อย่าหวังน้ำบ่อหน้า! นายกฯ FLA ชี้แฟรนไชส์ไทยยังต้องพึ่งตัวเองหลังเลือกตั้ง เตรียมดึงแบรนด์ใหญ่ช่วยแบรนด์เล็ก 
 

 

หลายคนคาดว่าหลังเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่ ภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจแฟรนไชส์ไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับสัญญาณด้านการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น อยากรู้หรือไม่ว่าในมุมมองของนายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ (FLA) “คุณสุทธิชัย พนิตนรากุล” ในฐานะเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ The Waffle คิดเห็นต่อสถานการณ์ดังกล่าวอย่างไร
 

คุณสุทธิชัย กล่าวถึงสถานการณ์ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยหลังเลือกตั้งและได้รัฐบาลใหม่ว่า หากมองย้อนกลับไปในช่วงปี 2565 ก็ไม่ได้เป็นช่วงที่ดีมากสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทย เพราะยังไม่มีสิ่งที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งรายใหญ่ รายเล็ก โดยเฉพาะแฟรนไชส์รายเล็กจะได้รับผลประทบจากวิกฤติต่างๆ อยู่เสมอ มีการล้มหายตายจากไปจำนวนมาก

 

 

หากถามว่าถ้าได้รัฐบาลชุดใหม่จะเห็นภาพธุรกิจแฟรนไชส์ไทยเป็นอย่างไร คุณสุทธิชัย คิดว่าภาพรวมของธุรกิจแฟรนไชส์จะเติบโตได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับเม็ดเงินหรืองบประมาณของรัฐบาลในการอัดฉีดเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ ถ้ารัฐบาลมีการอัดฉีดเม็ดเงินมากขึ้นก็จะช่วยให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ เอกชนกล้าที่จะลงทุน จะทำให้ธุรกิจโดยรวมมีการขยับขยายกิจการเพิ่มขึ้น

สมมติว่าถ้าประชาชนไม่กล้าที่จะจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าคนซื้อแฟรนไชส์ หรือลูกค้าผู้บริโภคก็จะประหยัดการใช้จ่าย เพราะภาคการลงทุนยังไม่มีความแน่นอน เพราะฉะนั้นทิศทางการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ไทยจะขึ้นอยู่กรอบโดยรวมของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ เพราะจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักลงทุนได้ 
 

“คนลงทุนเขาก็หวังอนาคต ลงทุนไปแล้วอยากได้ดอกผล อยากได้กำไรกลับคืนมา ถ้าอนาคตมองดูแล้วไม่น่าเวิร์คเขาก็ไม่กล้าที่จะลงทุน แม้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์สร้างอาชีพจะใช้เงินลงทุนไม่มาก แต่ไม่มีนักลงทุนคนไหนกล้าที่จะซื้อแน่นอน เพราะผู้บริโภคยังมีการจับจ่ายใช้สอยกันน้อย อาจทำให้การบริหารจัดการธุรกิจให้เติบโตอยู่รอดอย่างยั่งยืนมีปัญหา” คุณสุทธิชัย กล่าว 

 

คุณสุทธิชัย กล่าวต่อว่า นับจากนี้ภาพรวมของธุรกิจแฟรนไชส์ไทยก็ยังต้องรอความชัดเจนหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของรัฐบาลไปสักระยะหนึ่งก่อน  

ส่วนนโยบายการดำเนินงานของสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ (FLA) ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดรูปแบบของสมาคมฯ ให้มีความเป็นมาตรฐานสากลและมีความมั่นคงแข็งแรง เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือบรรดาสมาชิกแฟรนไชส์ได้ด้วย 
 

นโยบายของสมาคมฯ ต่อจากนี้เตรียมเชิญกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์รายใหญ่ๆ เข้ามาเป็นสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อก้าวไปสู่สังคมแฟรนไชส์ขนาดใหญ่ มีบทบาทในการช่วยเหลือและร่วมกันแก้ปัญหาให้กับบรรดาสมาชิกแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการขยายสาขา การหาทำเลเปิดร้าน เพราะที่ผ่านมาแฟรนไชส์รายเล็กเข้าถึงทำเลที่ตั้งได้ยากมาก 

 

โดยเฉพาะทำเลในห้างสรรพสินค้า ตนมองว่าค่าเช่าไม่ได้ถูกๆ มีการเก็บค่า GP อีก แฟรนไชส์รายเล็กจะเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่คนเดียวก็ไม่ไหว แต่ถ้าห้างสรรพสินค้ามีพื้นที่ 50 ตารางเมตร แล้วมาแบ่งพื้นที่เช่าเป็น 5 ราย จะราคาถูกลงสำหรับรายเล็ก สมมติ 5 รายจ่ายรายละ 4 หมื่นบาท ห้างก็ได้ค่าเช่า 2 แสนบาท ต่อจากนี้สมาคมฯ จะทำหน้าที่ในการเป็นตัวแทนเข้าไปเจรจากับเจ้าของพื้นที่ต่างๆ เพื่อขอให้แฟรนไชส์รายเล็กๆ สามารถเข้าไปเช่าพื้นที่เปิดร้านในห้างได้ง่ายขึ้น 
 

“หลังเสร็จงาน TFBO สมาคมฯ จะเริ่มเข้าไปเชิญแบรนด์แฟรนไชส์รายใหญ่ๆ ของประเทศร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อร่วมแบ่งปันและแชร์ประสบการณ์ ตลอดจนช่วยเหลือแฟรนไชส์รายเล็ก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม OR, CRG, ซีพีออลล์, ไมเนอร์กรุ๊ป และอีกหลายๆ กลุ่มที่มีเครือข่ายแบรนด์แฟรนไชส์ใหญ่ๆ” คุณสุทธิชัย กล่าว 
 

 

คุณสุทธิชัย กล่าวสรุปปิดท้ายด้วยว่า อุตสาหกรรมแฟรนไชส์ไทยยังคงต้องช่วยเหลือและพึ่งพาตัวเองไปก่อนหลังการเลือกตั้ง หากจะคาดหวังให้รัฐบาลใหม่ช่วยเหลือ ก็เหมือนกับเป็นการหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าที่ยังไม่มีความชัดเจนอะไร ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยทุกคนคาดหวังว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นถ้าได้รัฐบาลชุดใหม่ เพราะหากยังเป็นรัฐบาลชุดเก่าก็จะได้นโยบายเดิมๆ แต่อย่างไรก็ขอให้รัฐบาลใหม่บริหารประเทศยึดหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์สุจริต ปราศจากคอรัปชั่น

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)