ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ. 2523 ได้เกิดร้านขายผัดไทยเล็กๆ ในหมู่บ้านเปรมฤทัย ซ. สุขุมวิท 107 ชื่อว่าร้าน “วิภาวรรณ” ซึ่งจากชื่อเสียงความอร่อย ส่งให้กิจการเจริญเติบโตต่อเนื่อง จนทุกวันนี้ ขยายสาขากว่า 50 แห่งตามศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้าต่างๆ อีกทั้ง ขณะนี้กำลังเร่งดันแฟรนไชส์รถเข็นขายผัดไทย/หอยทอด 'หัวปลี' บาย วิภาวรรณ ให้เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ต้องการทำธุรกิจด้วยทุนต่ำ

 

จุมพฎ อนัฆพัชรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ฟู๊ด ช้อป จำกัด เล่าถึงแนวคิดการขยายธุรกิจแบบแฟรนไชส์ ว่า ทุกวันนี้แฟรนไชส์รถเข็นผัดไทย หอยทอดเต็มรูปแบบ ยังไม่มีในตลาด ทำให้เห็นโอกาสประสบความสำเร็จ โดยเริ่มมากว่า 1 ปี แต่ที่แล้วมา ยังขาดความพร้อมด้านวัตถุดิบ และอยู่ระหว่างดำเนินการจดสิทธิบัตร จึงไม่เคยทำการตลาดเลย การขยายสาขามีเพียง 7 จุด แต่ขณะนี้ทุกอย่างลงตัว จึงเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมานี่เอง 

 

“ที่แล้วมา ผมไม่ได้เปิดตัวอย่างจริงจัง เพราะปัญหาควบคุมวัตถุดิบ เนื่องจากสูตรของเส้นผัดไทย ร้าน ‘วิภาวรรณ' จะเป็นเส้นสำเร็จรูปพร้อมผัดได้เลย ซึงเก็บไว้ได้เพียง 2 วัน แต่ในระบบแฟรนไชส์คิดว่า เวลาดังกล่าวน้อยเกินไป จึงใช้เวลาพัฒนาจนได้น้ำผัดไทยสำเร็จรูป สามารถเก็บไว้ได้เป็นเดือน ทำให้สะดวกในการจัดส่งวัตถุดิบ และสต็อกสินค้า” 
 

 
 

ชี้เด่น คือ ชื่อเสียงที่ยาวนาน 

 

สำหรับจุดเด่นแฟรนไชส์ “หัวปลี” คือ ชื่อเสียงอันยาวนานของร้าน 'วิภาวรรณ' รสชาติ ตลอดจนวัตถุดิบ จะเหมือนต้นฉบับทั้งหมด เป็นใบรับประกันความน่าเชื่อถือ แต่เหตุที่ไม่ใช้แบรนด์แฟรนไชส์ว่า “วิภาวรรณ” เนื่องจาก ทางร้านฯ ได้การรับรองความอร่อยจากตรา “เปิบพิสดาร” หากจะนำชื่อร้าน มาเป็นชื่อแฟรนไชส์ด้วย จะเป็นการไม่เหมาะสม จึงคิดแบรนด์ใหม่ขึ้น แต่ยังคงใช้อ้างอิงว่า “หัวปลี บาย วิภาวรรณ” 

 

เจาะตลาดธุรกิจลงทุนต่ำ 

 

กรรมการผู้จัดการฯ บอกว่า แฟรนไชส์นี้ มุ่งเจาะกลุ่มผู้ลงทุนตลาดล่าง มีทั้งให้ซื้อสด และผ่อน โดยราคาสด เงินลงทุนอยู่ที่ 32,000 บาท ประกอบด้วย ค่ารถเข็นและอุปกรณ์ 26,000 บาท ,ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 1,000 บาท และค่าสมาชิกรายปี 5,000 บาท ส่วนราคาผ่อนให้เวลา 5 เดือน เป็นเงินลงทุนรวม 35,000 บาท โดยในเดือนเมษายนนี้จะเจาะกลุ่มข้าราชการตำรวจเป็นพิเศษ 

 

"เราเก็บค่าแรกเข้าเพื่อใช้เป็นค่าจัดการเบื้องต้นมีพี่เลี้ยง ฝึกอบรมจนกระทั่งทำขายเองได้ และจัดส่งอุปกรณ์ในกรุงเทพฯ แต่ต่างจังหวัดต้องคิดตามระยะทาง ส่วนค่าสมาชิกใช้เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ร้าน"
 

 
 

ทั้งนี้ กำหนดต้องรับวัตถุดิบ 4 ตัว จากบริษัทฯ เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพ และรสชาติ ประกอบด้วย เส้นเล็ก (ห่อละ 2.5 บาท/ 1 ห่อทำได้ 1 จาน) , น้ำผัดไทยสำเร็จรูป (350 บาท/ 5 ลิตร) , ซอสพริกหอยทอด (350 บาท/ 5 ลิตร) และแป้งผงทำหอยทอด (60 บาท /กก.) ส่วนวัตดุดิบอื่นๆ อาทิ กุ้ง , หอย , ผัก ฯลฯ ให้ผู้ลงทุนซื้อได้เอง โดยบริษัทฯ จะอบรมความรู้ให้ 

 

ระบุอย่างช้าคืนทุนได้ใน 2.5 ด. 

 

สำหรับราคาขายของเมนูต่างๆ นั้น บริษัทฯ จะกำหนดอัตราสูงสุดไว้ให้ เช่น ผัดไทยยธรรมดา 25 บาท , ผัดไทยยกุ้งสด 40 บาท , หอยแมลงภู่ทอด 30 บาท ,หอยนางรมทอด 45 บาท เป็นต้น แต่สาขาจะขายต่ำกว่านี้ก็ได้ แต่ห้ามเกิน ซึ่งจากการประเมิน ผู้ลงทุนจะมีขายได้อย่างน้อยวันละ 1,500 บาท กำไรหลังหักต้นทุนประมาณเกือบ 50% คาดจะคืนทุนได้ในเวลาอย่างช้าประมาณ 2.5 เดือน แต่จากผลของสาขาแรกที่เปิดในปีนี้ (2548) ณ โลตัสเอ็กเพลส ที่อ่อนนุช เฉลี่ยแล้วรายได้ 4,000 บาท/วัน สามารถคืนทุนได้ในเวลา 1.5 เดือน 

 

ส่วนเป้าขยายสาขาในปีนี้ คาดจะได้ 50 สาขา และจะขยายถึง 250 สาขาในอนาคต ซึ่งขณะนี้ ได้ติดต่อหน้าโลตัสเอ๊กซ์เพรส 30 แห่งแล้ว ค่าเช่าที่แห่งละ 7 พันบาทต่อเดือน เพื่อนำทางให้แฟรนไชซีได้ทำเลที่ดี
 

 
 

มั่นใจคุมคุณภาพสาขาอยู่ 

 

ส่วนปัญหาของแฟรนไชส์ด้านอาหาร ที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถคุมมาตรฐานของสาขาแฟรนไชส์ที่ปล่อยไปได้นั้น จุมพฏ บอกว่า มั่นใจในศักยภาพของระบบตรวจสอบคุณภาพ ที่เป็นทีมงานลงช่วยประกบตั่งแต่เริ่มจนสาขาทำงานได้คล่อง แล้วจึงถอยออกมา โดยจะไปตรวจสอบคุณภาพสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 ครั้ง / เดือน 

“โดยทั่วไป แฟรนไชส์อื่นๆ จะใช้วิธีให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์เข้ามาอบรม แต่ของผม จะนำทีมไปช่วยจริงเลย ทั้งด้านการทำ และการเรียกลูกค้า ประกบจนเขาทำคล่อง ซึ่งที่ผ่านมา จะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ส่วนการควบคุมคุณภาพของแฟรนไชส์ ไม่ให้เปิดตัวแรงแล้วต้องวูบไป ผมมองว่า การคุมคุณภาพไม่ได้ เพราะฐานไม่แน่น พอขยายรวดเร็ว ปัญหาก็ตามทั้ง ส่งไม่ทัน วัตถุดิบไม่พอ ไม่ได้คุณภาพเดิม แต่ของผม มีพื้นฐานมาจากร้านวิภาวรรณ ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศ มีความพร้อมของสายส่ง ระบบพนักงาน และความรู้การผลิต ซึ่งเราทำมานาน ฐานตรงนี้ เราแน่น เมื่อผลตอบรับกลับมาแรงอย่างนี้ ผมไม่กลัว เพราะเคยเปิดร้าน “วิภาวรรณ” มา 50 จุด ใน 3 ปี ได้ผ่านการประสบการณ์มาแล้ว”

 

โทร. 0-2750-6851-5 หรือ www.viphawan.com

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์