หากพูดชื่อ Jollibee หลายคนอาจจะไม่รู้สึกคุ้นเคยเท่าไร แต่รู้หรือไม่ว่า Jollibee ก่อตั้งมา 44 ปีแล้ว เคยเอาชนะ McDonald’s มาแล้วในตลาดท้องถิ่น และกำลังมุ่งหน้าสู่ความเป็นหนึ่งในธุรกิจอาหารฟาสต์ฟู้ดของโลก 
 

โดยเฉพาะในวันนี้ เป้าหมายใหญ่ของตลาดอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และจีน ซึ่งแม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดระดับโลกหลายๆ แบรนด์ ก็ยังต้องสยบ Jollibee แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของฟิลิปปินส์ 
 

ยิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้ Jollibee เชนฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ประกาศซื้อกิจการ Coffee Bean & Tea Leaf –ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกัน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2562 และได้มีการควบคุมการบริหาร Smashburger ในเดนเวอร์เมื่อปี 2561 อย่างเต็มรูปแบบ มีเป้าหมายต้องการที่จะสร้างรายได้ 30% ของรายได้ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา
 

เป้าหมายของ Jollibee นับจากนี้จะเป็นอย่างไร วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลจะนำเสนอให้ทราบครับ 
 

โตต่างประเทศมากกว่าในประเทศ  
 

ภาพจาก bit.ly/2kQOtrl

ก่อนที่ Jollibee จะเข้าซื้อ Coffee Bean ในตลาดฟิลิปปินส์คิดเป็น 73% ของยอดขายทั้งหมด ในขณะที่ตลาดสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 15% และจีน 12% โดยเป้าหมายหลังจากซื้อร้านกาแฟชื่อดังของอเมริกาตั้งเป้าหมายรายได้ 30% ในอเมริกา และตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ในจีนเป็น 30% ของยอดขายโดยรวม ขณะที่ในตลสาดฟิลิปปินส์จะลดลงเหลือ 30%
 

รายงานข่าวระบุว่า Jollibee Foods Corp (JFC.PS) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารจานด่วนของฟิลิปปินส์ ที่รู้จักกันในชื่อ 'Chickenjoy' และฮอทด็อกสับในซอสสปาเก็ตตี้หวาน กำลังเพิ่มแผนสำหรับการขยายตัวในสหรัฐอเมริกาและจีน

ภาพจาก bit.ly/2mms8Cx

 

Jollibee ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจต้องโกอินเตอร์ และขยายประเภทธุรกิจในแบรด์สินค้าที่มีความแข็งแกร่ง และเป็นที่รู้จักในตลาดโลกเป็นอย่างดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Jollibee จะตัดสินใจเลือกซื้อกิจการร้านกาแฟ Coffee Bean & Tea Leaf เพื่อเป็นการสยายปีกต่อยอดไปสู่ความสำเร็จ ดังกล่าว
 

บริษัท Jollibee ได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “บริษัทได้เตรียมการเข้าซื้อกิจการ Coffee Bean & Tea Leaf ซึ่งมีสาขาร้านกาแฟมากถึง 1,200 ร้านค้ากระจายอยู่ในกว่า 25 ประเทศทั่วโลก และนอกจากจะมีกาแฟร้อนไว้คอยให้บริการแล้วยังมีเครื่องดื่มที่มีรสชาติความหวานเพิ่มความอร่อยอื่นๆ ไว้คอยให้บริการอีกด้วย อาทิเช่น ลาเต้ คุ้กกี้ช็อคโกแลต เป็นต้น”
 

Tony Tan Caktiong ซึ่งเป็นประธานของ Jollibee ได้กล่าวว่าการซื้อกิจการของ Coffee Bean & Tea Leaf จะทำให้เป้าหมายของบริษัทที่ต้องการติด 1 ใน 5 กิจการเชนร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันเขามีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 102,000 ล้านบาท ติดอันดับมหาเศรษฐีของ Forbes อันดับ 6 ของประเทศฟิลิปปินส์

ภาพจาก bit.ly/2kQdxP1

 

ปัจจุบัน Jollibee ซึ่งมีมูลค่า 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีแบรนด์แฟรนไชส์ 16 แบรนด์ทั้งหมดทั่วโลก โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะมี 6 แบรนด์แฟรนไชส์ในสหรัฐอเมริกาและจีนเช่นเดียวกับที่อยู่ในฟิลิปปินส์

Jollibee รุกอย่างไร ในต่างประเทศ 
 

การซื้อกิจการครั้งนี้ จะเห็นว่าเชนร้านกาแฟเริ่มเป็นที่สนใจในการซื้อกิจการอีกรอบ โดยในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นการซื้อสิทธิ์ในการบริหาร เช่น ร้าน Starbucks ในประเทศไทย หรือแม้แต่ Coca Cola เข้าซื้อกิจการของ Costa Coffee รวมไปถึง Nestle ที่ลงทุนในร้านกาแฟอย่าง Blue Bottle ด้วย ที่สำคัญเป้าหมายของ Jollibee ก็คือ การแข่งขันในตลาดกาแฟในจีนอย่างเต็มตัว 
 

Jollibee วางแผนธุรกิจไว้ว่าจะไต่อันดับสู่การเป็นเชนร้านฟาสต์ฟู้ด TOP 5 ของโลก ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายได้จำเป็นต้องรุกขยายสาขา และการเปิดสาขาแรกในลอนดอนที่ผ่านมา ก็เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่ชี้ว่า Jollibee จะบุกตลาดยุโรปอย่างจริงจัง และในเร็วๆ นี้มีแผนขยายเพิ่มอีก 250 สาขาในมิลาน มาเก๊า และโตรอนโต ส่วนในฟิลิปปินส์ 

ภาพจาก s.nikkei.com/2lVbPw3

 

ในส่วนของการเพิ่มรายได้ มีการวางกลยุทธ์ต่างกันไปในแต่ละตลาด เช่น ในสหรัฐฯ ที่ Jollibee เปิดบริการ 37 สาขา โดยใช้วิธีลัดซื้อกิจการร้านอาหารเม็กซิกัน และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ซื้อหุ้นเพิ่ม 200 ล้านเหรียญ กลายเป็นผู้ถือหุ้น 85% ใน Smashburger เชนร้านเบอร์เกอร์ที่มีสาขากว่า 300 แห่งในอเมริกา 
 

สำหรับตลาดจีนนั้น Jollibee มีเป้าหมายขยายเพิ่มร้านก๋วยเตี๋ยว Yonghe King Noodle และร้านโจ๊ก Hong Zhuang Yuan เป็น 300 กว่าแห่ง รวมถึงร้านดังกิ้น โดนัทที่ Jollibee เป็นเจ้าของแฟรนไชส์อีก 1,500 สาขาทั่วประเทศ 
 

ส่วนในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Jollibee เน้นเป็นตลาดๆ โดยเลือกตลาดที่โตเร็วสุด ผู้บริโภคคุ้นเคยกับรสชาติ และเป็นตลาดที่บริษัทมีโอกาสจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น ตลาดเวียดนาม เป็นต้น
 

ต้องจับตาดูต่อไปว่า เป้าหมายของ Jollibee แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของฟิลิปปินส์ จะก้าวสู่การเป็นแฟรนไชส์ระดับโลก ติด 1 ใน 5 ได้หรือไม่ แต่ด้วยกลยุทธ์และเป้าหมาย ถือว่าคู่แข่งประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด แม้แต่แมคโดนัลด์ยังสะเทือนมาแล้ว 
 

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document

เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

อ้างอิงข้อมูล

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)