเฉพาะเครื่องดื่มประเภทชา เช่น ชาเขียวซึ่งลูกค้าสนใจมาก ชาเขียวสมุนไพร ชาปั่นธัญพืช และน้ำผลไม้คั้นสด 

 

"เรามีการนำธัญพืชเข้ามาผสมกับกาแฟและชา เพื่อเสริมสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและเพิ่มรสชาติ แต่รสชาติกาแฟของเราไม่เปลี่ยน ตอนนี้เรากำลังจะมีเมนูเครื่องดื่มอีก 3 เมนู คือ กาแฟ และเครื่องดื่มชาเขียวสูตรใหม่ อีกทั้งมีของว่างอาหารว่างรองรับลูกค้าตอนเช้าด้วย และยังเตรียมให้บริการเดลิเวอรี่กับลูกค้าที่อยู่รอบๆ สาขาปั๊มน้ำมันหรือห่างจากร้านไม่เกิน 3-4 ช่วงตึก โดยบริษัทมีวิธีการรักษากาแฟไม่ให้เสียรสชาติ" 

 

วันวิสามองทิศทางตลาดกาแฟในปัจจุบันว่า ปีนี้ค่อนข้างเงียบลงไปไม่คึกคักเท่ากับปีที่แล้ว เนื่องจากขณะนี้มีธุรกิจใหม่ หรือธุรกิจในกระแสค่อนข้างหลากหลายมาก ขึ้นซึ่งอาจจะส่งผลให้กระแสของกาแฟสดแรงน้อยลง อย่างไรก็ดีหากมองกันไปถึงตัวผู้บริโภคแล้วยังพบว่า ผู้บริโภคยังดื่มกาแฟสดอยู่เพียงแต่ว่ากระแสการส่งเสริมตลาดอาจจะไม่แรงมากนัก เนื่องจากถูกกระแสธุรกิจอื่นกลบ แต่คาดว่าตลาดกาแฟสดยังไปได้อีกไกลแน่นอน

 

สำหรับระดับราคา ขายแก้วละ 35-60 บาท เชื่อว่าไม่มีผลต่อการซื้อสินค้าแต่เรื่องรสชาติและการบริการสำคัญกว่า เพราะหากราคาถูกแต่รสชาติไม่อร่อยลูกค้าก็ไม่นิยม ส่วนกาแฟอร่อยราคาสูงมากเกินไปลูกค้าก็จะเลือกแบรนด์อื่น เพราะไม่มีความมั่นใจในแบรนด์ที่เริ่มทำตลาด ยกเว้นเมื่อลูกค้าได้ทดลองชิมแล้วถ้าชอบจะติดใจ และกลายเป็นลูกค้าประจำในที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ดังนั้นเชื่อว่ารสชาติสำคัญมาก เพราะแม้จะเป็นแบรนด์ใหญ่แต่รสชาติไม่ถูกใจก็อาจไม่เป็นลูกค้าประจำ เพราะรสนิยมของผู้บริโภคแต่ละคนแตกต่างกัน

 

สนใจธุรกิจติดต่อโทร. 0-2987-1121 

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์