บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    ช่องทางทำกิน
575
4 นาที
27 ธันวาคม 2567
รวมผลกระทบแฟรนไชส์จีนบุกไทย ในปี 67 แชร์วิธีรับมือในปี 68
 

ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ทุนจีนมีบทบาทสำคัญในตลาดโลก รวมถึงตลาดในประเทศไทย นอกเหนือจากการท่องเที่ยวของคนจีนที่เคยสร้างรายได้ให้ประเทศไทยในอดีต ปัจจุบันยังมีธุรกิจจากประเทศจีน เช่น แฟรนไชส์ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม รวมถึงร้านค้าในห้าง แอปพลิเคชัน E-commerce ที่เชื่อมโยงการนำเข้าสินค้าจากจีน ที่กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ 
 
โดยในปี 2567 ไทยนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ากว่า 4.69 แสนล้านบาท มีธุรกิจจีนจดทะเบียนบริษัทในไทยกว่า 131,504 บริษัท คิดเป็นมูลค่ากว่า 9.94 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 3.25% เข้ามากินส่วนแบ่งตลาดในหลากหลายธุรกิจ
 
ขณะเดียวกันมีรายงานข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยว่า ปี 2567 ธุรกิจร้านอาหาร เป็นธุรกิจที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเปิดตลาดในประเทศไทย รวมมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านบาท
 
ประเทศที่เข้ามาเปิดร้านอาหารมากที่สุด ได้แก่ จีน เม็ดเงินลงทุน 416 ล้านบาท, ญี่ปุ่น 219 ล้านบาท, อินเดีย 190 ล้านบาท, ฝรั่งเศส 190 ล้านบาท และ เกาหลีใต้ 101 ล้านบาท
 
 
การเข้ามาของธุรกิจเหล่านี้ แม้จะเพิ่มตัวเลือกให้ผู้บริโภคชาวไทย แต่ในอีกมุมหนึ่งได้สร้างความท้าทายให้กับผู้ประกอบการไทย ทั้งในเรื่องการแข่งขันด้านราคา คุณภาพสินค้า และเทคโนโลยี ทำให้ผู้ประกอบการในไทยต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง  
 
ผลกระทบจากธุรกิจแฟรนไชส์จีนบุกตลาดในไทย ปี 2567 เป็นอย่างไร และในปี 2568 จะมีวิธีรับมือแฟรนไชส์จีนอย่างไร 
 
TF Today จะสรุปให้เข้าใจง่ายๆ 
 
ทำไมธุรกิจจีนบุกไทยมากขนาดนี้?
 
การบุกตลาดไทยของทุนจีนอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค บริโภค หรือแฟรนไชส์ต่างๆ ที่เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจประเทศจีนกำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัว นำไปสู่ภาวะเงินฝืดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาจากปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ และอัตราการว่างงานของคนรุ่นใหม่ จึงทำให้คนจีนจำนวนมากระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น จะเห็นได้ว่าหลายธุรกิจในจีนต้องแสวงหาตลาดใหม่ๆ เพื่อระบายสินค้าและรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ
 
ประเภทธุรกิจแฟรนไชส์จีนบุกไทย 
 

แฟรนไชส์อเมริกาที่เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2526 จนถึงปัจจุบันเหลืออยู่ไม่กี่แบรนด์ เช่น 7-Eleven (ปัจจุบันเป็นของญี่ปุ่น) KFC, แมคโดนัลด์, เบอร์เกอร์ คิง, ทาโก้ เบลล์, คริสปี้ครีม, ซับเวย์, มิสเตอร์ โดนัท, แดรี่ ควีน ฯลฯ
 
แบรนด์แฟรนไชส์อเมริกาเหล่านี้ กำลังจะกลายเป็นแฟรนไชส์ยุครุ่นเก่าในไทย เพราะมีแบรนด์แฟรนไชส์ยุคใหม่กำลังเข้ามาแทน นับตั้งแต่แบรนด์แฟรนไชส์จากจีนทยอยเข้ามาเปิดตลาดและขยายสาขาอย่างรวดเร็วในไทย
 
เริ่มตั้งแต่...แฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้ 

  • Mixue (มี่เสวี่ย) แฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้ เปิดตัว ก.ย. 2565 ปัจจุบันมีมากกว่า 200 สาขา
  • Wedrink แฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้ เปิดตัว ม.ค. 2567 ปัจจุบันมีสาขากว่า 150 สาขา
  • Bing Chun (ปิงฉุน) แฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้ เพิ่งเปิดตัว ส.ค. 2567 สาขาแรกแฟชั่นไอส์แลนด์ มี 14 สาขา
  • CHA i ENJOY แฟรนไชส์ชานมและชาผลไม้ เปิดตัว เม.ย. 2567 สาขาแรกสยามพารากอน ชั้น G
  • JIAN CHA Tea เจี้ยนชา แฟรนไชส์ชานมและชาผลไม้ เปิดตัว ธ.ค. 2566 มีจำนวน 11 สาขา
  • Naixue ร้านชานมและชาผลไม้ เปิดตัว ธ.ค. 2566 สาขาแรกศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ชั้น 1 มีจำนวน 2 สาขา
  • Chagee ร้านชานมและชาผลไม้ เปิดตัว ธ.ค. 2565 สาขาแรกเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6 มี 2 สาขา
นอกจากแฟรนไชส์ไอศกรีมและชาจากจีน ยังมีแฟรนไชส์ร้านอาหารจีนเปิดตลาดในไทยอีกด้วย เช่น
 
  • ไหตี่เลา (Haidilao) เชนร้านหม้อไฟจีน กำลังเติบโตในภูมิภาคอาเซียน เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปลายปี 2562 บนชั้น 7 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ปัจจุบันมี 9 สาขา ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 370 บาท ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับบริการฟรีที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้านระหว่างรอคิวได้ ตั้งแต่ของว่าง ไอศกรีม ไปจนถึงบริการทำเล็บ
  • อีกแบรนด์ คือ ไก่ทอดเจิ้งซิน ร้านไก่ทอด สเต็ก บาร์บีคิว ไอศกรีม ราคาเริ่มต้น 15 บาท มี 2 สาขา เป็นแฟรนไชส์ไก่ทอดที่สร้างกระแสให้กับตลาดไก่ทอดในไทยได้อย่างมาก เป็นแบรนด์ที่ทำให้หลายๆ คนหวั่นใจว่าจะกระทบธุรกิจท้องถิ่นในไทย 
กลยุทธ์แฟรนไชส์จีนบุกไทย 

#กลยุทธ์ราคา

  1. ขายสินค้าราคาต่ำกว่าท้องตลาด เริ่มต้น 15-50 บาท
  2. ขายแฟรนไชส์ราคาต่ำกว่าแบรนด์คู่แข่งในตลาด เริ่มต้น 1-1.5 ล้านบาท ส่วนแฟรนไชส์อเมริกาอย่าง “แดรี่ควีน” ใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท 
  3. แฟรนไชส์ไก่ย่าง ไก่ทอด “เชสเตอร์” ของไทย ใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 6 ล้านบาท สูงกว่าแฟรนไชส์ไก่ทอด “เจิ้งซิน” จากจีนที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 8.12 แสนบาท 
นั่นจึงทำให้แฟรนไชส์จากจีนได้เปรียบคู่แข่งในตลาด ทั้งด้านราคาขายสินค้า และงบลงทุนแฟรนไชส์หลายเท่าตัว 

#กลยุทธ์ธุรกิจ
  1. แฟรนไชส์จากจีน โดยเฉพาะร้านไอศกรีมและชาผลไม้ ใช้กลยุทธ์ขยายสาขาด้วย "ระบบแฟรนไชส์" ทำให้ธุรกิจขยายตัวได้เร็วกว่าธุรกิจอื่นๆ เช่น MIXUE เปิดตัวกลางปี 2565 ขยายสาขาไปแล้วมากกว่า 200 สาขา ถือว่าเร็วมาก 
  2. แฟรนไชส์จีนสร้างธุรกิจให้มีความโดดเด่นด้านสินค้าใหม่ โมเดลธุรกิจใหม่ สร้างประสบการณ์ใหม่ และราคาไม่แพง ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า ส่งผลให้ขยายกิจการได้เร็ว 
  3. แฟรนไชส์จีนให้ตัวแทนบริษัทแม่ในจีนเข้ามาบริหารโดยตรง แตกต่างจากแฟรนไชส์อเมริกาที่ใช้ตัวแทนบริหารในไทย ซึ่งหากดูนิสัยการทำงานของคนจีนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนจริงจังกับงานมากกว่าคนไทย ทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็ว
ผลกระทบแฟรนไชส์จีนบุกไทย ปี 67
 
แฟรนไชส์จีนบุกตลาดในไทย ได้ส่งผลกระทบในหลายด้าน ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ ธุรกิจ การแข่งขัน และโอกาส
 
1.การแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรง
 

การเข้ามาของแฟรนไชส์จีน ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงในหลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม เทคโนโลยี โดยสินค้าและบริการจากจีนมักมีราคาถูก อย่างไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟโคนละ 15 บาท ไก่ทอดชิ้นละ 15 บาท ทำให้ผู้บริโภคหันไปเลือกสินค้าราคาถูกกว่า ส่งผลกระทบต่อธุรกิจแฟรนไชส์ในไทยไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้
 
2. สร้างงานและสร้างโอกาสทางธุรกิจ
 
การที่แฟรนไชส์จีนเปิดสาขาในไทย อาจช่วยสร้างงานและโอกาสทางธุรกิจให้กับคนไทย เช่น เป็นพนักงานในร้านสาขา, การขายสินค้าหรือวัตถุดิบให้กับแฟรนไชส์จีน ตลอดจนการร่วมลงทุนกับแฟรนไชส์จีน ทำให้ธุรกิจบางส่วนได้รับอานิสงค์ได้
 
3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค 
 
โดยเฉพาะการที่แฟรนไชส์จีนมักนำเสนอสินค้าและบริการหลากหลาย ราคาถูก อาจทำให้พฤติกรรมการบริโภคของคนไทย หันไปนิยมและซื้อสินค้าและบริการจากจีนแทน ส่งผลกระทบต่อการขายผู้ประกอบการแฟรนไชส์ในไทย จึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

4. การถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม
 

แฟรนไชส์จีนบางแบรนด์มีการนำเสนอเทคโนโลยีหรือโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ช่วยกระตุ้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย เช่น การใช้แอปพลิเคชันในการสั่งซื้ออาหารหรือบริการ การสร้างระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น

5. ผลกระทบต่อธุรกิจท้องถิ่น
 
ธุรกิจท้องถิ่นบางส่วนได้เผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากการที่แฟรนไชส์จีนสามารถขยายตัวได้เร็วและมีข้อได้เปรียบด้านราคา อาจทำให้ธุรกิจท้องถิ่นในไทยที่ไม่มีทุนหรือทรัพยากรเพียงพอ ต้องปิดกิจการหรือปรับตัวทางธุรกิจให้อยู่รอด

6. ผลกระทบด้านวัฒนธรรม
 
การบุกตลาดของแฟรนส์จีน อาจส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมและรสนิยมการบริโภคของคนไทย โดยเฉพาะเมื่อแฟรนไชส์จีนบางรายนำเสนอสินค้าหรือบริการที่มีความแตกต่างจากวัฒนธรรมไทย อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรสนิยมของผู้บริโภคได้ ยกตัวอย่างร้านอาหารหมาล่าชาบู ที่เข้ามาเปิดตลาดในไทยช่วงแรกๆ คนล้นแทบทุกร้าน ต้องมานั่งรอคิวเป็นชั่วโมง 
 
โดยรวมแล้วการที่แฟรนไชส์จีนบุกตลาดไทย มีผลทั้งในแง่บวกและลบ ทั้งในเรื่องของการสร้างโอกาสทางธุรกิจและการสร้างงาน แต่ก็ต้องระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้แฟรนไชส์ในไทยอาจต้องปิดกิจการ และจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องใช้เงินทุนที่เพิ่มมากขึ้น มีผลต่อเงินทุนหมุนเวียนระยะยาวได้  
 
 
วิธีรับมือแฟรนไชส์จีนบุกไทย ปี 2568 
 
การรับมือกับการบุกตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์จีนในไทย ปี 2568 ต้องมีกลยุทธ์ที่เฉียบคมและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น โดยสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
 
1. สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ 
 
  • เน้นความเป็นไทย ใช้เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและสินค้าที่มีความเป็นไทย เช่น การนำเสนอเมนูอาหารไทยในแบบที่ไม่เหมือนใคร หรือการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่รักในอาหารไทย
  • สร้างประสบการณ์พิเศษ สร้างความแตกต่างในการให้บริการ เช่น การออกแบบบรรยากาศของร้าน การบริการที่เน้นความเป็นมิตร หรือการใช้เทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า 
2. นำเทคโนโลยีมาปรับใช้งาน
  • ลงทุนในเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ การใช้ระบบการจัดการข้อมูลลูกค้า (CRM) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ
  • ปรับกลยุทธ์ออนไลน์ ทำตลาดดิจิทัลจะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและเร็ว เช่น การทำแคมเปญโฆษณาออนไลน์ การทำโปรโมชั่นผ่านโซเชียลมีเดีย หรือร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมตแบรนด์
3. เน้นความคุ้มค่าและคุณภาพ
  • แข่งขันด้านคุณภาพและบริการ ในขณะที่แฟรนไชส์จีนอาจเน้นราคาถูก การเน้นความคุ้มค่าและคุณภาพในสินค้าหรือบริการจะทำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการธุรกิจไทยที่มีคุณภาพสูง
  • เพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า สร้างโปรแกรมสมาชิกหรือโปรแกรมสะสมแต้มที่ให้ประโยชน์กับลูกค้า เช่น ส่วนลด, ของขวัญ, หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ สามารถดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ
4. ปรับกลยุทธ์ด้านราคา
 
  • ควรกำหนดราคาสินค้าหรือบริการที่เหมาะสม สามารถแข่งขันกับแฟรนไชส์จีนได้ โดยการพิจารณาจากคุณภาพสินค้า, ต้นทุนการผลิต, และราคาในตลาด
  • เสนอบริการที่แตกต่าง อาจเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าหรือบริการ เช่น เสนอโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาล หรือให้บริการเพิ่มเติมที่แฟรนไชส์จีนไม่มี
5. เพิ่มการเข้าถึงตลาด
  • เพิ่มช่องทางจำหน่าย เปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ที่ยังมีการแข่งขันกันน้อย หรือเพิ่มช่องการขายออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น
  • ร่วมมือกับพันธมิตร ผู้จัดจำหน่ายท้องถิ่น เพื่อขยายตลาดและเข้าถึงลูกค้าจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งในตลาด
6. ให้บริการที่ดีเยี่ยม
  • ฝึกอบรมพนักงาน เพิ่มคุณภาพในการบริการ ตั้งแต่การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจ
  • บริการหลังการขายที่ดี เช่น ให้บริการคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สินค้าหรือบริการ เพื่อช่วยสร้างความภักดีให้กับลูกค้า
7. สร้างพันธมิตรกับแฟรนไชส์จีน
 
  • ร่วมมือหรือซื้อแฟรนไชส์จีน อาจเลือกซื้อแฟรนไชส์จีนเพื่อขยายสาขา ช่วยให้ธุรกิจเติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
  • ศึกษากลยุทธ์แฟรนไชส์จีน เช่น วิธีการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์จีน ช่วยให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจตัวเองได้
8. ศึกษาแนวโน้มและวิเคราะห์ตลาด
  • วิเคราะห์ข้อมูลตลาด ติดตามแนวโน้มและพฤติกรรมของผู้บริโภค จะช่วยให้นำเสนอสินค้าและปรับกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับผู้บริโภคได้ 
  • ศึกษาคู่แข่ง ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความได้เปรียบ และปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลง
สุดท้าย การรับมือกับแฟรนไชส์จีนในประเทศไทยปี 2568 ผู้ประกอบการอาจจะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจ ศึกษาตลาดและคู่แข่ง พร้อมกับสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคู่แข่ง มุ่งเน้นแข่งขันด้านคุณภาพและการบริการที่ดีกว่า อาจจะสามารถช่วยให้ธุรกิจไทยรวมถึงแฟรนไชส์ไทยแข่งขันกับแบรนด์จีน และแบรนด์อื่นๆ จากต่างประเทศได้ 
 
แหล่งข้อมูล 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ Yolé ไอศกรีมโยเกิร์ต บิวกิ้นยิ้มร่า พาโ..
584
รวม 12 แฟรนไชส์ร้านชานมไข่มุก! ระบบพร้อมเปิดร้าน..
555
รวม 7 แฟรนไชส์ลงทุนน้อย “แต่ขายดี” มือใหม่ก็เปิด..
535
3 แฟรนไชส์จีน Mixue - Wedrink - Bingchun ลงทุนตอ..
458
3 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนกรกฏาคม 2568
432
NaiSnow ชาผลไม้จีน 1,700 สาขา ขายแฟรนไชส์ เต็มสูบ!
430
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด