รูปแบบที่ 2 อู่ที่เป็นตัวแทนของศูนย์รถยนต์

จัดเป็นรูปแบบของธุรกิจอู่ประเภทใหม่ที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของ ศูนย์รถยนต์แบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการให้มีการบริการลูกค้าอย่างครบวงจร ซึ่งการจัดตั้งอู่ลักษณะนี้เป็นเหมือนการนำชื่อของแบรนด์รถยนต์นั้นๆ มาใช้ อู่จึงต้องมีมาตรฐานและความน่าเชื่อถือเช่นเดียวกับอู่ประกันภัย

ข้อดีของการเป็นอู่ตัวแทนของศูนย์รถยนต์ก็คือ รถที่เข้ามาซ่อมทั้งหมดจะเป็นรถแบรนด์เดียวกันเท่านั้น จึงไม่ค่อยพบปัญหามากเหมือนการซ่อมรถหลายๆ แบรนด์ นอกจากนี้ การซ่อมรถแบรนด์เดิมๆ ยังทำให้ช่างในอู่เกิดความชำนาญในการซ่อมและวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ของรถได้อย่างรวดเร็วด้วย


รูปแบบที่ 3 อู่ทั่วไป

เป็นอู่ที่มีความเป็นอิสระ ไม่ผูกมัดกับใคร คุณภาพและมาตรฐานขึ้นอยู่กับเจ้าของอู่เป็นผู้กำหนด สามารถรับงานได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นตัดผุ เคาะ พ่นสี ซ่อมเครื่อง ปรับแต่ง ขึ้นอยู่กับฝีมือและความสามารถที่มี และงานที่เข้ามาจะมีมากหรือน้อยนั้นก็อยู่ที่การสร้างผลงาน

รวมถึงความเชื่อใจที่ลูกค้ามีให้ หากทำงานดี ราคาสมน้ำสมเนื้อ ก็จะมีการแนะนำกันแบบปากต่อปาก

เงินลงทุนของการ เปิดอู่ซ่อมรถ

เงินลงทุนขั้นต่ำเฉพาะในส่วนของอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ นั้นอยู่ที่ประมาณหลักแสน ถ้าหากเป็นอู่ประกันหรืออู่ตัวแทนศูนย์รถยนต์ยิ่งมีการลงทุนในส่วนของ เครื่องมือที่มากขึ้น เพราะจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือที่ใช้สำหรับยกรถ และแท่นสำหรับดึงตัวถัง ซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูง

สำหรับอู่ทั่วไปที่ มีต้นทุนน้อย อาจมีอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือที่ไม่ครบครันเท่าใดนัก ซึ่งก็อาจจะทำให้ทำงานได้ลำบาก แต่ก็สามารถอาศัยฝีมือที่มีทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้ดีเทียบเท่ากับอู่ที่มี เครื่องมือครบครันได้เช่นกัน


อันดับแรกที่ต้องพิจารณาสำหรับการเลือกทำเลในการ เปิดอู่ซ่อมรถ ก็คือ ทำเลที่เลือกจะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนทั้งด้านของมลพิษทางอากาศและมลพิษ ทางเสียงให้กับเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง

อันดับต่อมาก็คือ จะต้องเป็นพื้นที่ที่สามารถเข้า-ออกได้อย่างสะดวก ไม่อยู่ในซอยลึก เพราะถ้าหากเป็นอู่ที่เปิดใหม่จะทำให้เป็นที่รู้จักได้ยาก แต่ถ้าหากเป็นอู่ประกันที่รับงานจากบริษัทประกันที่แน่นอนอยู่แล้ว แม้จะโยกย้ายอู่มาอยู่ในซอยลึกก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก


สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเปิดอู่ซ่อมรถ

สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือเรื่องของฝีมือแรงงานที่เจ้าของอู่ได้ว่าจ้างเข้ามา ทำงาน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ก่อนว่าจ้างจึงจำเป็นต้องพิจารณาความสามารถของแรงงานให้ละเอียดรอบคอบ

หากได้แรงงานที่ฝีมือที่ดีมีคุณภาพก็ทำให้งานที่ทำออกมาดี เป็นหน้าเป็นตาและสร้างชื่อให้แก่อู่ ตรงกันข้าม หากได้แรงงานที่ไม่มีประสิทธิภาพก็อาจจะทำให้งานออกมาไม่ได้มาตรฐาน และในบางครั้งงานก็อาจจะไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนด

สิ่งที่ต้องคำนึงใน อันดับถัดมาของการ เปิดอู่ซ่อมรถ ก็คือเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากเป็นงานที่ต้องข้องเกี่ยวกับทินเนอร์ และน้ำมัน จึงต้องระวังในเรื่องของการเกิดอัคคีภัย

รวมไปถึงเรื่องของสุขภาพปอด เพราะจะต้องมีการพ่นสี จึงจำเป็นที่จะต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันที่รัดกุมอยู่เสมอ 

หัวใจสำคัญของการ เปิดอู่ซ่อมรถ

นอกไปจากรายได้ที่ได้จากการทำธุรกิจแล้ว หัวใจสำคัญของการ เปิดอู่ซ่อมรถ ก็คือ การใส่ใจในการให้บริการ สามารถรับผิดชอบและซอมแซมรถของลูกค้าให้กลับไปมีสภาพดังเดิม หรือใกล้เคียงกับของเดิมให้ได้มากที่สุด ผู้ที่ทำธุรกิจอู่ซ่อมรถ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ มีประสบการณ์ มีความชำนาญและเชี่ยวชาญ

เรียนรู้และคลุกคลีอยู่กับการซ่อมรถมาเป็น เวลานาน สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเป็น เมื่อลูกค้าให้ความไว้วางใจและมอบหมายงานมาให้ ก็จะต้องส่งงานให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพเช่นกัน


ทาง ThaiFranchiseCenter.com หวังว่า ข้อควรรู้พื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ นี้ จะสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ที่กำลังสนใจในธุรกิจอู่ซ่อมรถได้ไม่มากก็น้อย หากมีความพร้อมและความสามารถอยู่ในมือก็อย่ามัวแต่รอโอกาสที่จะลงมือทำนะคะ

สำหรับท่านใด ที่มีความตั้งใจจริง อยากเปิด อู่ซ่อมรถยนต์ สามารถเข้าไปชม ตัวอย่างแผนธุรกิจธุรกิจซ่อมรถยนต์ เพื่อดูราคาต้นทุนในการเปิดธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ โอกาสธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าผู้ประกอบธุรกิจอู่ซ่อมเครื่องยนต์รถยนต์ประเภทบุคคลธรรมดา ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ นะคะ


ลิขสิทธิ์รูปภาพโดย ThaiFranchiseCenter.com