บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ต่างประเทศ
2.6K
20 นาที
26 สิงหาคม 2563
รวม 200 แฟรนไชส์อาหารอเมริกา ยอดนิยมประจำปี 2020


 
มาแล้ว! 200 ธุรกิจแฟรนไชส์เกี่ยวกับอาหารในสหรัฐอเมริกา ยอดนิยมประจำปี 2020 จากผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่สมัครEntrepreneur Franchise 500 ถือเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ที่สำคัญล้วนเป็นแฟรนไชส์ที่มีการพัฒนานวัตกรรมด้านอาหารใหม่ๆ ออกมาเป็นประจำทุกปี มาดูกันว่ามีแบรนด์แฟรนไชส์อาหารที่คุณรู้จักคุ้นเคยหรือไม่?
 
หากพร้อมแล้ว! www.ThaiFranchiseCenter.com ขอนำเสนอ 200 แบรนด์แฟรนไชส์อาหารอเมริกา ยอดนิยมประจำปี 2020 จาก 14 หมวดหมู่ สามารถดูรายละเอียดข้อมูลแฟรนไชส์ และรูปแบบการลงทุนได้ที่ลิ้งค์ข้อมูลแต่ละแบรนด์แฟรนไชส์ได้เลย  

แฟรนไชส์กลุ่ม Asian Food


ภาพจาก bit.ly/3gpf6Kv
 
1. L&L Hawaiian Barbecue

Johnson Kam และ Eddie Flores Jr. เริ่มก่อตั้ง L&L Drive-Inn แห่งแรกในโฮโนลูลูฮาวายในปี 2519 ต่อมาพวกเขาเริ่มทำแฟรนไชส์ในฮาวายจากนั้นขยายไปแคลิฟอร์เนีย เปลี่ยนชื่อเป็น L&L Hawaiian Barbecue เพื่อดึงดูดลูกค้า ปัจจุบันพวกเขานำเสนอแฟรนไชส์ทั่วสหรัฐอเมริกาและยังมีที่ตั้งในอเมริกันซามัวนิว ซีแลนด์และญี่ปุ่น L&L Restaurants ให้บริการอาหารกลางวันสไตล์ฮาวายแบบดั้งเดิมผสมผสานอาหารเอเชียและอาหารอเมริกัน

การลงทุน :  $322,755 - $862,435
 
2. Teriyaki Madness

การลงทุน : $322,755 - $862,435
 


ภาพจาก bit.ly/3aSsS7z
 
3. Pho Hoa

การลงทุน : $267,600 - $523,380
 
4. Pokeworks

การลงทุน : $273,000 High - $711,000
 

ภาพจาก bit.ly/2YyMEjl

5. LemonShark Poke

การลงทุน : $341,950 - $866,400
 
 

แฟรนไชส์กลุ่มขนมอบ (Baked Goods)


ภาพจาก bit.ly/32u16um

1. Cinnabon

ตั้งแต่ปี 1985 ห้างสรรพสินค้าทั่วโลกเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของ Cinnabon เบเกอรี่แต่ละชิ้นให้บริการจำหน่ายซินนามอนโรลสด (ซินนามอนโรลราดพีแคนและคาราเมลฟรอสติ้ง) กาแฟและเครื่องดื่มอื่น ๆ

การลงทุน : $108,500 - $368,100
 
2. la Madeleine French Bakery & Café

การลงทุน : $1,249,362 - $3,088,747
 
3. Paris Baguette

การลงทุน : $719,271 - $1,401,546
 


ภาพจาก bit.ly/34BJLSV
4. Great American Cookies

Great American Cookies เปิดร้านแรกในศูนย์การค้า Perimeter Mall ของแอตแลนตาในปี 2520 จากสูตรคุกกี้ช็อคโกแลตของครอบครัวต่อมาได้เพิ่มคุกกี้และบราวนี่ และเริ่มแฟรนไชส์ในปี 2521 นอกจากคุกกี้ทั่วไปแล้ว ยังมีคุกกี้ เค้กขนาดใหญ่ พร้อมข้อความส่วนบุคคลสำหรับงานปาร์ตี้หรือโอกาสพิเศษ Great American Cookies เป็นส่วนหนึ่งของ Global Franchise Group ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ ​​Pretzelmaker, Marble Slab Creamery และ MaggieMoo's

การลงทุน : $177,700 - $476,135
 
5. Shipley Do-Nuts

การลงทุน : $410,000 - $771,500
 
6. Kolache Factory

การลงทุน : $428,900 - $696,900
 
7. Breadsmith

ขณะเรียนอยู่ที่นอร์เวย์ Dan Sterling นักศึกษาวิทยาลัยได้ลิ้มรสขนมปังยุโรปเป็นครั้งแรก Dan Sterling ได้กลับไปสหรัฐอเมริกาและจบการศึกษาจาก Harvard Business School ก่อนที่จะเริ่มบริษัทของตัวเอง แต่เขาไม่เคยหลงรักขนมปังเลย แต่หลังจากที่ได้อาสาช่วยงานด้านบัญชีในร้านเบเกอรี่ท้องถิ่น เขาก็ตัดสินใจเปิดร้านเบเกอรี่ของตัวเอง โดยเปิดสาขา Breadsmith แห่งแรกในปี 1993 และบริษัทเริ่มแฟรนไชส์ในปี 1994
 
การลงทุน : $354,250 - $399,900
 


ภาพจาก bit.ly/34qNa6S
8. Auntie Anne's

Anne Beiler ทำมาตลอดชีวิตของเธอ แต่ก็ไม่ถึงเวลาที่เธอเริ่มจัดการสัมปทานที่ตลาดของเกษตรกรในเพนซิลเวเนีย เธอจึงคิดจะเริ่มต้นธุรกิจเสิร์ฟพิซซ่า เพรทเซิล มันฝรั่งทอดและขนม โดยที่เพรทเซิลขายดีทุกอย่าง Beiler หยุดขายพิซซ่าและเริ่มทำเพรทเซิลด้วยมือต่อหน้าลูกค้า ทำให้ขนมเป็นที่นิยมมากขึ้น ในที่สุด Beiler ก็เปิดร้านของตัวเอง โดยตั้งชื่อให้ว่า Auntie Anne's
 
ปัจจุบัน Auntie Anne ให้บริการขนมเพรทเซิล น้ำจิ้ม และเครื่องดื่มนานาชนิด ร้านค้าสามารถพบได้ในศูนย์การค้าสนามบินและสถานีรถไฟทั่วสหรัฐอเมริกา เอเชีย และตะวันออกกลาง รวมถึงสหราชอาณาจักรและเวเนซุเอลา
 
การลงทุน : $199,475 - $385,100
 
9. Cinnaholic Franchising

การลงทุน : $178,000 - $308,500
 
10. Duck Donuts Franchising Co.

การลงทุน : $348,350 - $568,000
 
11. Wetzel's Pretzels

อดีตผู้บริหารการตลาด Bill Phelps และ Rick Wetzel ก่อตั้ง Pretzels ของ Wetzel ในปี 1994 บริษัท เอกชนเริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 1996 และปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ บริษัท ตั้งอยู่ในพาซาดีนาแคลิฟอร์เนีย และมีความสัมพันธ์ในการสร้างแบรนด์ร่วมกับ Cold Stone Creamery, Juice It Up, Swensen's และอื่น ๆ

การลงทุน : $164,950 - $405,850
 
12. Pretzelmaker

Jeffrey Trip เปิด Pretzelvania ในปี 1991 แต่ไม่นานชื่อบริษัทก็เปลี่ยนเป็น Pretzelmaker เพื่อจุดประสงค์ในการทำแฟรนไชส์ ในปี 2010 Pretzelmaker ได้รวมเข้ากับ Pretzel Time อีกบริษัทหนึ่งเริ่มต้นในปี 1991 (เดิมชื่อ Mr. Pretzel)
 
ร้าน Pretzelmaker ขายเพรทเซิลร้อนปรุงรสฮอทดอกห่อเพรทเซล น้ำมะนาวและเครื่องดื่ม Pretzelmaker เป็นส่วนหนึ่งของ Global Franchise Group ซึ่งทำแฟรนไชส์ ​​Great American Cookies, MaggieMoo's และ Marble Slab Creamery
 
การลงทุน : $216,200 - $343,000
 

13. Ben's Soft Pretzels

การลงทุน : $89,000 - $339,500
 

ภาพจาก bit.ly/2CVkhEo

14. Great Harvest Franchising Inc.

Pete Wakeman อบขนมปังมาเกือบทั้งชีวิต ตอนเป็นเด็กเขาจะช่วยป้า ในโรงเรียนมัธยมเขาอบให้เพื่อนของเขา ในช่วงวันหยุดฤดูร้อนเขาขายขนมปังบริเวณริมถนน ในปี 1976 เมื่อ Wakeman ได้ยินเกี่ยวกับร้านเบเกอรี่ใน Great Falls รัฐ Montana ซึ่งร้านกำลังเปิดอยู่เขาจึงซื้อมัน ด้วยความช่วยเหลือของลอร่าภรรยาของเขา Wakeman ก็ได้ก่อตั้ง Great Harvest Bread Co. และตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับการอบขนมปั งสำหรับคนในชุมชน Great Falls ผู้คนในชุมชนใกล้เคียงเริ่มถามถึงการเปิดร้าน Great Harvest

แฟรนไชส์แรกเปิดในคาลิสเปลมอนทาน่า ในปี 1983 Wakemans ได้เปลี่ยนร้านเบเกอรี่ Great Falls เป็นแฟรนไชส์และย้ายสำนักงานใหญ่ของ บริษัท ไปที่ Dillon, Montana ร้านเบเกอรี่ Great Harvest ให้บริการขนมปังหลากหลายชนิดในแต่ละวัน รวมทั้งโฮลวีตน้ำผึ้ง กระเทียม เชดดาร์ขาว ทานตะวัน และส้มแครนเบอร์รี่

การลงทุน : $144,100 - $704,197
 
15. Philly Pretzel Factory

Dan DiZio เริ่มขายขนมเพรทเซิลตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ที่มุมถนนในเมืองฟิลาเดลเฟียบ้านเกิดของเขา หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัย เขาได้ร่วมมือกับ Len Lehman เพื่อเปิดโรงงาน Philly Pretzel แห่งแรกในปี 2541 และเริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 2547 นอกจากขนมเพรทเซิลร้อนแล้ว ร้าน Philly Pretzel Factory ยังให้บริกาไส้กรอกเพรทเซลและเพรทเซิลที่ยัดไส้ชีส และและเครื่องดื่มน้ำมะนาว

การลงทุน : $133,999 - $351,193
 
16. Peace, Love & Little Donuts

การลงทุน : $121,200 - $235,100
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Candy


ภาพจาก bit.ly/34uM3TC
 
1. Kilwins Chocolates Franchise Inc.

ในปี 1947 Don และ Katy Kilwin ได้เปิดร้าน Kilwin's Bakery ใน Petoskey รัฐมิชิแกน ไม่นานหลังจากเปิดร้านเบเกอรี่ Kilwins ก็เริ่มทำขนม หกปีต่อมา Kilwins ขายเบเกอรี่เพื่อมุ่งเน้นไปที่การทำขนมแบบเต็มเวลาและในปี 1978 ได้ขายธุรกิจขนมให้กับ Wayne และ Lorene Rose The Roses เริ่มให้บริการแฟรนไชส์ของ Kilwin ในปี 1982 ปัจจุบัน Kilwin's Chocolates ปัจจุบัน Don และ Robin McCarty เป็นเจ้าของขายช็อคโกแลตฟัดจ์และไอศกรีม
 
การลงทุน : $381,290 - $898,274
 
2. Rocky Mountain Chocolate Factory

ในวันแห่งความทรงจำสุดสัปดาห์ เมื่อปี 1981 Franklin Crail ไม่ได้พักร้อน แต่เขากำลังเปิดประตูสู่ธุรกิจใหม่ สุดสัปดาห์นั้นชาวเมืองดูรังโกรัฐโคโลราโดได้ลิ้มรสโรงงานช็อคโกแลต Rocky Mountain แห่งแรกของโลก ปัจจุบันมีร้านมากกว่า 200 แห่งในสหรัฐอเมริกา โดยลูกค้าสามารถชมการทำช็อคโกแลต แอปเปิ้ลคาราเมล และมีจำหน่ายขนมและช็อคโกแลตหลากหลายชนิด
 
การลงทุน : $186,517 - $476,793
 


ภาพจาก bit.ly/32rPrfi
 
3. Peterbrooke Chocolatier

การลงทุน : $212,750 - $333,500
 
4. River Street Sweets Savannah's Candy Kitchen

การลงทุน : $458,050 - $920,500
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Chicken


ภาพจาก bit.ly/2EhL8vg
 
1. KFC US LLC

ในปี 1930 Harland Sanders ได้เปิดร้าน Sanders Court & Cafe ภายในปั๊มน้ำมัน ในเมือง Corbin รัฐเคนตักกี้ เขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้พันเคนตักกี้กิตติมศักดิ์ในปี 1936 เนื่องจากมีส่วนร่วมในการทำอาหารท้องถิ่น ผู้พันแซนเดอร์สเริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 1952 และมอบแฟรนไชส์แรกให้กับ Pete Harman in Salt Lake City ข้อตกลงในการจับมือของพวกเขาระบุว่า บริษัทจะได้รับค่าลิขสิทธิ์ 1 นิกเกิล สำหรับไก่ที่ขายได้แต่ละตัว สูตรอาหารของเขายังคงเป็นความลับ แต่อาหารมื้อเย็นก่พันล้านของผู้พันแซนเดอร์สจะเสิร์ฟทุกปีกว่า 125 ประเทศ ตอนนี้ KFC เป็นส่วนหนึ่งของ Yum! Brands ซึ่งรวมถึง Pizza Hut และ Taco Bell
 
การลงทุน : $1,442,550 - $2,771,550
 
2. Wingstop Restaurants Inc.

เพื่อตอบสนองความนิยมที่เพิ่มขึ้นของปีกไก่ ทาง Antonio Swad จึงได้ก่อตั้ง Wingstop ในปี 1994 ในปี 1998 บริษัทเอกชนแห่งนี้ได้เริ่มทำแฟรนไชส์

การลงทุน : $374,089 - $782,442
 
3. Bojangles' Famous Chicken 'n Biscuits

ร้านอาหารของ Bojangle ก่อตั้งโดย Jack Faulk และ Richard Thomas ในปี 1977 ให้บริการไก่สไตล์ Cajun ที่ทำจากรอยขีดข่วนบิสกิตบัตเตอร์มิลค์ และชาเย็นให้กับลูกค้าทั่วภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา

การลงทุน : $1,637,434 - $2,359,000
 


ภาพจาก bit.ly/3j9qTOY
 
4. Chester's

W.O. Giles เริ่มต้นร้านเชสเตอร์ในปี 1952 และแม้ว่าเขาจะเริ่มทอดโดนัทด้วยหม้อทอดที่จดสิทธิบัตรแล้ว แต่ไก่ทอดกลับเป็นที่สนใจของธุรกิจของเขา บริษัทเริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 2004 หลังจากก่อนหน้านี้ทำตามรูปแบบธุรกิจที่มีใบอนุญาต เชสเตอร์มีที่ตั้งในวิทยาเขตของวิทยาลัย สนามบิน ร้านสะดวกซื้อ ป้ายจอดรถ และซูเปอร์มาร์เก็ต
 
การลงทุน : $12,385 - $277,313
 
5. Golden Chick

Howard Walker เปิดร้าน Golden Fried Chicken แห่งแรกในซานมาร์คอสรัฐเท็กซัสในปี 1967 เป็นร้านอาหารที่เสิร์ฟไก่ทอด มันฝรั่งบดบิสกิต และอาหารจานโปรดอื่นๆ โดยมีร้านอยู่ทั่วเท็กซัสและโอคลาโฮอย่างรวดเร็ว
 
ในปี 1996 ได้เปลี่ยนชื่อจาก Golden Fried Chicken เป็น Golden Chick และได้มีการเพิ่มรายการเมนูใหม่ เช่น Golden Roasted Chicken และรายการเครื่องเคียงใหม่ ๆ เพื่อให้เข้ากับรายการเมนูที่มีอยู่ทั้งหมด อีกทั้งให้บริการแบบไดร์ฟทรู บริการจัดเลี้ยง และบริการจัด
 
การลงทุน : $443,350 - $1,288,640
 
6. Church's Chicken

พนักงานขายตู้อบที่เกษียณแล้ว George W. Church Sr. มีความคิดในปี 1952 ที่จะนำเสนอไก่ทอดเป็นอาหารจานด่วน ไก่ทอดแห่งแรกเปิดให้บริการที่ฝั่งตรงข้ามถนนจาก Alamo ในซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส และขายเฉพาะไก่ทอดเท่านั้น เฟรนช์ฟรายส์และฮาลาปิโนถูกเพิ่มเข้าไปในเมนูในปี 1955
 
การลงทุน : $964,150 - $1,556,300
 
7. Pollo Campero USA

การลงทุน : $432,421 - $1,973,350
 


ภาพจาก bit.ly/3aUtdq3
 
8. Chicken Salad Chick

การลงทุน : $515,000 - $683,000
 
9. Champs Chicken

การลงทุน : $9,000 - $349,000
 
10. Epic Wings

การลงทุน : $459,950 - $1,170,700
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Coffee


ภาพจาก bit.ly/2CWWLad
 
1. Dunkin'

ในปี 1946 Bill Rosenberg ได้ก่อตั้ง Industrial Luncheon Services ซึ่งเป็น บริษัท ที่จัดส่งอาหารและของว่างให้กับคนงานในพื้นที่บอสตัน ความสำเร็จของ Industrial Luncheon Services ทำให้ Rosenberg เริ่มเปิดร้าน The Open Kettle ซึ่งเป็นร้านโดนัทในเมือง Quincy รัฐ Massachusetts สองปีต่อมา The Open Kettle ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Dunkin 'Donuts
 
ปัจจุบันร้านดังกิ้นโดนัทมีให้บริการในกว่า 32 ประเทศและให้บริการโดนัท 70 ชนิดพร้อมกับเครื่องดื่มกาแฟร้อนและเย็น แซนด์วิช อาหารเช้าและขนมอบอื่น ๆ บริษัทแม่ของ Dunkin' Donuts คือ Dunkin' Brands Inc. และแฟรนไชส์ ​​Baskin-Robbins
 
การลงทุน : $199,700 - $1,688,200
 
2. The Human Bean Drive Thru

Human Bean เปิดร้านแรกในเมือง Ashland รัฐ Oregon ในปี 1998 และมีการเพิ่มสาขาทั่วทางตอนใต้ของ Oregon ในอีก 5 ปีต่อมา Drive-thru เริ่มขึ้นในปี 2002
 
โครงการ Farm Friendly Direct ของบริษัท สนับสนุนวิธีการปลูก การเก็บเกี่ยว และการแปรรูปที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้รางวัลแก่เกษตรกรที่บริษัทดำเนินการด้วยการเสนอราคาที่สูงกว่าตลาดและใช้เงินพิเศษเพื่อสนับสนุนโครงการในชุมชน
 
การลงทุน : $211,625 - $738,375
 
3. Scooter's Coffee

Don และ Linda Eckles เห็นถึงความสำเร็จของอุตสาหกรรมกาแฟชนิดพิเศษในแคลิฟอร์เนีย จึงกลับไปที่บ้านเกิดในแถบ Midwestern และเปิดร้านกาแฟ Drive-Thru แห่งแรกในปี 1998 ที่เมือง Bellevue รัฐ Nebraska พวกเขาเริ่มแฟรนไชส์ ​​Scooter's Coffee ในปี 2001

Scooter's Coffee ยังให้บริการชาร้อนและเย็น ออร์แกนิกกาแฟ cold brew และขนมอบ
 
การลงทุน : $331,000 - $638,000
 
4. Gloria Jean's Coffees

การลงทุน : $173,150 - $473,000
 


ภาพจาก bit.ly/3gtuIg4
 
5. PJ's Coffee of New Orleans

เมื่อ Phyllis Jordan เปิดร้าน PJ's Coffee & Tea เป็นครั้งแรกในนิวออร์ลีนส์ ร้านนี้เป็นร้านค้าปลีกที่ขายกาแฟ ชา และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เมื่อแนวคิดไม่เป็นไปตามที่ Jordan คาดไว้ จึงตัดสินใจเปลี่ยนทิศทาง โดยเปิดเป็นร้านคาเฟ่ที่เสิร์ฟกาแฟ ชา ซุป แซนด์วิช สลัด และขนมอบ
 
คาเฟ่แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยทูเลน ซึ่งดึงดูดความสนใจจากนักศึกษาในบริเวณใกล้เคียง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาร้านกาแฟ PJ's Coffee & Tea ก็ผุดขึ้นในวิทยาเขตอื่น ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงในสนามบิน สนามกีฬา และศูนย์ค้าปลีก
 
การลงทุน : $188,275 - $578,000
 
6. Biggby Coffee

Bob Fish และ Mary Roszel เปิดร้านกาแฟแห่งแรกภายใต้ชื่อ Beaner's ในเมือง East Lansing รัฐ Michigan ในปี 1999 พวกเขาร่วมงานกับ Michael McFall (เดิมทีเขาเคยจ้างเป็นบาริสต้า) เพื่อก่อตั้ง Global Orange Development และเริ่มทำแฟรนไชส์
 
ในปี 2007 ชื่อบริษัทเปลี่ยนเป็น Biggby Coffee และแฟรนไชส์ที่มีอยู่ทั้งหมดก็ได้ถูกเปลี่ยนชื่อตาม ซึ่งร้าน Biggby Coffee กำลังขยายตัวในแถบมิดเวสต์และตะวันออกเฉียงใต้
 
การลงทุน : $186,850 - $369,100
 


ภาพจาก bit.ly/2EuBHZ9
 
7. The Coffee Beanery

ในปี 1976 JoAnne Shaw ตัดสินใจเปิดร้าน The Coffee Beanery ซึ่งเป็นร้านกาแฟพิเศษในเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน บริษัทเริ่มแฟรนไชส์ในปี 1985

Coffee Beanery ให้บริการแฟรนไชส์คาเฟ่ริมถนน รวมถึงในห้างสรรพสินค้า สนามบิน อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา ในปี 1998 บริษัทได้เปิดสาขาในต่างประเทศแห่งแรกในเกาะกวม สหรัฐฯ และปัจจุบันเปิดให้บริการแฟรนไชส์ในจีน เกาหลี และตะวันออกกลาง
 
การลงทุน : $185,000 - $472,500
 
8. Ellianos Coffee Company

การลงทุน : $275,300 - $398,500
 


ภาพจาก bit.ly/2EDbF5H
 
9. Aroma Joe's Coffee

การลงทุน : $256,500 - $702,000
 
10. Maui Wowi Hawaiian Coffees & Smoothies

ในปี 1982 สมูทตี้ผลไม้สดเป็นผลิตภัณฑ์ที่แทบไม่มีใครรู้จัก เมื่อ Jeff และ Jill Summerhays เริ่มขายสินค้านอกเวลาในงานอีเวนต์ บริษัทจับตา Michael Haith หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านอาหาร เครื่องดื่มและกิจกรรมพิเศษ Haith ได้ปรับปรุงแนวคิดแฟรนไชส์และขยายสายผลิตภัณฑ์ ซึ่งตอนนี้มีกาแฟฮาวายและเอสเปรสโซ โดยแฟรนไชส์ ​​Maui Wowi ตั้งอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ
 
การลงทุน : $63,900 - $554,000
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Frozen Desserts


ภาพจาก bit.ly/31r7hjm
 
1. Culver's

หลังจากทำงานกับพ่อแม่ในร้านอาหาร Craig Culver ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง ในปี 1984 ด้วยความช่วยเหลือของภรรยาของเขาและพ่อแม่ของ George และ Ruth ได้เปลี่ยน A&W ที่พ่อแม่ของเขาเป็นเจ้าของตั้งแต่อายุ 60 เศษ ครอบครัวของผู้ก่อตั้งได้แรงบันดาลใจในการทำเมนูเริ่มต้นสำหรับร้านอาหาร ตอนที่แม่ของ Culver ทำแฮมเบอร์เกอร์ เธอจะทาเนยบนขนมปังแฮมเบอร์เกอร์ก่อนจะปิ้ง ซึ่งพวกเขารู้สึกว่าการทำแบบนี้ทำให้ตัวเบอร์เกอร์นั้นมีรสชาติที่ดีขึ้น ปัจจุบันพนักงานในแต่ละสาขาของ Culver's แต่ละแห่งใช้เทคนิคเดียวกันนี้ในการทำ ButterBurgers

การลงทุน : $1,970,000 - $4,714,000
 
2. Baskin-Robbins

ในช่วงทศวรรษที่ 1930 Irv Robbins บริหารร้านไอศกรีมในเมือง Tacoma รัฐ Washington ซึ่งเขารู้สึกเบื่อกับการเสิร์ฟไอศกรีมรสชาติแบบดั้งเดิม เช่น ช็อคโกแลต และวานิลลา โดย Robbins เริ่มทดลองผสมผลไม้และขนมลงใส่ลงไปในไอศกรีม หลังจากรับใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 Robbins ได้ซื้อร้านไอศกรีมในเมือง Glendale รัฐ California จากนั้น 3 ปีต่อมา เขาโน้มน้าวพี่เขยของเขา Burt Baskin ให้เข้าร่วมธุรกิจ และในปี 1945 Baskin-Robbins ถือกำเนิดขึ้น
 
ปัจจุบัน Baskin-Robbins มีสาขากว่า 50 แห่งในประเทศ แต่ละแห่งให้บริการไอศกรีม 31 รสชาติ Baskin-Robbins เป็นส่วนหนึ่งของ Dunkin' Brands Inc. ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ ​​Dunkin' Donuts ด้วย Dunkin 'Brands Inc. เป็นเจ้าของโดยกลุ่มบริษัทเอกชน ได้แก่ Bain Capital, The Carlyle Group และ Thomas H. Lee Partners
 
การลงทุน : $123,952 - $558,830
 
3. Dairy Queen

ผู้ผลิตไอศกรีม J.F. McCullough ได้ทดลองสูตรผลิตภัณฑ์นมแช่แข็งใหม่ ซึ่งเกิดจากความเชื่อของเขาที่ว่าไอศกรีมมีรสชาติที่ดีกว่าเมื่อมันนิ่มและเสิร์ฟสดจากช่องแช่แข็ง ไม่ใช่ของแข็งที่แช่แข็ง ด้วยสูตรของเขา McCullough แล Alex ลูกชายของเขาได้โน้มน้าวให้ลูกค้ารายหนึ่งทำการขายไอศกรีมซอฟต์ครีมตัวใหม่ในช่วงแรก และมีผู้คนมากกว่า 1,600 คนมาลองชิม จากความสำเร็จครั้งแรกนั้น McCulloughs ได้เปิดร้าน Dairy Queen แห่งแรกในปี 1940 ในเมืองโจเลียต รัฐอิลลินอยส์ ร้านค้าแห่งแรกขายเฉพาะไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟแบบซื้อกลับบ้านและไอศกรีมโคน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มไอศกรีมหลากหลายประเภทลงไปในเมนู เช่น banana splits และ Dilly Bars

ในปี 1950 Dairy Queen บางแห่งเริ่มให้บริการเมนูอาหาร ปัจจุบันร้านค้าที่มีเมนูฮอทดอก แฮมเบอร์เกอร์ และไก่ทอด ผ่านแนวคิดของ Dairy Queen's Grill & Chill บริษัทยังนำเสนอแนวคิด DQ Treat ที่มีทั้งขนมแช่แข็งของ Dairy Queen และเครื่องดื่มผลไม้และสมูทตี้ของบริษัทในเครือ
 
การลงทุน : $1,091,025 - $1,849,625
 
4. Kona Ice

แฟรนไชส์ ​​Kona Ice ได้นำรถบรรทุกมาร่วมงานอีเว้นท์เพื่อเสิร์ฟน้ำแข็งไสที่ลูกค้าสามารถปรุงรสเองได้ อีกทั้งแฟรนไชส์ยังมักจะไปออกงานตามโรงเรียน และชุมชนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีร้านเป็นลักษณะรถเข็นน้ำแข็งไส แบบซุ้มคีออส และแบบรถพ่วง

การลงทุน : $145,600 - $169,200
 


ภาพจาก bit.ly/3guylmf
 
5. Ben & Jerry's

Ben & Jerry's เป็นตราสินค้าของผลิตภัณฑ์ไอศกรีมจากสหรัฐอเมริกา เริ่มก่อตั้งในปี 1978 ที่เมือง South Burlington ในรัฐ Vermont โดย Ben Cohen และ Jerry Greenfield สองนักศึกษาที่เป็นผู้ก่อตั้ง ได้เข้าเรียนการทำไอศกรีมจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต
 
Ben & Jerry's มีสาขามากกว่า 21 ประเทศทั่วโลก ไอศกรีมของเบนแอนด์เจอร์รีส์ มีหลากหลายรสชาติและรูปแบบ ได้แก่ ไอศกรีม ซอร์เบต์ และโยเกิร์ตแช่แข็ง
 
ในปัจจุบัน เบนแอนด์เจอร์รีส์ เป็นเจ้าของโดย Unilever
 
การลงทุน : $149,185 - $504,300
 
6. Freddy's Frozen Custard & Steakburgers

ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 โดย Scott Redler และ Bill, Randy และ Freddy Simon โดย Freddy's Frozen Custard & Steakburgers เปิดสาขาแรกในเมืองวิชิตารัฐแคนซัส โดยให้บริการสเต็ก เบอร์เกอร์ ฮอทดอก มันฝรั่งทอด และคัสตาร์ดแช่แข็งที่ปั่นสดใหม่ตลอดทั้งวัน ปัจจุบันร้านอาหารของ Freddy มีมากกว่า 300 แห่งให้บริการใน 31 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา
 
การลงทุน : $590,469 - $1,986,315
 
7. Dippin' Dots Franchising LLC

นักเทคโนโลยีชีวภาพด้านการวิจัย Curt Jones ใช้ความเชี่ยวชาญของเขา โดยใช้วิธีการใหม่ ๆ ผ่านกระบวนการแช่แข็งด้วยความเย็นในการผลิตไอศกรีม หลังจากทดลองไอศครีมโฮมเมดของครอบครัวของเขาได้เกือบหนึ่งปี Jones ได้สร้างและขายไอศกรีม Dippin 'Dots ถ้วยแรกในปี 1988 เนื่องจากกระบวนการแช่แข็งของไอศกรีม Dippin 'Dots ที่มีลักษณะรวมตัวกันเป็นลูกเล็ก ๆ แต่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่ทำให้แห้งแบบเยือกแข็งคือ ไอศกรีมยังสามารถละลายได้
 
การลงทุน : $112,204 - $366,950
 
8. Marble Slab Creamery

Marble Slab Creamery ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 โดยจำหน่ายไอศกรีมโฮมเมดระดับพรีเมียม ด้วยเอกลักษณ์ลาดลายไอศกรีมที่เหมือนกับแผ่นหินอ่อน นอกจากไอศกรีมที่เสิร์ฟในโคนวาฟเฟิลแล้วร้านค้ายังจำหน่ายสมูทตี้เชค ซันเดย์บานาน่าสปลิต เค้กไอศกรีม และพาย แฟรนไชส์บางแห่งจำหน่ายขนมอบโฮมเมด เช่น คุกกี้ บราวนี่ และพายแอปเปิ้ล รวมถึงกาแฟ

การลงทุน : $316,085 - $409,135
 
9. Carvel

ในปี 1934 Tom Carvel ได้เปิดร้านไอศกรีมแห่งแรกในเมือง Hartsdale รัฐ New York ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาได้พัฒนาสูตรและอุปกรณ์ในการทำไอศกรีม บริษัทเริ่มต้นแฟรนไชส์ในปี 1947 และในปี 1951 ได้เปิดร้านค้าจำนวนกว่า 100 แห่ง

การลงทุน : $250,600 - $415,500
 
10. Handel's Homemade Ice Cream

การลงทุน : $224,500 - $666,500

https://bit.ly/34xzEON

ภาพจาก bit.ly/3ljdTrV
 
11. The Haagen-Dazs Shoppe Co. Inc.

ไอศครีม Häagen-Dazs ขายที่ร้านอาหารใน New York ครั้งแรกในปี 1961 เมื่อธุรกิจเริ่มเติบโต จึงได้เกิดสาขาแฟรนไชส์แรกขึ้นในปี 1970

ร้าน Häagen-Dazs เปิดให้บริการกว่า 50 ประเทศ โดยมีร้านค้ามากกว่า 600 แห่ง
 
การลงทุน : $164,158 - $542,768
 
12. Creamistry Franchise Inc.

การลงทุน : $224,500 High - $576,500
 
13. Fosters Freeze

การลงทุน : $64,000 High - $587,500
 


ภาพจาก bit.ly/3aWFZ7v
 
14. Cold Stone Creamery

Donald และ Susan Sutherland เปิดร้าน Cold Stone Creamery แห่งแรกในปี 1988 ในเมือง Tempe รัฐ Arizona เริ่มแฟรนไชส์ขึ้นในปี 1994 และปัจจุบันบริษัทเป็นของ Kahala ซึ่งทำแฟรนไชส์ ​​Blimpie, Surf City Squeeze และ TacoTime
 
ร้าน Cold Stone แต่ละร้านจะทำไอศกรีมสดใหม่ทุกวัน และไอศกรีมจะผสมผลไม้ ถั่ว ขนมคุกกี้ และอื่น ๆ ตามคำขอของลูกค้า
 
การลงทุน : $53,200 - $468,775
 
15. Paciugo Gelato Caffe

การลงทุน : $124,700 - $489,250
 
16. Yogurtland Franchising Inc.

Phillip Chang ผู้อพยพชาวเกาหลีได้เปิดร้าน Yogurtland แห่งแรกใน Fullerton รัฐ California ในปี 2006 และเริ่มแฟรนไชส์ใน 1 ปีต่อมา ร้าน Yogurtland ให้บริการโยเกิร์ตแช่แข็งแบบบริการตัวเอง 16 รสชาติ พร้อมมีท็อปปิ้งให้เลือกใส่ 33 อย่าง
 
โดยคิดเงินลูกค้าตามน้ำหนักของสินค้าที่ลูกค้าตัก ปัจจุบันบริษัทตั้งอยู่ใน Irvine รัฐ California มีที่ตั้งในสหรัฐอเมริกา เวเนซุเอลา ออสเตรเลีย ไทย และดูไบ
 
การลงทุน : $278,200 - $588,200
 
17. Bruster's Real Ice Cream

Bruce Reed เริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารตั้งแต่ยังเด็ก โดยเขาช่วยพ่อแม่ที่ร้านอาหาร Jerry's Curb Service ในเมือง Bridgewater รัฐ Pennsylvania เขาเปิด Bruster's Real Ice Cream แห่งแรกต่อจากร้านอาหารที่ทำ ในปี 1989
 
เริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 1993 ร้าน Bruster's Real Ice Cream มีไอศกรีมโยเกิร์ตแช่แข็ง อิตาเลียน เชอร์เบ็ต และเชอร์เบทที่มีหลากหลายรสชาติ
 
การลงทุน : $231,200 - $1,320,000
 


ภาพจาก bit.ly/34A3x14
 
18. Rita's Italian Ice

ในปี 1984 อดีตนักดับเพลิง Bob Tumolo ได้เปิดร้านน้ำแข็งอิตาลีแห่งแรกใน Bensalem รัฐ Pennsylvania โดยตั้งชื่อร้านว่า Rita ตามชื่อภรรยาของเขา แม่ของเขาช่วยทำ Italian ice ส่วน John พี่ชายของเขาก็ช่วยเปิดร้านอีก 3 แห่งในช่วงสามปีต่อมา โดยร้านทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ Philadelphia ลูกค้าเริ่มถามถึงการเปิดร้าน Rita's Italian Ice แบบแฟรนไชส์ Tumolo จึงเริ่มแฟรนไชส์ในปี 1989
 
ปัจจุบันร้านจำหน่ายคัสตาร์ดแช่แข็ง เจลาโต้ มิลค์เชค เครื่องดื่มแช่แข็ง ซันเดย์ และขนมแช่แข็งอื่นๆที่นอกเหนือจากไอศครีม โดย Argosy Private Equity และ MTN Capital ได้เข้าซื้อแฟรนไชส์ของ Rita's ในปี 2017
 
การลงทุน : $196,128 - $455,500
 
19. Sweet Charlie's

การลงทุน : $124,000 - $300,000
 
 
20. Frios Gourmet Pops

การลงทุน : $27,150 - $186,950
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Full-Service Restaurants


ภาพจาก bit.ly/2G1meR7
 
1. Golden Corral Restaurants

ร้านอาหาร Golden Corral เริ่มต้นจากร้านสเต็กราคาประหยัด ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ตั้งแต่รัฐ Virginia ไปจนถึงรัฐ Texas ในช่วงปี 1980 ลูกค้าแนะนำอย่างให้ Golden Corral พลิกโฉมตัวเองเป็น Buffet & Grill Metro ที่มีอาหารร้อนและเย็นหลาย 100 รายการ และเบเกอรี่ อีกทั้งมีบริการโรล มัฟฟิน คุกกี้พาย และพิซซ่าให้เลือกรับประทานในแบบบุฟเฟ่ต์

การลงทุน : $2,286,545 - $6,732,615
 
2. Walk-On's Bistreaux & Bar

การลงทุน : $1,215,500 - $3,998,700
 
3. Buffalo Wild Wings

หลังจากย้ายจากเมือง Buffalo ใน New York ไปยัง Kent รัฐ Ohio เพื่อน ๆ James Disbrow และ Scott Lowery ไม่พบร้านอาหารที่เสิร์ฟปีกไก่สไตล์บัฟฟาโล พวกเขานั้นโหยหาเมนูนี้ ภายหลังพวกเขาจึงตัดสินใจเปิดร้านเป็นของตัวเอง ร้านแห่งแรกของพวกเขาเดิมชื่อ Buffalo Wild Wings & Weck (หรือ BW-3) เปิดให้บริการใน Columbus รัฐ Ohio ในปี 1982
 
ร้านเริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 1991 นอกจากปีกไก่และซอสสูตรเฉพาะ 14 รสชาติแล้ว ร้านอาหาร Buffalo Wild Wings ยังมีเมนูเต็มอื่นๆ เช่น สลัด แซนวิช เบอร์เกอร์ และซี่โครง
 
การลงทุน : $1,931,200 - $3,750,700
 
4. Gyu-Kaku Japanese BBQ Restaurant

ร้านอาหาร Gyu-Kaku เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1990 ที่ญี่ปุ่น ก่อนที่จะขยายไปยังสหรัฐอเมริกา โดยลูกค้าสามารถย่างและปรุงเนื้อวัว เนื้อหมู สัตว์ปีก อาหารทะเล ผัก และขนมหวานของตนเองได้ โดยใช้เตาถ่านบนโต๊ะของร้านอาหาร

การลงทุน : $1,184,424 - $2,496,498
 


ภาพจาก bit.ly/3grPRre

5. Old Chicago Pizza & Taproom

การลงทุน : $1,401,500 - $2,187,000
 
6. The Melting Pot Restaurants Inc.

ตั้งแต่ปี 1984 แฟรนไชส์ ​​The Melting Pot ให้บริการเมนูฟองดูชีส ของหวาน สลัด และอาหารต่างๆ รวมถึงเนื้อสันนอก หางกุ้งมังกร เนื้อสันนอก และอกไก่ โดยทั้งหมดนี้ปรุงในรูปแบบฟองดู

การลงทุน : $1,404,320 - $1,824,210
 
7. Arooga's Grille House & Sports Bar

การลงทุน : $1,277,000 - $3,629,250
 
8. Black Bear Diner

การลงทุน : $1,124,800 - $2,094,200
 
9. Brass Tap

การลงทุน : $780,925 - $1,318,525
 


ภาพจาก bit.ly/3aYfoHl
 
10. Native Grill & Wings Franchising LLC

การลงทุน : $998,000 - $2,620,500
 
11. Hooters

ร้านอาหาร Hooters แห่งแรกเปิดให้บริการใน Clearwater รัฐ Florida ในปี 1983 ร้านนี้เป็นที่รู้จักจากพนักงานเสิร์ฟสาว Hooters Girls และเริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 1986 ร้านอาหารตกแต่งในธีมริมชายหาด มีทีวีไว้เปิดรายการกีฬาให้ลูกค้าได้ดู และมีเมนูอาหารทะเล แซนวิช เบอร์เกอร์ สลัด ปีกไก่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
 
การลงทุน : $956,500 - $4,275,000
 
12. Ponderosa Steakhouse

การลงทุน : $657,200 - $1,168,305
 
13. HuHot Mongolian Grills

HuHot Mongolian Grill แห่งแรกเปิดให้บริการในเมือง Missoula รัฐ Montana ในปี 1999 และเริ่มแฟรนไชส์ในปี 2002 ที่ HuHot ลูกค้าสามารถเลือกเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ก๋วยเตี๋ยว ผักและซอสที่ทางร้านคัดสรรมาแล้ว ส่งมอบให้ "พนักงานย่าง" เพื่อปรุงอาหารต่อหน้าพวกเขา อีกทั้งยังมีเมนูอาหารทานเล่น ซุปสลัด และของหวาน

การลงทุน : $984,000 - $1,219,000
 
14. Beef O'Brady's Family Sports Pub

ในปี 1985 Jim Mellody และ Jeanette ภรรยาของเขาได้เปิดร้าน Beef O'Brady's แห่งแรกซึ่งเป็นผับกีฬาแนวครอบครัวสไตล์ไอริช ใน Brandon รัฐ  Florida แนวคิดแฟรนไชส์เริ่มต้นขึ้นในปี 2541 ร้านอาหาร Beef O'Brady's มีโทรทัศน์หลายเครื่องเพื่อให้ลูกค้าได้ชมกีฬา รวมถึงห้องเล่นเกมเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับเด็กๆ

การลงทุน : $806,825 - $1,288,350
 


ภาพจาก bit.ly/3jhS2zw
 
15. The Lost Cajun

การลงทุน : $250,152 - $667,500
 
16. Eggs Up Grill

การลงทุน : $462,330 - $653,680
 
17. Black Rock Bar & Grill

การลงทุน : $1,534,940 - $2,994,625
 
18. Tony Roma's

Tony Roma’s ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 เมื่อเชฟ David Smith และ Tony Roma ทดลองทำซอสบาร์บีคิวสูตรลับในร้านอาหาร ใน North Miami รัฐ Florida และได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างมาก ปัจจุบันซอสบาร์บีคิวของทางร้านกลายมาเป็นเครื่องหมายการค้าของร้าน Tony Roma กว่า 225 แห่งทั่วโลก

การลงทุน : $2,132,500 - $3,530,000
 


ภาพจาก bit.ly/2Epluo8
 
19. Twin Peaks Restaurant

การลงทุน : $1,424,550 - $3,606,000
 
20. The Flying Biscuit Café

การลงทุน : $442,500 - $737,000
 
 
21. Russo's New York Pizzeria Inc.

การลงทุน : $451,350 - $1,495,500
 
22. Greene Turtle Sports Bar & Grille, The

ร้าน Greene Turtle แห่งแรกเปิดให้บริการใน Ocean City รัฐ Maryland ในปี 1976 ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Columbia รัฐ Maryland เป็นสปอร์ตบาร์สำหรับครอบครัวและแนวคิดการรับประทานอาหารแบบสบาย ๆ เริ่มแฟรนไชส์ในปี 2003 และเริ่มขยายสาขาในภูมิภาคกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ปัจจุบันร้านเปิดอยู่ทางตอนเหนือ Long Island ของ New York และยังมีการขยายสาขาไปทั่วภาคตะวันออก
 
การลงทุน : $1,455,000 - $2,702,500
 


ภาพจาก bit.ly/32pso4R
 
23. Elmer's Breakfast Lunch Dinner/Egg N' Joe

การลงทุน : $712,000 - $3,209,500
 
24. Huddle House

Huddle House เริ่มต้นในแอตแลนตา ปี 1960 แฟรนไชส์ให้บริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น โดยมีเมนูสเต็ก ไก่ หมู และอาหารทะเล ประมาณ 60 % ของสาขาทั้งหมด เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ร้านอาหาร Huddle House ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ และบางบางสาขาตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน และจุดพักรถสำหรับผู้เดินทาง

การลงทุน : $511,935 - $1,328,075
 
25. Hwy 55 Burgers, Shakes & Fries

การลงทุน : $153,925 - $249,925
 
26. East Coast Wings + Grill

ร้านอาหาร East Coast Wings แห่งแรกเปิดให้บริการใน Winston-Salem รัฐ North Carolina ในปี 1995 มีเมนูปีกไก่และซอสต่างๆให้เลือกกว่า 75 รสชาติ พร้อมกับเมนูอย่างเบอร์เกอร์ แซนวิช สลัดฟาฮิต้า ซี่โครงและอื่น ๆ
 
การลงทุน : $434,568 - $927,930
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Hamburgers


ภาพจาก bit.ly/2EEYwJp
 
1. McDonald's

Ray Kroc พนักงานขายเครื่องมิลค์เชค ได้เดินทางไปแคลิฟอร์เนีย ในปี 1954 เพื่อเยี่ยมชมร้านแฮมเบอร์เกอร์ของ McDonald's ซึ่งเขาได้ยินมาว่าพวกเขาใช้เครื่องผสมอาหาร 8 เครื่องพร้อมกัน โดย Kroc รู้สึกประทับใจในการให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็วของทางร้าน และเมื่อเห็นโอกาสในการขายเครื่องปั่นมิลค์เชค

ต่อมา Kroc ได้กลายเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ร่วมกับ Dick และ Mac McDonald และเปิดร้าน McDonald's แห่งแรกในเดสเพลนส์ รัฐอิลลินอยส์ ในปี 1955 ร้าน McDonald's และร้าน Golden Arches ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลของแฮมเบอร์เกอร์ ของทอด ไก่ อาหารเช้า สลัด และมิลค์เชค
 
การลงทุน : $1,263,000 - $2,235,000
 
2. Sonic Drive-In

Sonic เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1953 ในชื่อ Top Hat Drive-In ใน Shawnee รัฐ Oklahoma โดยมี Troy Smith Sr. เป็นผู้ควบคุม ต่อมาเขาได้ร่วมมือกับ Charlie Pappe และพวกเขาเริ่มแฟรนไชส์ในปี 1959 ภายใต้ชื่อ Sonic Drive-In โดยจำหน่ายเมนู เช่น เบอร์เกอร์ ฮอทดอก แซนวิชไก่ มันฝรั่งทอด หัวหอมทอด เครื่องดื่ม ขนมหวาน และอาหารเช้าให้กับลูกค้า

การลงทุน : $1,242,000 - $3,523,300
 
3. Hardee's Restaurants LLC

Wilber Hardee เปิดร้านอาหารแห่งแรกในเมือง Greenville รัฐ North Carolina ในปี 1960 และ 5 เดือนต่อมาเขาได้เปิดแฟรนไชส์ร้านแรก ร้านอาหารของ Hardee ซึ่งให้บริการจำหน่ายบิสกิต เบอร์เกอร์ และไก่ โดยร้านขยายสาขาไปทั่วแถบมิดเวสต์และตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ
 
ในปี 1997 Hardee ถูกซื้อกิจการโดยบริษัท CKE Restaurants Inc. ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐ California ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ของ Carl's Jr. Restaurants
 
การลงทุน : $1,454,000 - $2,046,000
 


ภาพจาก bit.ly/31uyBNu
 
4. Carl's Jr. Restaurants LLC

ในปี 1941 Carl N. Karcher และ Margaret ภรรยาของเขาได้ซื้อรถเข็นขายฮอทดอกใน Los Angeles พวกเขาขยายธุรกิจเป็น 4 รถเข็น ก่อนที่จะเปิดร้าน Carl's Drive-In Barbecue แห่งแรกในปี 1945 และเพิ่มแฮมเบอร์เกอร์ลงในเมนู ปัจจุบันบริษัทมีการขยายสาขาทั่วทั้งตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ และเมนูที่เป็นที่รู้จัก คือ Six Dollar Burgers
 
การลงทุน : $1,585,000 - $2,143,000
 
5. Checkers Drive-In Restaurants Inc.

ร้านอาหาร Checkers Drive-In เริ่มต้นในปี 1986 ใน Mobile รัฐ Alabama โดย 1 ปีก่อนหน้านี้ Rally's Drive-In ได้เปิดร้านอาหารแห่งแรกใน Louisville รัฐ Kentucky ในปี 1999 แนวคิดทั้งสองได้รวมเข้ากันให้มีรูปแบบของร้านเป็นร้านขายเบอร์เกอร์แบบไดรฟ์ - ทรู นอกจากเมนูเบอร์เกอร์แล้วร้านอาหารยังให้บริการไก่ทอด ปลา ฮอทดอก ของทอด และของหวานอีกด้วย

การลงทุน : $254,000 - $1,431,000
 
6. A&W Restaurants Inc.

Roy W. Allen เปิดร้านขายเครื่องดื่มแห่งแรกใน Lodi รัฐ California ในปี 1919 จากนั้น 3 ปีต่อมาเขาได้ร่วมกับ Frank Wright ก่อตั้ง A&W Root Beer Co. นอกเหนือจากการขายเครื่องดื่มรูทเบียร์แล้ว ทางร้านยังจำหน่ายเมนูฮอทดอก แฮมเบอร์เกอร์ และเฟรนช์ฟรายส์ และในปัจจุบันมีร้าน A&W อยู่ทั่วโลก

การลงทุน : $269,000 - $1,213,000
 
7. Wayback Burgers

การลงทุน : $209,000 - $524,500
 


ภาพจาก bit.ly/3lqZme3
 
8. Fatburger North America Inc.

Fatburger แห่งแรกซึ่งเดิมมีชื่อว่า Mr.Fatburger เปิดให้บริการโดย Lovie Yancey ที่ลอสแองเจลิสในปี 1947 โดยเริ่มขยายสาขาในแถบแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่แฟรนไชส์จะเริ่มขายไปทั่วประเทศในปี 1990 ร้านอาหาร Fatburger แต่ละแห่งให้จำหน่ายแฮมเบอร์เกอร์ปรุงตามสั่ง แซนวิช สลัด มันฝรั่งทอด และหัวหอมทอด
 
การลงทุน : $463,169 - $988,000
 
9. BurgerFi

การลงทุน : $613,600 - $987,250
 
10. Mooyah Burgers, Fries, & Shakes

Rich Hicks ผู้คร่ำหวอดในวงการร้านอาหารผู้ก่อตั้งร้าน Tin Star และ Todd Istre ผู้ก่อตั้งร้าน Boudreaux's Cajun Kitchen และ Taters Kountry Kitchen ทั้งสองได้ร่วมมือกันในปี 2007 เพื่อเปิดตัวแนวคิดแฟรนไชส์ใหม่คือ  Mooyah โดยแฟรนไชส์ ​​Mooyah เป็นร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ที่จำหน่ายเมนูแฮมเบอร์เกอร์ เบอร์เกอร์ไก่งวง เบอร์เกอร์ผัก เฟรนช์ฟรายส์ และเครื่องดื่ม

การลงทุน : $402,750 - $564,400
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Hot Dogs


ภาพจาก 1th.xyz/Vo9BFi
 
1. Wienerschnitzel

การลงทุน : $303,600 - $1,443,000
 
2. Nathan's Famous Inc.

Nathan Handwerker ผู้อพยพชาวโปแลนด์ ได้นำสูตรฮอทดอกของ Ida ภรรยาของเขามาขาย โดยร้านตั้งอยู่ที่ Coney Island ในปี 1916 การประกวดการกินฮอทดอกของร้าน Nathan's เริ่มต้นในปีเดียวกันนั้น และยังคงจัดขึ้นทุกวันที่ 4 กรกฎาคมจนถึงทุกวันนี้
 
Al Capone, Jimmy Durante และ Cary Grant เป็นลูกค้าประจำและ Franklin Delano Roosevelt ได้นำเมนูฮอทดอกนี้ เสิร์ฟให้กับกษัตริย์และราชินีแห่งอังกฤษในปี 1939
 
Nathan's Famous ได้กลายมาเป็นบริษัทมหาชนในปี 1970 และเริ่มแฟรนไชส์ในปี 1988 นอกจากฮอทดอกแล้วยังมีเมนูแฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด ชีสสเต็ก และมันฝรั่งทอด
 
การลงทุน : $276,360 - $1,040,360
 


ภาพจาก bit.ly/34zmpNu

3. Hot Dog on a Stick

การลงทุน : $349,200 - $582,000
 
4. Dog Haus Worldwide

การลงทุน : $378,000 High - $949,100
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Mexican Food


ภาพจาก bit.ly/3gpR7Lf
 
1. Taco Bell

หลังจากที่ Glen Bell ออกจากหน่วยนาวิกโยธินเมื่ออายุ 23 ปี เขาได้กลับบ้านที่เมือง San Bernardino รัฐ California และเปิดร้านขายฮอทดอก แต่ความสนใจที่แท้จริงของเขาอยู่ที่รายการเมนูทางเลือก จากนั้นเขาจึงเริ่มขายทาโก้ในราคา 19 เซนต์จากหน้าต่างด้านข้างของแท่นวางฮอทดอก
 
ทาโก้ที่เขาขายนั้นเป็นที่นิยมอย่างที่เขาหวังไว้ และได้เริ่มเปิดร้าน Taco Tia ซึ่งทาโก้เป็เมนูนดาวเด่นของร้าน ในปี 1962 Glen Bell ได้ขายแบรนด์ Taco Tia ให้กับคู่ค้าของเขาและเปิดร้าน Taco Bell แห่งแรกใน Downey รัฐ  California และเริ่มแฟรนไชส์ใน 2 ปีต่อมา ปัจจุบัน Taco Bell อยู่ทั่วสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นบริษัทย่อยของ Yum! Brands Inc. ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ ​​KFC และ Pizza Hut
 
การลงทุน : $525,525 - $2,956,765
 
2. Taco John's Int'l. Inc.

Taco John's จำหน่ายอาหารเม็กซิกันแบบไดร์ฟ-ทรู ตั้งแต่ปี 1969 และบริษัทได้มองหาแฟรนไชส์ใหม่ในหลาย ๆ ส่วนของสหรัฐอเมริกา และมีตัวเลือกสถานที่จัดงานที่หลากหลาย รวมถึงมีการจำหน่ายในสถานที่ท่องเที่ยว และร้านสะดวกซื้อ
 
การลงทุน : $1,057,000 - $1,599,000
 
3. Del Taco Fresh Mexican Grill

Ed Hackbarth เปิดร้านอาหาร Del Taco แห่งแรกที่เมือง Barstow รัฐ California ในปี 1964 ไม่กี่เดือนต่อมาเขาได้เพิ่มร้านอาหารแห่งที่ 2 ในเมือง Corona ในที่สุดได้ขยายร้านไปทั่ว California และหลายส่วนของสหรัฐอเมริกา

ร้านอาหาร Del Taco จำหน่ายเมนูต่างๆ เช่น ทาโก้ และเบอร์ริโต ในราคาที่คุ้มค่าต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ เมนูเบอร์ริโตเม็กซิกัน นาโชส์ ทาโก้ และมีเมนูอเมริกัน อย่างแฮมเบอร์เกอร์ ของทอด และเครื่องดื่มเชค
 
การลงทุน : $859,700 - $2,116,500
 
4. Qdoba Mexican Eats

Anthony Miller และหุ้นส่วน Robert Hauser ได้นำเมนูเบอร์ริโตสไตล์ซานฟรานซิสโกไปยังเมือง Denver รัฐ Colorado ด้วยการเปิดร้าน Qdoba Mexican Grill แห่งแรกในปี 1995 เริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 1997 และในปี 2003 บริษัท Jack in the Box Inc. ก็ได้ซื้อกิจการมา
 
การลงทุน : $475,500 - $1,095,000
 
5. Fuzzy's Taco Shop

Alan and Chuck Bush พ่อและลูกชายเจ้าร้านอาหารได้ซื้อร้านทาโก้ดั้งเดิมของ Fuzzy ในเมือง Fort Worth รัฐ Texas ในปี 2003 ในปี 2009 พวกเขาเริ่มแฟรนไชส์ร้านอาหาร โดยจำหน่ายอาหารเม็กซิกันสไตล์บาจา เช่น  ทาโก้ เบอร์ริโต นาโชส์ เคซาดิลลาส แซนวิชย่าง สลัด และอาหารเช้า

การลงทุน : $858,500 - $1,329,000
 
6. Moe's Southwest Grill

Moe's Southwest Grill เป็นร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ที่เสิร์ฟอาหารตะวันตกเฉียงใต้ เช่น เบอร์ริโต ทาโก้ นาโชส์ และเคซาดิลลา มีรายการเมนูมากมายมีชื่อที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ยอดนิยม

Moe ก่อตั้งโดย Raving Brands ในปี 2000 และเข้าร่วม Focus Brands แฟรนไชส์ของ Auntie Anne's, Carvel, Cinnabon และ Schlotzsky's ในปี 2007
 
การลงทุน : $443,535 - $1,005,212
 


ภาพจาก bit.ly/3ljFRnC

7. Bubbakoo's Burritos

การลงทุน : $131,500 - $398,000
 
8. Chronic Tacos Enterprises Inc.

การลงทุน : $294,000 - $799,000
 
9. Pancheros Mexican Grill

แฟรนไชส์ ​​Pancheros Mexican Grill ให้บริการจำหน่ายเบอร์ริโต สลัด ทาโก้ และเคซาดิยา ร้าน Pancheros แห่งแรกเปิดโดย Rodney Anderson ในปี 1992 และเริ่มแฟรนไชส์ในปี 1995

การลงทุน : $404,325 - $931,000
 
10. Quesada Burritos & Tacos

Steve Gill ชาวออนแทรีโอมีความหลงใหลอาหารเม็กซิกัน และได้พัฒนาเมนูนี้ในขณะที่ทำงานเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในเมือง Denver เมื่อกลับมาที่ Canada เขาตัดสินใจเปิดร้านอาหารเม็กซิกันชื่อ Quesada ของตัวเอง และเริ่มแฟรนไชส์ในปี 2010 ร้าน Quesada จำหน่ายเบอร์ริโตส ทาโก้ เคซาดิยา และสลัดที่ลูกค้าสามารถเลือกไส้ได้ เช่น ปลา กุ้ง ไก่ สเต็กหมู และผัก
 
การลงทุน : $239,000 - $320,500
 


ภาพจาก bit.ly/34yG3td
 
11. California Tortilla

การลงทุน : $402,400 - $697,000
 
12. Rusty Taco

การลงทุน : $529,817 - $796,325
 
13. Baja Fresh

การลงทุน : $229,200 - $994,290
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Miscellaneous Quick Service


ภาพจาก bit.ly/3gtQmkx
 
1. Captain D's LLC

ที่มาของร้าน Captain D's ย้อนกลับไปในปี 1969 ร้าน Mr. D's Seafood and Hamburgers ได้เปิดตัวครั้งแรกในเมือง Donelson รัฐ Tennessee ในปี 1974 จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น Captain D's Seafood โดยจำหน่ายเมนู เช่น ปลาทอด กุ้งทอด ไก่ทอด เครื่องเคียงของหวาน และน้ำชา

การลงทุน :  $1,005,600 - $1,223,600
 
2. Orion Food Systems LLC

Orion Food Systems เป็นแฟรนไชส์แบรนด์ที่จำหน่ายอาหารจานด่วน โดยร้านมีสาขาอยู่ตามร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาล วิทยาลัย สนามกีฬา ศูนย์การค้า และสนามบิน โดยเมนูที่ขายได้แก่ Hot Stuff Pizza, Gourmet Grub, Chopz และ Chix Chicken

การลงทุน : $59,500 - $140,000
 
3. Chop Stop

การลงทุน : $315,000 - $599,000
 
4. Taziki's Mediterranean Café

การลงทุน : $468,000 - $831,000
 
5. Cousins Maine Lobster

การลงทุน : $175,900 - $828,700
 
6. Jazen Tea

การลงทุน : $186,600 - $339,730
 


ภาพจาก bit.ly/2YAKTCb
 
7. Bar-B-Cutie SmokeHouse

การลงทุน : $266,986 - $2,080,491
 
8. Dickey's Barbecue Pit

การลงทุน : $256,360 - $443,045
 
9. Fazoli's Franchising Systems LLC

การลงทุน : $466,750 - $1,918,818
 
10. Vitality Bowls

การลงทุน : $170,100 - $604,000
 
11. Zoup! Systems LLC

ร้าน Zoup! ที่แรกเปิดให้บริการในปี 1998 ใน Southfield รัฐมิชิแกน ชานเมืองดีทรอยต์ ถัดมา 5 ปี ผู้ก่อตั้งได้เปิดสาขาในพื้นที่ดีทรอยต์เพิ่มขึ้นอีก 5 แห่ง และในปี 2003 พวกเขาก็เริ่มให้ทำร้านเป็นระบบแฟรนไชส์ ร้านอาหารร Zoup! มีเมนูซุป 12 ชนิด รวมทั้งอาหารมีไขมันต่ำ มังสวิรัติ อาหารปราศจากกลูเตนและผลิตภัณฑ์จากนม นอกจากนี้ยังมีสลัดตามสั่ง แซนวิชย่าง และขนมอบ
 
การลงทุน : $357,900 - $650,500
 
12. D.P. Dough

การลงทุน : $142,956 - $463,224
 
13. Newk's Eatery

การลงทุน : $932,000 - $1,131,000
 


ภาพจาก bit.ly/2EF69Q0
 
14. Saladworks

Saladworks ก่อตั้งขึ้นในเมืองเชอร์รีฮิลล์ รัฐนิวเจอร์ซี ในปี 1986 และเริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 1992 เมนูของแฟรนไชส์มีสูตรสลัดที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับสลัดที่ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์ขึ้นเอง รวมทั้งซุป และแซนวิช

การลงทุน : $163,724 - $452,292
 
15. Golden Krust Caribbean Restaurant

แรงบันดาลใจจาก Hawthorne & Son's Bakery เริ่มต้นโดยพ่อแม่ของเขาในเมืองเซนต์แอนดรูว์ ในปี 1989 Lorna ภรรยาของเขาและพี่น้อง 4 คนและคู่สมรสของพวกเขา ได้ร่วมกันเปิดร้าน Golden Krust แห่งแรกในบรองซ์นิวยอร์ก
 
ภายในปี 1996 พวกเขามีร้านอาหาร 17 แห่งทั้งหมดอยู่ใน New York และตัดสินใจขยายสาขาเพิ่มในรูปแบบแฟรนไชส์ ปัจจุบันร้านมีอยู่ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ โดยทั้งหมดให้บริการอาหารสไตล์จาเมกาและแคริบเบียน ร้าน Golden Krust เปิดให้บริการตามซูเปอร์มาร์เก็ต โรงพยาบาล โรงเรียน ทัณฑสถาน และร้านค้าปลีกอื่นๆ
 
การลงทุน : $225,900 - $687,000
 
16. SoBol

การลงทุน : $187,200 - $390,000

https://bit.ly/3lf6udn
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Pizza


ภาพจาก bit.ly/2FSO69H
 
1. Pizza Hut LLC

Pizza Hut เริ่มต้นจากสองพี่น้อง Frank และ Dan Carney โดยพวกเขายืมเงิน 600 ดอลลาร์จากแม่ของพวกเขาเพื่อมาทำร้านพิชซ่าในเมืองวิชิต้า รัฐแคนซัส ร้าน Pizza Hut แห่งแรกเปิดให้บริการในปี 1958 และเริ่มแฟรนไชส์ในปี 1960 ในเมืองโทพีกา รัฐแคนซัส ปัจจุบัน Pizza Hut มีสาขาทั่วโลกให้บริการจำหน่ายพิซซ่า พาสต้า และปีกไก่

Pizza Hut นั้นเป็นของ Yum! Brands ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ KFC และ Taco Bell

การลงทุน : $357,000 - $2,213,500
 
2. Marco's Pizza

แฟรนไชส์ ​​Marco's Pizza ขายพิซซ่าตามสั่ง Submarine พิซซ่าสไตล์นิวยอร์ก และแซนด์วิช รวมทั้งสลัด และขนมปังชีส ร้าน Marco's ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 โดย Pasquale "Pat" Giammarco ซึ่งเป็นชาวอิตาลี
 
การลงทุน : $223,535 - $586,410
 
3. Blaze Fast-Fire'd Pizza

การลงทุน : $545,500 - $1,145,500
 
4. Mountain Mike's Pizza

การลงทุน : $208,020 - $593,520
 
5. Rosati's Pizza

จุดเริ่มต้นของร้าน Rosati's Pizza ย้อนกลับไปในช่วงปี 1900 เมื่อ Ferdinand Rosati เปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ในชิคาโก Sam ลูกชายของเขาเดินตามรอยเขา ได้เปิดร้านอาหารของตัวเองในปี 1927
 
ต่อมาในปี 1964 ลูกๆของ Sam ได้ใช้สูตรอาหารของเขามาเปิดร้าน Rosati's ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านพิซซ่าแห่งแรกที่ให้บริการแบบเดลิเวอรี่ ครอบครัว Rosati ยังคงดูแลธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน และเริ่มขยายธุรกิจเป็นรูปแบบแฟรนไชส์ในปี 2006
 
การลงทุน : $136,200 - $1,241,000
 
6. Papa John's Int'l. Inc.

การลงทุน : $130,120 - $844,420
 
7. Pizza Ranch

Adrie Groeneweg ตอนอายุ 19 ปี เขาได้เปิดร้าน Pizza Ranch แห่งแรกในเมืองฮัลล์ รัฐไอโอวา โดยเสนอสูตรพิซซ่าที่พัฒนาโดย Lorraine แม่ของเขา และได้เพิ่มเมนูไก่ปีกทอด ของหวาน และสลัด
ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากเมนูมาทาน หรือจะเลือกทานแบบบุฟเฟ่ต์ก็ได้ ร้านเริ่มแฟรนไชส์ในปี 1984 และสำนักงานใหญ่ของบริษัทได้ย้ายจากเมืองฮัลล์ ไปยังเมือง Orange City
 
การลงทุน :  $1,127,500 - $2,526,500
 
8. Round Table Pizza

การลงทุน : $327,300 - $1,071,250
 
9. Donatos

Jim Grote ซื้อร้านพิชซ่าเล็ก ๆ ที่เมือง Columbus รัฐ Ohio ในปี 1963 และตั้งชื่อร้านว่า Donatos Pizza จากนั้นเขาเริ่มทำในรูปแบบแฟรนไชส์ในปี 1991 ต่อมาในปี 1999 McDonald's ได้ซื้อ Donatos แต่ในที่สุดครอบครัวของ Grote ก็ได้ซื้อคืนกลับมาในปี 2003 บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ไปทั่วมิดเวสต์ใต้และตะวันออกเฉียงใต้ โดยร้านให้บริการจำหน่ายพิซซ่า อาหารทานเล่น สลัด และขนมหวาน
 
การลงทุน : $386,500 - $698,900
 


ภาพจาก bit.ly/2Epwcek
 
10. Jet's Pizza

สองพี่น้อง Eugene และ John Jetts เปิดร้าน Jet's Pizza แห่งแรกในเมืองสเตอร์ลิงตันไฮทส์ รัฐมิชิแกน ในปี 1978 แฟรนไชส์เริ่มขึ้นในปี 1990 แต่ละแห่งขายพิซซ่ ารวมถึงพิซซ่าทรงสี่เหลี่ยมที่เป็นเมนูเอกลักษณ์ของร้าน Jet's สลัด และอาหารทานเล่น

การลงทุน : $437,500 - $631,000
 
11. Hungry Howie's Pizza & Subs

ในปี 1973 James Hearn ได้เปลี่ยนร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่มีพื้นที่ขนาด 1,000 ตารางฟุต ในเมืองเทย์เลอร์ รัฐมิชิแกน ให้เป็นร้านพิชซ่าแบบซื้อกลับบ้านและแบบเดลิเวอรี่ โดยตั้งชื่อร้านว่า Hungry Howie's

ปัจจุบัน Steven Jackson เป็นประธานของ Hungry Howie's เริ่มอาชีพส่งพิซซ่าให้ Hearn ในปี 1976 เขาได้ติดต่อ Hearn เกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนและเปิดร้าน Hungry Howie's แห่งที่ 2 ในเซาท์เกต รัฐมิชิแกน โดยร้านจำหน่ายพิซซ่า ปีกไก่ ขนมปัง และสลัด
 
การลงทุน : $228,311 - $555,315
 
12. Pizza Factory Inc.

ร้าน Pizza Factory ก่อตั้งขึ้นในปี 1979 ในเมืองโอกเฮิร์สต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยจำหน่ายพิซซ่า พาสต้า คาลโซน และเมนูอื่นๆ โดยร้านมีทั่วทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา และจีน
Danny และ Carol Wheeler เปิดร้านอาหารแห่งแรกใกล้กับอุทยานแห่งชาติ Yosemite โดยตั้งชื่อร้านว่า Danny's Red Devil Pizza และได้เปลี่ยนชื่อในไม่กี่ปีถัดมา แฟรนไชส์แรกได้เปิดขึ้นด้วยความช่วยเหลือของ Ron และ Joyce Willey

Mary Jane Riva ประธานและซีอีโอคนปัจจุบัน ได้ซื้อแฟรนไชส์ ​​Pizza Factory ในปี 2012
 
การลงทุน : $372,000 - $562,000
 
13. Ledo Pizza

ตั้งแต่ปี 1955 Ledo ได้ทำพิซซ่าที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นเมนูที่เป็นที่รู้จัก และเปปเปอร์โรนีหั่นหนา แฟรนไชส์ร้าน Ledo นอกจะจำหน่ายพิซซ่าแล้ว ยังมีอาหารทานเล่น ซุป สลัด พาสต้า เบอร์เกอร์ แซนด์วิช คาลโซน และขนมหวาน

การลงทุน : $126,250 - $442,000
 
14. Straw Hat Pizza

Straw Hat Pizza ก่อตั้งขึ้นในปี 1969 ที่เมืองซานลีอันโดร รัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มทำแฟรนไชส์ในปีเดียวกัน และมีสาขาทั่วสหรัฐอเมริกา Straw Hat Cooperative Corp. เป็นบริษัทไม่ใช่แฟรนไชส์ทั่วไป แต่เป็นสหกรณ์ที่ประกอบด้วยร้านพิซซ่าอิสระมากมาย สมาชิกจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับสหกรณ์และได้รับสื่อทางการตลาด ข้อตกลงกับซัพพลายเออร์ วัตถุดับ และบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตโดยสหกรณ์
 
การลงทุน : $346,500 - $825,000
 
15.Urban Bricks Kitchen

การลงทุน : $281,000 - $757,750
 
16. 1000 Degrees Pizza

การลงทุน : $220,650 - $784,250
 


ภาพจาก bit.ly/2EF7syr
 
17. Fox's Pizza Den

Jim Fox เริ่มทำงานเกี่ยวกับพิซซ่า ตั้งแต่เขาอายุ 12 ปี เขาส่งพิซซ่าในท้องถิ่น คอยเติมน้ำโซดาลงในเครื่องโซดา และพับกล่องพิซซ่า ในปี 1971 เมื่ออายุ 24 ปี เขาเริ่มก่อตั้งร้าน Fox's Pizza Den ในเมืองพิตแคร์น รัฐเพนซิลเวเนีย
 
ในปี 1973 Fox's Pizza Den เริ่มให้บริการจัดส่งถึงบ้าน Jim Fox ช่วยทีมหุ่นยนต์ของมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ในการพัฒนาหุ่นยนต์ทำพิซซ่าตัวแรกของประเทศ เพื่อช่วยให้ผู้พิการทางร่างกายได้เป็นเจ้าของและดำเนินกิจการมีร้านค้าของตนเอง
 
การลงทุน : $110,800 - $210,800
 
18. Papa Murphy's Take 'N' Bake Pizza

Hillsboro ซึ่งเป็นเชนร้านพิซซ่าในรัฐโอเรกอน Papa Aldo's และ Petaluma ซึ่งเป็นเครือข่าย Murphy's Pizza ในแคลิฟอร์เนีย และได้ถูกซื้อโดย Terry Collins ซึ่งรวมเข้าด้วยกันเป็นแบรนด์เดียวในปี 1995: Papa Murphy's

ร้าน Papa Murphy's ทำพิซซ่าให้ลูกค้านำกลับบ้านและอบเอง นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียง เช่น คุกกี้ ขนมปังชีส และสลัด
 
การลงทุน : $286,919 - $524,205
 
19. Figaro's Pizza

Figaro's ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยจำหน่ายพิซซ่าพร้อมรับประทาน และพิซซ่าแบบนำไปอบ แฟรนไชส์ดำเนินการในรูปแบบร้านค้าแบบพกพา โดยให้บริการทั้งแบบให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารในร้านและแบบเดลิเวอรี่

การลงทุน : $86,500 - $549,000
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Retail Food/Food Services

ภาพจาก bit.ly/3jfUDtu
 
1. Nothing Bundt Cakes

การลงทุน : $431,587 - $600,387
 
 
2. Watermill Express Franchising

การลงทุน : $471,800 - $596,400
 
 
3. HoneyBaked Ham

Harry Hoenselaar ได้ก่อตั้งร้าน HoneyBaked Hamในปี 1957 โดยครอบครัวเป็นเจ้าของและดำเนินกิจการมาสามชั่วอายุคน ร้านมีสาขามากกว่า 300 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา ในปี 1974 บริษัทได้เข้าซื้อ The Hickory Ham Co. และร้านแฟรนไชส์ ​​40 แห่ง สินค้าที่ทางร้านจำหน่ายนอกจากแฮมเคลือบรสหวานแล้ว ร้านยังมีจำหน่ายอกไก่งวง HoneyBaked ชีสเค้ก พายมะนาว และแซนวิช
 
การลงทุน : $291,900 - $566,600
 
 
4. Totally Nutz

การลงทุน : $59,872 - $216,000
 
 
5. The Spice & Tea Exchange

การลงทุน : $183,650 - $369,250
 


ภาพจาก bit.ly/3aZmUl2
 
6. Beef Jerky Outlet Franchise Inc.

การลงทุน : $215,750 - $396,900
 
 
7. Edible

ตอน Tariq Farid อายุ 17 เขายืมเงินพ่อแม่ 5,000 ดอลลาร์ เพื่อซื้อร้านดอกไม้ใน East Haven รัฐ Connecticut และภายใน 2 ปี ธุรกิจร้านของเขาเฟื่องฟูทั้ง 4 แห่ง 7 ปีต่อมา ด้วยความที่เขาเป็นนักจัดดอกไม้ เขาก็เกิดความคิดใหม่นั่นคือ ช่อดอกไม้ที่สามารถกินได้ จากนั้นเขาได้เปิดร้าน Edible Arrangements แห่งแรกในปี 1999 โดยสินค้าของเขาคือผลไม้สดที่ชุบกับช็อคโกแลต และจัดให้มีลักษณะดูเหมือนดอกไม้ และในปี 2001 ร้าน Edible Arrangements เริ่มทำแฟรนไชส์
 
การลงทุน : $173,600 - $373,450
 
 
8. Farm Stores Franchising LLC

การลงทุน : $96,401 - $572,300
 
 
9. IceBorn

IceBorn เริ่มทำแฟรนไชส์ในปี 2012 โดยบริษัทแม่ Ice House America ได้ผลิตและดำเนินการเครื่องจำหน่ายน้ำแข็งและน้ำอัตโนมัติตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งเครื่องจักรมีให้เลือกหลายขนาด และมีแอพลิเคชั่น SmartIce ของบริษัทที่ช่วยให้แฟรนไชส์ซีสามารถตรวจสอบเครื่องของตนได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ได้
 
การลงทุน : $113,050 - $245,650
 


ภาพจาก bit.ly/3b3M8Pp
 
10. Doc Popcorn

ในปี 2003 Rob และ Renee Israel เริ่มทำป๊อปคอร์นในแบบฉบับรสของตัวเองในอพาร์ตเมนต์ ที่ New York City จากนั้นพวกเขาย้ายไปที่เมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด และเริ่มขายป๊อปคอร์นแบบรถเข็นและซุ้มในห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา และสถานบันเทิงทั่วทั้งรัฐ ในปี 2009 ร้าน Doc Popcorn เริ่มแฟรนไชส์
 
การลงทุน : $45,836 - $352,716
 
 
11. Corporate Caterers

การลงทุน : $149,000 - $227,800
 
 
12. Chefs For Seniors

การลงทุน : $10,475 - $26,675
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Sandwiches


ภาพจาก bit.ly/34CA6v9
 
1. Jersey Mike's Subs

มีสาขามากกว่า 1,000 แห่งที่เปิดและอยู่ระหว่างการพัฒนาทั่วประเทศมีประวัติการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนของชุมชนมายาวนาน ในปีพ. ศ. 2499 ให้บริการอาหารสไตล์ชายฝั่งตะวันออกแท้ๆขนมปังอบสดซึ่งเป็นสูตรเดียวกับที่เริ่มต้นเมื่อ 60 ปีที่แล้ว 

การลงทุน : $237,419 - $766,971
 
 
2. Jimmy John's Gourmet Sandwiches

ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแซนด์วิชแบบอเมริกันที่เจ้าของแบรนด์ Inspire และเชี่ยวชาญในการจัดส่ง ก่อตั้งขึ้นโดย Jimmy John Liautaud ในปี 1983

การลงทุน : $313,600 - $556,100
 
 
3. Arby's

ร้านอาหารแซนวิชฟาสต์ฟู้ดแบบอเมริกันที่มีระบบร้านอาหารมากกว่า 3,300 แห่ง

การลงทุน : $628,950 - $2,205,600
 
 
4. Firehouse Subs

ร้านอาหารแบบสบาย ๆ ในสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 ในเมืองแจ็กสันวิลล์รัฐฟลอริดาโดยอดีตนักดับเพลิงโรบินและคริสโซเรนเซน 

การลงทุน : $57,502  - $868,696
 
 
5. McAlister's Deli

ในปี 1989 Don Newcomb ได้ก่อตั้ง McAlister's Deli ร้านอาหารให้บริการขายแซนวิช สลัด มันฝรั่งอบยัดไส้ อาหารเรียกน้ำย่อย ของหวาน และอาหารสำหรับเด็ก

การลงทุน : $772,000 - $2,119,500
 
 
6. Subway

ซับเวย์ เป็นร้านอาหารอเมริกันประเภทแฟรนไชส์ มีสินค้าหลักคือ แซนวิช และสลัด ดำเนินการโดย Doctor's Associates, Inc. เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกด้วยร้านอาหาร 37,881 ร้านใน 98 ประเทศ 

การลงทุน : $140,050 - $342,400
 
 
7. Charleys Philly Steaks

เป็นร้านอาหารอเมริกันในเครือของ Philly cheesesteak ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในโคลัมบัสโอไฮโอ เมื่อก่อนชื่อ Charley's Steakery และ Charley's Grilled Subs แฟรนไชส์ก่อตั้งขึ้นในปี 1986

การลงทุน : $253,231 - $637,568
 
 
8. Potbelly Sandwich Shop

การลงทุน : $534,950 - $874,000
 
 
9. Port Of Subs

แฟรนไชส์ของร้านขายแซนด์วิช ซึ่งตั้งอยู่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาตะวันตกและมีสำนักงานใหญ่ในรีโนรัฐเนวาดา

การลงทุน : $214,500 - $397,100
 
 
10. Penn Station East Coast Subs

Jeff Osterfeld เปิดร้านอาหารจานด่วนแห่งแรก ร้านชื่อว่า Jeffrey's Delicatessen ในเมือง Dayton รัฐโอไฮโอในปี 1983 การที่เขาเคยไปเยือนชายฝั่งตะวันออกทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการเพิ่มชีสสเต็กของ Philly ลงในเมนูของเขา จากนั้นในปี 1985 เขาได้ทำชีสสเต๊กเป็นเมนูเด่นในร้านอาหารแห่งที่ 2 ของเขาที่ Penn Station ใน Cincinnati และเริ่มแฟรนไชส์ในอีก 2 ปีต่อมา

การลงทุน : $347,955 - $556,804
 
 
11. Capriotti's Sandwich Shop Inc.

ตั้งแต่ปี 1976 โดยเตรียมแซนด์วิช ที่ได้รับรางวัลซึ่งทำเองตามสั่ง เราใช้เวลาในการย่างไก่งวงธรรมชาติทั้งหมดและเนื้อย่างในบ้าน อาหารเย็นย่างและมังสวิรัติสเต็กชีสและสลัดของเรามีให้บริการในสาขาที่เป็นของ บริษัท และแฟรนไชส์มากกว่า 110 แห่งใน 15 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา

การลงทุน : $375,000 - $645,413
 
 
12. Roy Rogers Restaurants

การลงทุน : $767,250 - $1,580,950
 
 
13. Togo's

Mike Cobler นักศึกษาวิทยาลัยเบื่อที่จะกินอาหารในโรงอาหาร จากนั้นเขาตั้งร้านแซนด์วิชเล็กๆ ในปี 1971 เพื่อให้บริการเพื่อนนักศึกษาที่ San Jose State University ในแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ และได้เริ่มแฟรนไชส์ในปี 1977

การลงทุน : $240,500 - $545,700
 
 
14. Schlotzsky's

ตั้งแต่ปี 1971 Schlotzsky's เป็นร้านขายแซนวิช ขนมปังปิ้งแบบออริจินัล และปัจจุบันให้บริการแซนวิช พิซซ่า สลัด และซุปที่มีคุณภาพสูงสุด

การลงทุน : $503,814 - $800,484
 
 
15. Erbert & Gerbert's Sandwich Shop

การลงทุน : $194,820 - $393,270
 
 
16. Tubby's Sub Shop Inc.

ร้านอาหารอเมริกันและแฟรนไชส์ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองคลินตันรัฐมิชิแกนชานเมืองของดีทรอยต์รัฐมิชิแกน ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 ในบริเวณใกล้เคียงกับเซนต์แคลร์ชอร์เชนดำเนินกิจการร้านค้ากว่า 70 แห่งทั่วมิชิแกน

การลงทุน : $112,900 - $293,500
 
 
17. Jon Smith Subs

การลงทุน : $332,500 - $637,984
 


ภาพจาก bit.ly/32jMXQ0
 
18. Which Wich Superior Sandwiches

แซนวิช อเมริกันที่มีความรวดเร็วในการทำแซนวิชและสลัด มันมีสำนักงานใหญ่ในเมืองดัลลัสเท็กซัส

การลงทุน :  $175,500 - $480,250
 
 
19. Great Wraps

ร้านอาหารบริการด่วนแบบอเมริกันก่อตั้งขึ้นในปี 1974 มีสถานที่ตั้งอยู่ในกว่า 18 รัฐส่วนใหญ่อยู่ในศูนย์อาหาร 

การลงทุน : $159,500 - $485,500
 
 
20. Pita Pit Inc.

เป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารด่วนบริการแคนาดาที่ให้บริการแซนด์วิช สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองคิงสตันออนแทรีโอ 

การลงทุน : $179,830 - $428,813
 
 
21. Cousins Subs

ร้านขายแซนด์วิชของ Milwaukee ในรัฐวิสคอนซินที่มีสถานที่มากกว่า 100 แห่ง ก่อตั้งขึ้นในปี 1972

การลงทุน : $197,200 - $648,000
 
 
22. Pop's Italian Beef and Sausage

ตั้งอยู่ที่ 7153 W 127th Street ใน Palos Heights รัฐอิลลินอยส์เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 1980

การลงทุน : $577,200 - $1,228,000
 
 
23. Earl of Sandwich

ร้านอาหารแฟรนไชส์ซึ่งตั้งอยู่ในออร์แลนโด, ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดย The 11th Earl of Sandwich 

การลงทุน : $317,000 - $603,000
 


ภาพจาก bit.ly/34CAkT1
 
24. Cheba Hut Toasted Subs

ก่อตั้งขึ้นโดย Scott Jennings ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 ที่เมืองเทมพีรัฐแอริโซนา ร้านแรกเปิดขึ้นใกล้กับวิทยาเขตของ Arizona State University ที่ Jennings

การลงทุน : $404,500 - $687,500
 
 
25. PrimoHoagies Franchising Inc.

การลงทุน : $235,500 - $574,500
 
 
26. Melt Shop

การลงทุน : $426,946 - $767,369
 
 
27. The Gyro Shack

การลงทุน : $162,500 - $509,000
 
 

แฟรนไชส์กลุ่ม Smoothies/Juices


ภาพจาก bit.ly/2D2YAm2
 
1. Smoothie King

สมูทตี้ผลไม้สูตรดั้งเดิมวิตามินอาหารเสริมและของว่างเพื่อสุขภาพ

การลงทุน : $263,550 - $844,485
 
 
2. Tropical Smoothie Café

เป็นแนวคิดคาเฟ่แบบสบาย ๆ ที่มีสถานที่ตั้งทั่วประเทศโดยนำเสนอตัวเลือกของว่างและอาหารในช่วงเวลาใดก็ได้ของวัน รวมถึงสมูทตี้ผลไม้จริง และแซนวิช ร้านนำเสนอแอปและสามารถสั่งซื้อผ่านมือถือ

การลงทุน : $198,500 - $543,500
 
 
3. Nekter Juice Bar Inc.

เป็นมากกว่าน้ำผลไม้ แต่เป็นวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ!  

การลงทุน : $254,500 - $466,600
 
 
4. Jamba

การลงทุน : $273,600 - $504,300
 


ภาพจาก bit.ly/3lmfQ6O
 
5. Juice It Up!

เปิดร้านในปี 1995 ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย ให้บริการน้ำผลไม้คั้นสดสมูทตี้ผลไม้แท้และของว่างเพื่อสุขภาพ

การลงทุน : $214,375 - $390,475
 
 
6. Robeks Fresh Juices & Smoothies

เริ่มแฟรนไชส์ในปี 2001 ร้านค้าให้บริการน้ำผลไม้ สมูทตี้เชค แซนวิช สลัด และของว่าง

การลงทุน : $228,450 - $340,000
 
 
7. Planet Smoothie

Planet Smoothie แห่งแรกในแอตแลนต้าในปี 1995 ตั้งแต่นั้นมา ร้านได้ขยายไปทั่วสหรัฐอเมริกา ร้าน Planet Smoothie แต่ละแห่งให้บริการสมูทตี้ผลไม้หลากชนิด แซนวิชห่อ ซุป วิตามินอาหารเสริม และของว่างไขมันต่ำ

การลงทุน : $77,650 - $327,550
 


ภาพจาก bit.ly/3hxLk7K
 
8. Clean Juice

บาร์น้ำผลไม้สด และสมูทตี้ สำหรับอาหารระหว่างเดินทาง

การลงทุน : $269,000 - $512,500
 
 
ทั้งหมดเป็นแฟรนไชส์ในหมวดอาหาร (ของกิน) ในสหรัฐอเมริกายอดนิยมในปี 2020 นักลงทุนท่านใดสนใจลงทุนแฟรนไชส์แบรนด์ๆ ที่ยังไม่รู้ในเมืองไทย สามารถดูรายละเอียดรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ได้ตามลิ้งค์ในเนื้อหาบทความได้เลย  
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงข้อมูล 
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนพฤษภาคม 2567..
24,677
“มูฟ อีวี เอกซ์” สร้างรายได้ดีแค่ไหน! ทำไมถึงน่า..
3,803
รวม 12 แฟรนไชส์โหนกระแส คนไทยไม่เคยลืม!
2,357
จริงมั้ย? กำเงิน 15 ล้านบาท ถึงจะซื้อแฟรนไชส์ DQ..
1,912
กลยุทธ์ “แดรี่ควีน” เจ้าไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเมืองไ..
1,272
จริงมั้ย? 7-Eleven เห็นทำเลไหนดี เปิดเองแข่งสาขา..
1,242
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด