บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    AEC
4.0K
3 นาที
25 มิถุนายน 2555

เปิดวิชั่น2นายกสมาคมแฟรนไชส์  ชี้!ประชาคมอาเซียนปี’58 ชนวนแจ้งเกิดธุรกิจ


2 นายกสมาคมแฟรนไชส์ประกาศ! พร้อมส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์เต็มอัตราศึกหลังพบปีนี้กระแสธุรกิจแฟรนไชส์แรงเกินคาดคนหันมาใส่ใจธุรกิจนี้มากขึ้น…เผยประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นอีก 3 ปีนับจากนี้ผู้ประกอบการไทยควรเร่งเตรียมความพร้อมก่อนรับมือพร้อมเชื่อถึงเวลานั้นแฟรนไชส์ไทยสู่ต่างชาติได้สบาย…ระบุกฎหมายแฟรนไชส์หากเกิดขึ้นส่งผลดีต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแน่นอน

หากพูดถึง “ธุรกิจแฟรนไชส์” ในปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่ากำลังได้รับความสนอกสนใจอย่างมากทีเดียว สำหรับผู้ที่ต้องการอยากจะมีอาชีพที่มั่นคงหรือทำเป็นอาชีพเสริม แต่ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าธุรกิจแฟรนไชส์ที่เกิดขึ้นมาในแต่ละวันนั้นก็ใช่ว่าจะยืนหยัดอยู่ได้ในธุรกิจนี้เสมอไปเช่นกัน เพราะต้องอาศัยประสบการณ์และความน่าเชื่อถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญในการทำธุรกิจนั้นด้วย!!..

ในขณะเดียวกัน การยกระดับของธุรกิจแฟรนไชส์ให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้นนั้น ก็ต้องมีหลายๆ องค์ประกอบที่จะมาคอยเกื้อหนุนธุรกิจนี้อีกด้วย ซึ่งความน่าเชื่อถือที่ว่านี้นั่นก็คือ แรงผลักดันของสมาคมแฟรนไชส์นั่นเอง!

ซึ่งในปีนี้ ทิศทางของธุรกิจแฟรนไชส์จะเป็นเช่นไรนั้น?..และทางสมาคมที่เกี่ยวข้องจะมีนโยบายอะไรมาช่วยผลักดันธุรกิจนี้บ้าง โดย “ตลาดวิเคราะห์” เอง ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ 2 นายก 2 สมาคมธุรกิจแฟรนไชส์ ถึงแผนตั้งรับของสมาคมและความพร้อมในเรื่องของประชาคมอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ ว่ามีความพร้อมอย่างไรบ้าง ซึ่งทางด้าน “สมจิตร ลิขิตสถาพร” นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย ได้เผยว่า

นโยบายของสมาคมฯ ในปีนี้นั้น จะเน้นการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีความเข้มแข็งเสียส่วนใหญ่ เพราะปัจจุบันต้องบอกว่าธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยยังต้องมีการปรับปรุงกันอีกเยอะ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว ถือว่าทางสมาคมฯ ยังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากนัก ซึ่งยังต้องขอความสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาช่วยด้วยเช่นกัน และขณะนี้เอง ทางสมาคมฯ ยังมีแนวคิดที่จะทำโครงการขึ้นมาเพื่อสนับสนุนธุรกิจแฟรนไชส์อีกด้วย ซึ่งวันนี้ ต้องยอมรับว่า ธุรกิจแฟรนไชส์เมืองไทย ถือว่ายังไม่มีความเข้มแข็งมากเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก หากมีการสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่ายอย่างจริงจัง

สำหรับภาพโดยรวมของธุรกิจแฟรนไชส์ในปีที่ผ่านมานั้น “สมจิตร” นายกสมาคมฯ ให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมาภาพโดยรวมของธุรกิจแฟรนไชส์เรียกได้ว่า ได้รับผลกระทบอย่างมากทีเดียว จากปัญหาเรื่องของน้ำท่วมจนไม่สามารถที่จะทำธุรกิจได้อย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการเอง ก็ยังสามารถประคับประคองตัวเองมาได้ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ ภาพรวมของธุรกิจแฟรนไชส์น่าที่จะดีขึ้นอย่างแน่นอน และน่าที่จะเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10% เหมือนเช่นในปีที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงเรื่องของกฎหมายแฟรนไชส์นั้น “สมจิตร” บอกว่า เมื่อพูดถึงกฎหมายแฟรนไชส์แล้ว ปัจจุบันนี้ยังไม่มีในส่วนของกฎหมายดังกล่าวนี้ออกมาเลย ซึ่งในอนาคตยังไม่รู้ว่ากฎหมายดังกล่าวนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ โดยหากมีกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นหรือไม่มีก็ต้องมีคนผลักดัน แต่ในปัจจุบันนี้มีนักกฎหมายหลายคนต่างมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหลายแง่มุม แต่ทั้งนี้ ก็ยังมองว่าหากมีกฎหมายแฟรนไชส์เกิดขึ้นถือว่าเกิดผลดีอย่างแน่นอน ในแง่ของการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจมีมากขึ้น

“เรื่องของกฎหมายแฟรนไชส์ มีหลายฝ่ายได้มีการคิดไว้นานพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าที่ควร ซึ่งมองว่ากฎหมายแฟรนไชส์น่าที่จะยังไม่เร่งด่วนเหมือนกฎหมายอื่น แต่ทั้งนี้ มองว่ากฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่มีอยู่ ก็ยังสามารถที่จะนำมาใช้กับธุรกิจแฟรนไชส์ได้ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ไม่เป็นธรรม โดยที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีบางคนที่ยังไม่เห็นด้วยกับกฎหมายแฟรนไชส์เท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในเรื่องของกฎเกณฑ์ที่มองว่าอาจจะมีมากจนเกินไป จนไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้นั่นเอง”

“สมจิตร” เผยต่ออีกว่า การมีกฎหมายแฟรนไชส์นั้น ข้อดีที่นอกเหนือจากจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจแล้ว ยังเป็นการการันตีด้วยว่า ธุรกิจที่ทำมีที่มาที่ไป ส่วนข้อเสียนั้น หลายคนอาจจะกลัวว่า จะไปติดกับกฎหมายนี้ไหมสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามา ซึ่งตรงนี้ถือเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่ง แต่หากถ้ากฎหมายแฟรนไชส์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ มองว่าควรที่จะต้องมีข้อที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจนี้ด้วย

…เมื่อถามถึงความพร้อมของผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์กับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้านี้นั้น มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ทางด้าน “สมจิตร” นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย ให้ความเห็นว่า การเปิดตลาดอาเซียนที่จะมีขึ้นอีก 3 ปีข้างหน้านี้ มองว่าจะมีธุรกิจบางอย่างที่ได้เปรียบ และมีธุรกิจบางอย่างที่เสียเปรียบ แต่สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์แล้ว ถือเป็นธุรกิจที่ได้เปรียบ เพราะว่ามีโอกาสที่จะขยายตลาดไปที่ต่างประเทศได้

“วันนี้การที่ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยจะไปในต่างประเทศได้นั้น จำเป็นที่จะต้องมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจอย่างแท้จริง และความพร้อมทุกอย่างก็ต้องพร้อมด้วย ทั้งในเรื่องของภาษา ระบบบัญชี เว็บไซต์ต่างๆ การควบคุมคุณภาพที่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญของธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งวันนี้ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่จะสามารถสร้างชื่อให้กับประเทศ ไทยมีเพียงไม่ถึง 10 บริษัทเท่านั้นเอง ซึ่งตรงนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่สำคัญ ที่เราจะต้องทำอย่างไรให้ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยประสบความสำเร็จในเมืองไทยให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะไปต่างประเทศ แต่หากยังไม่สำเร็จเรียกได้ว่ายากที่จะแจ้งเกิดในต่างประเทศแน่นอน”

นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย เสริมต่อว่า การที่จะทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยตอบรับกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ได้นั้น มองว่าทางผู้ประกอบการของไทยเอง ควรที่จะต้องมีความจริงจัง และจะต้องร่วมมือกันหลายๆ อย่าง ในการส่งเสริมธุรกิจนี้ ให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจก่อนว่า ปัจจุบันนี้มีแบรนด์อะไรที่มีศักยภาพบ้าง ที่สำคัญ จะต้องมีหน่วยงานมาดูแลธุรกิจนี้ให้มีความชัดเจนมากขึ้นกว่าในอดีต โดยประชาคมอาเซียนนั้น ถือเป็นโอกาสของธุรกิจแฟรนไชส์ แต่ในขณะเดียวกัน การที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจแฟรนไชส์ไปต่างประเทศได้นั้น ถือว่ายังมองไม่เห็นเลยในปัจจุบัน

‘สวาสดิ์’แย้มงบพัน ล.มีลุ้นปลายปีย้ำแฟรนไชส์ไทยพร้อมรบอาเซียน

…ส่วนอีกหนึ่งสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟรนไชส์เช่นกันนั่นก็คือ “สมาคมแฟรนไชส์และไลเซ่นส์” ที่มีทางด้าน “สวาสดิ์ มิตรอารี” นั่งเป็นนายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซ่นส์ก็ได้เผยถึงทิศทางของสมาคมฯ ในปีนี้ผ่าน “ตลาดวิเคราะห์” ว่า นโยบายของสมาคมฯ ในปีนี้ยังคงมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ไทยให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าทางสมาคมฯ ค่อนข้างมีผลงานที่โดดเด่นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเติมเต็มความรู้และความเคลื่อนไหวของธุรกิจอยู่ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง

“ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเองได้ให้งบ 500 ล้านบาท ในการสนับสนุนธุรกิจแฟรนไชส์ และปีนี้ทางสมาคมฯ ก็ได้ของบจากรัฐบาลอีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งไม่น่าที่จะมีปัญหาแต่อย่างใด คาดว่างบดังกล่าวน่าที่จะได้ประมาณช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งต้องบอกว่าปีนี้สมาคมแฟรนไชส์และไลเซ่นส์มีความพร้อมอย่างมากทีเดียว ที่จะสนับสนุนสมาชิกของสมาคมอย่างเต็มที่ เพื่อให้ธุรกิจนี้เกิดความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น”

…นอกจากนี้ นายสวาสดิ์ ยังได้เผยถึงความพร้อมในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์กับตลาดอาเซียนที่จะมีขึ้นอีก 3 ปีข้างหน้านี้ว่า สำหรับแนวทางการรับมือกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นนั้น ทางสมาคมฯ เอง ได้มีการเตรียมความพร้อมอยู่บ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มไปเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ รวมถึงการร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยศรีปทุมในการอบรมเรื่องของตลาดเออีซี ที่จะรับมือกับตรงนี้อย่างไร การเตรียมความพร้อมที่จะต้องทำอย่างไร ซึ่งจะใช้เวลาในการอบรมประมาณ 45 วัน รวมถึงการจัดงานสัมมนาให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น

“ทางสมาคมฯ เชื่อว่า 3 ปีนับจากนี้ ผู้ประกอบการในธุรกิจแฟรนไชส์น่าที่จะมีความพร้อมมากขึ้น เพราะเมื่อไหร่ที่คุณยังไม่พร้อม บอกได้เลยว่าคุณไม่สามารถที่จะอยู่ได้ในธุรกิจนี้ และวันนี้ผู้ประกอบการทุกคน ขอให้คิดเสมอว่า อย่าให้เขามาหาเราก่อน เราควรที่จะต้องเดินไปหาเขาก่อน เพื่อสร้างศักยภาพให้กับตนเอง แต่วันนี้จุดอ่อนของผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่ยังขาดคือ ขาดการเรียนรู้ ด้วยจุดนี้เองที่ทำให้ทางสมาคมฯ จึงได้มีการเสริมความรู้ต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั่นเอง”

นายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซ่นส์ ให้ความเห็นในเรื่องของกฎหมายแฟรนไชส์ต่ออีกว่า ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้เอง ทางสมาคมฯ ได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมกับทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ถึงกฎหมายแฟรนไชส์ ซึ่งทางสมาคมฯ เอง ได้บอกว่า กฎหมาย ดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี เนื่องจากเป็นกฎหมายที่จะช่วยดูแลธุรกิจแฟรนไชส์ที่เป็นของจริงให้สามารถอยู่ได้ ส่วนธุรกิจแฟรนไชส์ที่เป็นของปลอมที่เข้ามานั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเอาออกให้หมด ซึ่งขณะนี้กฎหมายดังกล่าวได้อยู่ที่ทางสภาเรียบร้อยแล้ว รอแค่เพียงอนุมัติเท่านั้น และเชื่อว่าหากกฎหมายนี้ผ่านทางสภาเมื่อไหร่ จะมีผลดีอย่างมากแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

“สำหรับทิศทางของธุรกิจแฟรนไชส์ในปีนี้นั้น เชื่อว่ายังคงเติบโตอย่างแน่นอน เห็นได้จากการจัดงานของธุรกิจนี้ ซึ่งมีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน และหากสังเกตให้ดีจะพบว่างานเกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์ค่อนข้างเยอะมากในปีนี้ ขณะเดียวกัน ในส่วนของสถาบันการเงินต่างๆ เอง ก็ให้ความสนใจในธุรกิจนี้มากขึ้นอีกด้วย” นายสวาสดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

…นับได้ว่า ชั่วโมงนี้ กระแสของการเปิดการค้าเสรีประชาคมอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ ยังถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญอีกด้วยว่าวันนี้ “ผู้ประกอบการ” ใน “ธุรกิจแฟรนไชส์” จะมีการปรับตัวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจแฟรนไชส์เมืองไทยได้มากน้อยขนาดไหน ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า “ธุรกิจแฟรนไชส์ไทย” จะสามารถสร้างชื่อได้หรือไม่ แต่เชื่อว่าเมืองไทยไม่แพ้ใครในโลกอย่างแน่นอน!!…

อ้างอิงจาก นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 322 ประจำวันที่ 16 – 30 มิถุนายน 2555
 

บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนมิถุนายน 2567
9,020
ส่อง 72 แฟรนไชส์น่าสอยมาลงทุน ครึ่งปีหลัง 2567
5,503
กลับมาแล้วแฟรนไชส์โจ๊ก เฮลตี้ฟู้ดขายง่ายกำไรดี
1,636
เดือดแน่! 6 แฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้ ราคาถูก จ่..
1,575
จริงมั้ย ซื้อแฟรนไชส์ ยืมจมูกคนอื่นหายใจ
837
ซื้อแฟรนไชส์ อย่าให้เป็นทาส แต่ให้เป็นนายตัวเองท..
829
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด