หน้าอินโฟกราฟฟิค    บทความ    รวม 9 เทคนิคต่อรอง “ราคาพื้นที่เช่า” นำไปใช้ได้จริง
1.5K
4 กันยายน 2567
รวม 9 เทคนิคต่อรอง “ราคาพื้นที่เช่า” นำไปใช้ได้จริง
 
1.หาข้อมูลทำเลที่เช่าให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะเริ่มเจรจา
 
การมีข้อมูลที่มากพอ เช่น ประวัติการเช่าที่ผ่านมา คาดการณ์เรื่องทำเลนี้ในอนาคต หรือแม้แต่ข้อมูลด้านกายภาพที่เกี่ยวข้องกับทำเลในด้านต่างๆ ก็ล้วนมีผลทางจิตวิทยาที่ทำให้เจ้าของทำเล รู้ว่าเราศึกษามาดี ข้อมูลบางอย่างเจ้าของทำเลอาจยังไม่เคยรู้ด้วยซ้ำ ยิ่งมีข้อมูลมาก การเจรจาต่อรองราคาก็จะง่ายขึ้นด้วย
 
2.อย่ายอมรับ ที่ข้อเสนอแรก
 
จำไว้ให้ดีว่าในทักษะการต่อรองก็เหมือนการเล่นเกมไพ่ ที่เจ้าของทำเลอาจถือไพ่ที่ดูเหมือนจะเหนือกว่าแต่บางทีก็ไม่ใช่ การเปิดราคาในตอนแรกถ้าเราตกลงทันทีโดยไม่ต่อรอง ย่อมไม่ใช่วิธีที่ฉลาดแน่ สิ่งที่ควรมีคือการแสดงให้เห็นว่าเราเองก็มีไพ่เด็ดในมือที่น่าสนใจและทำให้เจ้าของทำเลรู้ว่าสิ่งที่จะได้ประโยชน์จากการให้เราเช่าพื้นที่มีอะไรบ้าง อาจนำไปสู่การลดราคาได้ตามที่ต้องการ
 
3.ยื่นข้อเสนอที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย
 
เราต้องเข้าใจก่อนว่าเจ้าของทำเลก็ไม่อยากเสียเปรียบผู้เช่า ในขณะที่ผู้เช่าก็ไม่ต้องการจ่ายแพง สิ่งที่จะทำให้ win-win ทั้ง 2 ฝ่ายคือข้อเสนอที่ยอมรับได้ อาจเป็นเรื่องของภาพลักษณ์เช่นในพื้นที่นี้หากมีแบรนด์ของเรามาเปิดให้บริการจะทำให้เป็นทำเลที่ดูน่าสนใจ คนอยากเข้ามาใช้บริการมากขึ้น เมื่อความรู้สึก win-win เกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่ายการเจรจาเรื่องราคาก็ง่ายขึ้น
 
4.ทำตัวเป็นกันเอง
 
การวางตัวระหว่างการเจรจาก็เป็นการแสดงออกที่สำคัญ ซึ่งไม่มีใครอยากให้ตัวเองด้อยกว่าคู่เจรจา แต่การวางตัวให้ดูเหนือกว่าก็ทำให้การเจรจาเกิดขึ้นได้ยากเช่นกัน วิธีที่ง่ายที่สุดคือการสนทนาที่เป็นกันเอง  จะช่วยเพิ่มบรรยากาศในการเจรจาที่เป็นไปในทิศทางบวกได้ดีกว่า เงื่อนไขใดๆ ในระหว่างการเจรจาก็สามารถพูดคุยได้ง่ายขึ้น หากเป็นการเจรจาที่เคร่งขรึมบรรยากาศตึงเครียด อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เราไม่ต้องการได้
 
5.แจ้งงบประมาณจริงๆที่เรามี
 
อีกวิธีที่อาจทำให้ได้ค่าเช่าในราคาที่ถูกคือไม่ต้องอ้อมค้อม บอกงบประมาณที่เราตั้งเป้าไว้ในใจให้เจ้าของทำเลได้ทราบ และก็สอบถามกันไปตรงๆแบบเปิดใจว่าหากเรามีงบเท่านี้เขาจะลดหย่อน หรือมีโปรโมชั่นช่วยเหลืออะไรเราได้บ้าง เชื่อว่าหากเป็นเจ้าของพื้นที่ที่ไม่เขี้ยวลากดินเกินไปก็อาจจะมีวิธีการที่ทำให้ค่าเช่าถูกลงได้
 
6.เจรจาต่อรองกับคนที่มีอำนาจการตัดสินใจ
 
การเจรจาต่อรองที่ได้ผลดีที่สุด ผู้ซื้อต้องค้นหาให้ได้ว่าใครคือคนที่ควรเจจาต่อรองด้วย และเป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ก็จะทำให้การเจรจาต่อรองนั้นเกิดผลดีมากที่สุด เพราะในบางครั้งการให้ลูกน้องมารับหน้าที่พูดคุยแทนซึ่งก็ไม่มีอำนาจที่จะมาให้ส่วนลดลูกค้าได้ การพูดคุยกับเจ้าของโครงการโดยตรงจะมีโอกาสได้ส่วนลดที่มากขึ้น
 
7.เลือกไม่รับของแถม แต่เสนอให้ลดราคาแทน

สำหรับบางพื้นที่อาจจะมีโปรโมชั่นที่แถมอุปกรณ์หรือสิ่งของหรือให้บัตรกำนัลต่างๆ แล้วแต่การจัดแคมเปญของเจ้าของพื้นที่ ซึ่งหากเราเป็นหนึ่งในพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการส่วนลดเป็นหลักขอให้มองข้ามของแถมเหล่านี้หรือโปรโมชั่นที่เรามองว่าไม่ได้ประโยชน์แต่ลองขอให้เป็นการลดราคาแทน ซึ่งอาจจะคุ้มค่าในความรู้สึกของเราด้วย
 
โปรโมชั่นที่เรามองว่าไม่ได้ประโยชน์แต่ลองขอให้เป็นการลดราคาแทน ซึ่งอาจจะคุ้มค่าในความรู้สึกของเราด้วยเลือกส่วนลดราคาแทนของแถมหรือโปรโมชั่นที่ไม่จำเป็น
 
8.แสดงออกเหมือนว่าเราไม่อยากได้ทำเลนี้

เป็นการใช้จิตวิทยาที่ต่อให้เราอยากได้พื้นที่เช่าตรงนี้มากแค่ไหน แต่ก็ต้องไม่แสดงออกชัดเจนซึ่งอาจมีผลให้เจ้าของทำเลนึกเพิ่มราคาค่าเช่า อันเนื่องจากเขาเห็นว่าเราต้องการอย่างมาก ในการต่อรองหากฝ่ายไหนเป็นคนคุมเกมเอาไว้ได้อำนาจในการต่อรองก็จะมากกว่า
 
9.หากเจรจาไม่สำเร็จ ต้องกล้าที่จะถอย 

หากรู้แน่ชัดว่า เจ้าของพื้นที่เช่านั้นไม่ตกลงในราคาที่เราต้องการแน่นอนแล้ว เราต้องกล้าพอที่จะยกเลิก การเจรจานั้นทันที ให้โอกาสอีกฝ่ายได้พักหายใจสักระยะ แล้วค่อยติดต่อเข้าไปใหม่ โดยไม่กระชั้นเกินไป และไม่ห่างหายนานเกินไปจนอีกฝ่ายจำข้อมูลที่คุยกันไม่ได้
 
ปัจจุบันทำเลทองมีอยู่ในหลายพื้นที่ ราคาค่าเช่าก็แตกต่างกันไป สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างคือต้นทุนค่าเช่าไม่ควรเกิน 15 – 20% ของยอดขาย ดังนั้นไม่ว่าจะสนใจเลือกทำเลไหนต้องดูให้เหมาะสมกับธุรกิจ
 

ข้อมูล ณ วันที่ 4 ก.ย. 2567
อินโฟกราฟฟิคที่น่าสนใจอื่นๆ