5 เรื่องต้องรู้ สำหรับพ่อค้าแม่ขาย (มือใหม่)

 

ทาง ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่า ขายของตลาดนัด คงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ใครหลายคนอยากจะลองลงมือทำกันไม่น้อย  เพราะเป็นอาชีพที่ให้ความเป็นอิสระ สนุก มีโอกาสลุ้นกับรายรับจำนวนมากในแต่ละวัน อีกทั้งยังทำให้มีโอกาสพูดคุยและพบเจอกับใครต่อใครได้อย่างมากมาย

สำหรับพ่อค้าแม่ขายมือใหม่ท่านใดที่กำลังวางแผนว่าจะลงมือค้าขายให้เป็นเรื่องเป็นราว หรืออยากจะลองเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการค้าขาย แต่ยังลังเลใจ หรือไม่รู้ว่าจะจับต้นชนปลายอย่างไรดี วันนี้ เราจึงนำเอา 5 เรื่องดีๆ ที่พ่อค้าแม่ขายมือใหม่จะต้องรู้สำหรับการขายของตลาดนัด มานำเสนอเป็นแนวทางค่ะ ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น เราได้แบ่งไว้เป็นหัวข้อต่อไปนี้


1.สินค้าที่จะขายต้องเป็นที่ต้องการ

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเรื่องค้าขาย  คำถามแรกที่ต้องเกิดขึ้นก็คงจะหนีไม่พ้นคำถามที่ว่า จะเอาอะไรมาขายดี? ซึ่งบางครั้ง คำถามนี้ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพ่อค้าแม่ขายมือใหม่เลยทีเดียว  ซึ่งนอกจากจะเป็นสินค้าที่ผู้ขายมีความชื่นชอบและเป็นสินค้าที่เหมาะสมกับงบการลงทุนที่ได้วางเอาไว้แล้ว สิ่งสำคัญที่ควรต้องคำนึงถึงก็คือ สินค้าที่เลือกมาขายนั้นต้องเป็นที่ต้องการของผู้คนด้วย ไม่ว่าจะเป็นของกิน หรือของใช้ก็ตาม

พ่อค้าแม่ขายมือใหม่อาจจะทำการสำรวจและสังเกตความต้องการจากผู้คนรอบๆตัว กระแสสังคม รวมไปถึงสำรวจและสังเกตผู้คนจากทำเลที่วางแผนว่าจะไปค้าขายด้วย ว่าผู้คนในทำเลนั้นๆ เป็นใคร มีพฤติกรรมการซื้ออย่างไร มีความต้องการหรือสนใจสินค้าประเภทใดกันบ้าง

เพราะในบางครั้ง แม้ว่าสินค้าที่พ่อค้าแม่ขายเลือกมาขายจะดีหรือมีคุณสมบัติโดดเด่นแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้เป็นสินค้าที่อยู่ในความต้องการ ก็อาจจะขายได้น้อย หรือไม่สามารถขายออกได้เลยก็เป็นได้



2. รู้จักแหล่งค้าส่งสินค้าเป็นอย่างดี

เมื่อตัดสินใจและกำหนดได้แล้วว่าต้องการจะขายอะไร คำถามต่อมาก็คือ จะไปนำสินค้านั้นๆ มาขายได้จากที่ไหน  พ่อค้าแม่ขายมือใหม่ควรทำการศึกษาข้อมูลในส่วนนี้ให้ดี เพราะในปัจจุบันมีแหล่งค้าส่งที่เป็นเสมือนศูนย์รวมสินค้าเฉพาะด้านต่างๆ จำนวนมาก ทั้งสินค้าด้านแฟชั่น ข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ไอที รวมไปถึงแหล่งค้าส่งที่เป็นวัตถุดิบ  ซึ่งพ่อค้าแม่ขายควรศึกษาและเปรียบเทียบแหล่งค้าส่งแต่ละแห่ง ว่ามีความโดดเด่นและแตกต่างกันในด้านไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นในด้านของรูปแบบสินค้า ราคา รวมไปถึงความสะดวกและระยะทางของการเดินทาง

การที่พ่อค้าแม่ขายได้แหล่งค้าส่งที่ดี นอกจากจะมั่นใจว่าจะได้สินค้าที่ตรงใจมาขายแล้ว การที่ได้ซื้อสินค้าในราคาส่งที่ถูก ก็จะทำให้พ่อค้าแม่ขายมีโอกาสที่จะได้กำไรจากการขายที่สูงขึ้นอีกด้วย

3.ไม่พลาดเรื่องทำเล

นอกไปจากเรื่องของสินค้าแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องของทำเลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ยอดขายจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับการเลือกทำเลเลยทีเดียว และเป็นที่แน่นอนว่า ไม่ว่าพ่อค้าแม่ขายจะขายอะไร ก็ล้วนที่จะต้องการ “ทำเลทอง” กันทั้งนั้น

ทำเลทอง หรือทำเลดีที่พ่อค้าแม่ขายต่างแย่งชิงพื้นที่ในการค้าขายมักจะเป็นทำเลที่เต็มไปด้วยผู้คน อยู่ท่ามกลางหรือใกล้เคียงกับสถานที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก เป็นทำเลที่ผู้คนส่วนใหญ่มีกำลังในการซื้อและมีกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงเป็นทำเลที่มีการคมนาคมที่สะดวกสบายง่ายต่อการเดินทางมาจับจ่ายใช้สอย

พ่อค้าแม่ขายมือใหม่ควรทำการสำรวจทำเลในแต่ละแห่งให้ละเอียดถีถ้วน วิเคราะห์ถึงองค์ประกอบต่างๆ ของทำเลนั้นๆ ว่ามีความเหมาะสมกับการที่จะไปค้าขายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งไม่เพียงแต่จะพิจารณาว่าเป็นทำเลทองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึงราคาค่าเช่า รวมถึงความสะดวกในการเดินทางเพื่อที่จะขนย้ายสินค้ามาขายด้วย


4.จองล็อกให้ว่องไว

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะค้าขายที่ทำเลไหน อันดับต่อมาที่พ่อค้าแม่ขายจะต้องทำก็คือการจองล็อคนั่นเอง ซึ่งในขั้นตอนนี้พ่อค้าแม่ขายก็ไม่ควรที่จะชะล่าใจเป็นอันขาด ทางที่ดีนั้น พ่อค้าแม่ขายมือใหม่ควรที่จะศึกษาถึงกฎระเบียบต่างๆ  วิธีการจองล็อก  รวมถึงระยะเวลาที่เหมาะสมในการจองล็อคของตลาดนั้นๆ ให้ดี ควรดูว่าพ่อค้าแม่ขายคนอื่นๆ เขาทำกันอย่างไร เพราะถ้าหากไม่รู้วิธีและไปช้า ทำเลดีๆ ที่เล็งเอาไว้ก็จะไม่มีพื้นที่เหลือให้พ่อค้าแม่ขายได้ค้าขายอย่างแน่นอน

เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ในตลาดหรือทำเลที่เป็นที่รู้จักของใครต่อใครนั้นจะมีบรรดาพ่อค้าแม่ขายพากันไปจับจองพื้นที่เป็นจำนวนมาก หลายๆ คนเลือกที่จะไปเข้าคิวกันก่อนเวลาด้วยซ้ำ ดังนั้น พ่อค้าแม่ขายมือใหม่ก็ควรที่จะทำเวลา เพื่อที่จะไม่พลาดโอกาสดีๆ ในการค้าขายเช่นเดียวกัน


5.ใส่ใจในเรื่องดินฟ้าอากาศ

เรื่องของฟ้าฝนนั้นถือเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงที่อยู่คู่กับบรรดาพ่อค้าแม่ขายเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อฝนตกคราใด พ่อค้าแม่ขายก็จะไม่สามารถค้าขายได้อย่างราบรื่น บางครั้ง ในวันนั้นๆ ก็อาจจะไม่สามารถขายได้เลยก็เป็นได้ สำหรับพ่อค้าแม่ขายที่เช่าที่แบบรายวัน ก็อาจจะทำให้ต้องเสียค่าเช่าที่ไปฟรีๆได้เลย  ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจออกมาค้าขายในแต่ละวัน นอกจากพ่อค้าแม่ขายจะต้องตระเตรียมอุปกรณ์กันแดดกันฝนต่างๆ ให้พร้อมแล้ว ก็ควรที่จะสังเกตฟ้าฝนหรือดูพยากรณ์อากาศให้ดีด้วย เพราะนอกจากจะค้าขายได้อย่างยากลำบากแล้ว บางครั้ง สินค้าที่เอามาขายก็อาจจะได้รับความเสียหายไปด้วย

การขายของตลาดนัด อาจจะมีเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมายนอกเหนือจากนี้ ซึ่งพ่อค้าแม่ขายต้องใช้ระยะเวลาเรียนรู้จากประสบการณ์และการลงมือทำ

ทาง ThaiFranchiseCenter.com หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่เราได้นำมาเสนอในวันนี้จะสร้างประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย และขอเอาใจช่วยพ่อค้าแม่ขายมือใหม่ ให้สามารถทำตามความต้องการได้อย่างประสบความสำเร็จนะคะ