บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    กฎหมายและข้อบังคับ    แผนธุรกิจแฟรนไชส์
4.2K
4 นาที
5 ตุลาคม 2564
กฎหมายการแข่งขันทางการค้าฯ ในธุรกิจแฟรนไชส์ 
 

ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากกระแสความนิยมในการมีธุรกิจของตนเอง คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีบทบาทในการประกอบธุรกิจมากขึ้น ซึ่งวิธีการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้รวดเร็ว ก็คือ การซื้อแฟรนไชส์ จึงเป็นที่มาของการพิจารณาออกแนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์
 
โดยสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) ได้ดำเนินการจัดงานสัมมนา เรื่อง “กฎหมายการแข่งขันทางการค้าและแนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและธุรกิจแฟรนไชส์” ภายใต้โครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 แก่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ได้ตระหนักรู้และระมัดระวังการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560
 
รายละเอียดของแนวทางกำกับดูแลธุรกิจแฟรนไชส์ ภายใต้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า เป็นอย่างไร วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลจากการสัมมนามาสรุปให้ทราบครับ
 
แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์จะแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ 1.หน้าที่ของแฟรนไชส์ซอร์ต่อแฟรนไชส์ซีก่อนเข้าทำสัญญาแฟรนไชส์ และ 2.การปฏิบัติทางการค้าของแฟรนไชส์ซอร์ที่อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่แฟรนไชส์ซี โดยมีรายละเอียดดังนี้
 
แฟรนไชส์ซอร์มีหน้าที่ต่อแฟรนไชส์ซีก่อนเข้าทำสัญญาแฟรนไชส์ 2 หน้าที่ 
 

1.แฟรนไชส์ซอร์ต้องเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลให้แฟรนไชส์ซีทราบเกี่ยวกับค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ แผนการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์สิทธิในเครื่องหมายการค้า และการต่อ แก้ไข และยกเลิกสัญญาแฟรนไชส์ 
 
2.การขยายสาขาในกรณีที่แฟรนไชส์ซอร์จะเปิดสาขาใหม่เอง แฟรนไชส์ซอร์จะต้องแจ้งให้แฟรนไชส์ซีที่มีสาขาอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่สุดทราบและให้สิทธิในการเปิดสาขาใหม่ให้แก่แฟรนไชส์ซีรายนั้นก่อน

ส่วนการปฏิบัติทางการค้าของแฟรนไชส์ซอร์ ที่อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่แฟรนไชส์ซี มีแนวทางพิจารณาดังนี้
 

1. การกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการจำกัดสิทธิของแฟรนไชส์ซี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น
 
1.1 การกำหนดให้แฟรนไชส์ซีต้องซื้อสินค้าหรือบริการอื่น ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการแฟรนไชส์หรือสินค้าหรือบริการประกอบแฟรนไชส์จากแฟรนไชส์ซอร์หรือจากผู้ผลิตผู้จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่แฟรนไชส์ซอร์กำหนดเท่านั้น
 
1.2 การกำหนดโควตาให้แฟรนไชส์ซีต้องซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบในปริมาณที่สูงกว่าความต้องการใช้จริงและห้ามคืนสินค้าหรือวัตถุดิบส่วนเกิน
 
2.การกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมให้แฟรนไชส์ซีต้องปฏิบัติภายหลังการลงนามในสัญญาร่วมกันแล้ว เช่น กำหนดให้แฟรนไชส์ซีซื้อสินค้าหรือบริการอื่น หรือกระทำการอย่างอื่น นอกเหนือจากที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาแฟรนไชส์ เว้นแต่มีเหตุผลอันสมควรทางธุรกิจ หรือมีความจำเป็นในการรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียง คุณภาพ และมาตรฐานของธุรกิจแฟรนไชส์ 

 
การกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมดังกล่าวจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเคยมีกรณีตัวอย่างของร้านจำหน่ายไอศกรีมแห่งหนึ่ง ซึ่งแต่เดิมประกอบธุรกิจจำหน่ายไอศกรีมในราคาในช่วง 10-100 บาท ต่อมามีผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าแฟรนไชส์บิงซูชื่อดัง ซึ่งมีราคาขายต่อถ้วยอยู่ที่ 200 บาทขึ้นไปและมียอดจำหน่ายบิงซูที่ดีกว่า ทำให้เกิดผลกระทบต่อยอดขายของแฟรนไชส์ไอศกรีมที่ลดลง จึงเกิดการประชุมหารือของผู้ประกอบธุรกิจไอศกรีมว่าจะลองนำสินค้าบิงซูมาเพิ่มเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับลูกค้า เนื่องจากต้องการช่วยเหลือแฟรนไชซีที่มียอดจำหน่ายได้ลดลง 
 
ในกรณีนี้แฟรนไชส์ซอร์ต้องการเพิ่มสินค้าบางอย่างให้กับแฟรนไชส์ซี เพื่อกระตุ้นยอดขายและต้องการส่วนแบ่งตลาดให้การดำเนินธุรกิจสามารถดำรงอยู่นั้น สามารถทำได้ แต่หากจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายบางอย่างจากแฟรนไชส์ซีที่ต้องเป็นผู้จ่ายเพิ่ม จะต้องมาพิจารณากันว่ามีเหตุผลสมควรหรือไม่ 
 
หรือเป็นการเสนอแบบบังคับให้แฟรนไชส์ซีเสียค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่ม นอกเหนือจากการที่ได้ทำสัญญากันไว้ ก็อาจเป็นการเข้าข่ายแนวทางพิจารณาข้อนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่แฟรนไชส์ซอร์ต้องการเพิ่มเติมหรือแก้ไขสัญญา โดยอาจจะเพิ่มธุรกิจหรืออื่นๆ นั้น จะต้องหารือกันด้วยเหตุผล ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าไม่ได้ห้ามการกระทำนี้ 
 
หากเกิดจากความจำเป็นในการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ โดยพิจารณาจากการประกอบธุรกิจซึ่งคาดว่ามีความจำเป็นในการต่อสู้ในทางการตลาดกับคู่แข่ง และจากกรณีของไอศกรีมนั้น สามารถทำได้ เนื่องจากเหตุผลของแฟรนไชส์ซอร์อ้างว่ายอดจำหน่ายนั้นลดลง และเป็นการใช้กลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ทั้งแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี
 
3.การห้ามแฟรนไชส์ซีซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ผลิต ผู้จำหน่ายหรือผู้ให้บริการรายอื่นที่ขายสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพเท่าเทียมกันและราคาถูกกว่า โดยให้ซื้อจากแฟรนไชส์ซอร์หรือจากผู้ผลิตผู้จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่แฟรนไชส์ซอร์กำหนดเท่านั้น โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร 
 
 
เช่น วัตถุดิบไข่ไก่ระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีที่อยู่จังหวัดกรุงเทพฯ และจังหวัดเชียงใหม่ มีความจำเป็นหรือไม่ที่แฟรนไชส์ซีต้องสั่งซื้อไข่ไก่จากจังหวัดกรุงเทพฯ เพื่อมาประกอบธุรกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งไข่ไก่เป็นสินค้าทั่วไป เน่าเสียและแตกง่าย ดังนั้น การกำหนดรายละเอียดในข้อสัญญาบางข้อจึงควรกำหนดรายละเอียดไว้อย่างคร่าวๆ 
 
4.การห้ามแฟรนไชส์ซีขายลดราคาสำหรับสินค้าที่เน่าเสียง่าย หรือใกล้หมดอายุโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร โดยการปฏิบัติทางการค้าในลักษณะนี้มักเกิดขึ้นกับธุรกิจเบเกอรี่ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีอายุสั้น ธุรกิจประเภทนี้จะดำเนินการผลิตแต่เช้า และจำหน่ายถึงช่วงเย็น บางวันอาจมีสินค้าที่จำหน่ายไม่หมด และจุดขายของธุรกิจประเภทนี้จะต้องสดใหม่วันต่อวัน 
 
ดังนั้น บางแบรนด์แฟรนไชส์จึงอนุญาตให้สามารถจำหน่ายสินค้าที่ยังจำหน่ายไม่ได้ ในราคาจำหน่ายต่ำกว่าราคาปกติ แต่บางแบรนด์ก็ไม่อนุญาตให้ทำ แม้กระทั่งไม่ให้พนักงานได้ซื้อไว้เอง เป็นการป้องกันพนักงานนำไปจำหน่ายต่ออีกทอดเป็นการรักษาภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร
 
5.การกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างกันระหว่างแฟรนไชส์ซี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และนำไปสู่การเลือกปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม 
 
 
6.การกำหนดเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสมอื่นใด ที่มีวัตถุประสงค์นอกเหนือจากการรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียง คุณภาพ และมาตรฐานของแฟรนไชส์ซอร์ตามสัญญา ในกรณีนี้มีตัวอย่างของผู้ประกอบธุรกิจไทยในปัจจุบัน ที่มักจะหาแบรนด์แฟรนไชส์จากต่างประเทศในอันดับที่ 2 -3 ตามแบรนด์แฟรนไชส์อันดับที่ 1 ที่นำเข้ามาแล้วประสบความสำเร็จ แต่ในบางครั้งแบรนด์นั้นอาจยังไม่มีการดำเนินธุรกิจที่แข็งแรงเพียงพอ

และอาจทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการกำหนดเงื่อนไขในสัญญาตัวอย่างเช่น ธุรกิจชานมไข่มุกสัญชาติไต้หวัน ซึ่งมักจะมีการทำแฟรนไชส์ในรูปแบบ Business Format Franchiseมากกว่า Product Franchise ทำให้ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขที่เป็นไปเพื่อรักษาชื่อเสียงและคุณภาพของแบรนด์ 
 
อย่างไรก็ตาม ลักษณะเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสมที่นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ข้างต้น จะมีลักษณะเช่นการกำหนดให้ต้องซื้อหลอดกระดาษทิชชู่ และอื่นๆ จากประเทศไต้หวัน ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสมที่มักเกิดขึ้น
 
ถาม-ตอบ กฎหมายการแข่งขันทางการค้าฯ ในธุรกิจแฟรนไชส์
 

1.กรณีที่แฟรนไชส์ซอร์มอบสิทธิให้แฟรนไชส์ซีเปิดสาขาเพิ่มในพื้นที่ที่ได้มอบสิทธิให้แก่แฟรนไชส์ซีรายอื่นแล้วซึ่งในสัญญาได้ระบุชัดเจนว่าจะมีแฟรนส์ซีเพียงรายเดียวในพื้นที่นั้น แฟรนไชส์ซีรายเดิมสามารถฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่?
 
หากเกิดความเสียหายอันเกิดจากการไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญาแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์อันเป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่แฟรนไชส์ซีตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 แฟรนไชส์ซีซึ่งเป็นผู้เสียหายก็มีสิทธิฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายตามมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 นอกจากนี้ ยังสามารถฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
 
2.แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ มุ่งคุ้มครองแฟรนไชส์ซีเป็นสำคัญหรือไม่?

แนวทางพิจารณาฉบับนี้ได้วางหลักเกี่ยวกับการปฏิบัติการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี ทั้งนี้ แฟรนไชส์ซอร์มักจะมีอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าและถูกเอาเปรียบจากแฟรนไชส์ซีได้ค่อนข้างน้อยมาก
 
3.กรณีข้อพิพาทระหว่างแฟรนไชส์ซอร์กับแฟรนไชส์ซี จะมีคณะอนุญาโตตุลาการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในเบื้องต้นก่อนหรือไม่?
 
กรณีพิพาทดังกล่าวไม่สามารถตั้งคณะอนุญาโตตุลาการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในเบื้องต้นและไม่สามารถยอมความได้ทั้งนี้ หากสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว จำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย 
 
 
4.กระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียนสิ้นสุดลง ผู้เสียหายจะมีสิทธิฟ้องคดีทางแพ่งต่อได้หรือไม่?
 
ผู้เสียหายยังคงมีสิทธิฟ้องคดีทางแพ่งต่อได้ทั้งกรณีที่คดีที่กระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียนสิ้นสุดลงและคดีที่อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียน อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายจะต้องนำคดีขึ้นสู่ศาลภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ได้รับความเสียหายรู้หรือควรจะได้รู้ถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหาย มิฉะนั้นสิทธิในการนำคดีสู่ศาลจะมีอันสิ้นไป
 
5.สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า มีหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่หรือสนับสนุนการดำเนินการในส่วนภูมิภาคหรือไม่?
 
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เป็นหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร)ที่รับผิดชอบการดำเนินการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบธุรกิจในส่วนภูมิภาคที่ต้องการแจ้งเรื่องร้องเรียน สามารถประสานงานแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดได้ด้วย
 
แม้ไทยจะยังไม่มีกฎหมายแฟรนไชส์บังคับใช้ แต่ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้คลอดกฎการค้าที่ไม่เป็นธรรมธุรกิจแฟรนไชส์ โดยได้กำหนดพฤติกรรมที่เป็นข้อห้ามทำไว้ 6 ข้อ เพื่อช่วยสร้างความเป็นธรรมในการทำธุรกิจระหว่างเจ้าของแฟรนไชส์กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ ฝ่ายไหนเอาเปรียบ ร้องเรียนได้ที่ 02-199-5400
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise


 
ข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
อ้างอิงข้อมูล 
 
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
880
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
620
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
546
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
509
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
493
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
470
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด