เซ็นเตอร์พ้อยท์ เปิดตัวเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2541 เดิมแรกเริ่มสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีจุดประสงค์ต้องการพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นลานกิจกรรมสำหรับวัยรุ่น โดยมีบริษัท พรไพลิน จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นผู้ชนะการประมูลและได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีสัญญาเช่าช่วงแรก เป็นเวลา 6 ปี จากปี 2541-2547 และต่อสัญญาอีก 3 ปี จนถึงปี 2550
ในช่วงพฤษภาคม 2547 ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ให้มีพื้นที่กิจกรรมมากขึ้น โดยรื้อถอนพื้นที่ร้านค้าตรงกลางจำนวน 12 ยูนิต ทำเป็นพื้นที่กิจกรรม และในส่วนพื้นที่โล่งสร้างหลังคาโปร่งแสงคลุมให้สามารถทำกิจกรรมในช่วงฤดูฝนได้
ส่วนบริเวณน้ำพุ ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของเซ็นเตอร์พ้อยท์ได้ปรับให้มีขนาดเล็กลง และเป็นทรงกลมเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการนั่งชมจอเชคเกอร์สกรีน
เซ็นเตอร์พ้อยท์ปิดตัวที่สยามสแควร์ไป โดยมีการจัดงานอำลาในชื่องานว่า "เซ็นเตอร์พ้อยท์ อินฟินีตี้ ปาร์ตี้" เมื่อวันที่ 14-15 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และหลังการปิดตัวที่สยามสแควร์
และต่อมาเซ็นเตอร์พ้อยท์แหล่งใหม่เปิดตัวแห่งใหม่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเดือนมีนาคม 2551 โดยเป็นการร่วมธุรกิจกัน โดย 3 บริษัทคือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เจ้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, บริษัท มาสเตอร์แอด จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นเตอร์พ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
เปิดตัวเซ็นเตอร์พ้อยท์ ภายใต้ชื่อ "เซ็นเตอร์พ้อยท์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์" ตั้งอยู่บนชั้น 7-8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รวมพื้นที่รวมกว่า 1 หมื่นตร.ม.
โดย มีพื้นที่หลัก 2 ส่วน คือ โซนเทคโนเทนเม้นท์ เจาะกลุ่มวัยรุ่นชาย เช่น โซนสินค้าดิจิทัล และเกมออนไลน์ แบบอารีน่า ที่มีการแข่งขันเกมผ่านจอขนาดใหญ่ และส่วนที่ 2 คือ โซนเออเบิร์น ไลฟ์สไตล์ แบ่งเป็น
- เอเชี่ยนไลฟ์สไตล์ เจาะกลุ่มผู้หญิง มี การ์ตูนเวิลด์, ร้านขายสินค้าที่ระลึกจากศิลปินเอเชีย, ร้านซาลอนแนวเกาหลี ญี่ปุ่น และ
- แอคติ้ง จะมีโรงละคร 750 ที่นั่ง, บูติค คาราโอเกะ, อีเวนท์ ฮอลล์, โซนอาหารแบบ สตรีท ฟู้ด และกำลังเจรจาผู้ดำเนินธุรกิจแบรนด์ดังในญี่ปุ่นและเกาหลี มาเปิดสาขา
-