จะมองว่าเป็นค่านิยมหรือคิดว่านี่คือความจริงในสังคมก็ตามแต่ คำว่า “การเรียนรู้” ยังเป็นสิ่งที่มีค่า และถ้าอยากรู้มากเก่งมากก็จำเป็นต้องเรียนให้มาก ทั้งนี้เพื่อให้ทันกับยุคการแข่งขันที่ลำพังความรู้ตามหลักเนื้อหาธรรมดาอาจไม่เพียงพอสำหรับอนาคตที่ดีอีกต่อไป

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปตัวเลขอัตราการเติบโตของโรงเรียนกวดวิชาเมื่อปีที่อยู่ที่ร้อยละ 6.8 เป็นการเติบโตที่สูงมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ แต่ทั้งนี้ตัวเลขโดยรวมของอัตราการขยายตัวนั้นถ้าเทียบกับเมื่อ 20 ปีก่อนที่มีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดดทำให้โดยเฉลี่ยแล้วธุรกิจนี้จะมีอัตราการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง
 

 

ภาพจาก  facebook.com/ilovemututor

ซึ่งมูลค่าการตลาดในปีที่ผ่านมาก็การันตีความน่าสนใจโดยทำรายได้ไว้ที่ประมาณ 8,189 ล้านบาท เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเร็วคือการปรับแผนการสอนและกลยุทธ์การตลาดที่ผู้ประกอบการทำให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น (ที่มา: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) 

 

แต่ก็ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะทำธุรกิจนี้แล้วไปรอด ปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ธุรกิจแตกต่างจากการลงทุนทั่วไปที่สำคัญคือเกี่ยวเนื่องกับคุณภาพของผู้เรียน  

www.ThaiFranchiseCenter.com จึงรวบรวมเอา 3 แฟรนไชส์ยอดนิยมที่มีคนสนใจทั้งอยากลงทุนและอยากส่งลูกหลานเข้าไปเรียน กลยุทธ์ที่มีนั้นเป็นอย่างไร จุดแข็งตรงไหนที่ทำให้พูดถึงชื่อเหล่านี้ก็มีคนรู้จักในทันที

 

 

ภาพจาก  facebook.com/ilovemututor

MU TUTOR โดยทีมงานพี่ ม.มหิดลติวเตอร์ ก่อตั้งธุรกิจนี้มานานกว่า 10 ปี ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากในด้านคุณภาพการติวเข้าสอบตรง สอบโควตา

ผู้ที่มาเรียนนอกจากได้ความรู้ความสนุกยังมีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมรวมกับเทคนิคการสอนที่แตกต่างจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครหลังจากที่เปิดธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์เมื่อปี 2553 ก็ขยายตัวไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
 

 

ภาพจาก  facebook.com/ilovemututor

 

หลักสูตรที่เปิดสอนมีตั้งแต่ ป.6 – ม.6  เน้นในหลักวิชาสำคัญเช่นคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ภาษาอังกฤษ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคอร์ส “ขั้นเทพ” สำหรับการสอบเข้าเตรียมอุดมหรือสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัย และคอร์สแบบเฉพาะทางเช่นคอร์หัวหมอ คอร์สพื้นฐานวิศวะ เป็นต้น

 

การลงทุนกับ MU TUTOR มีค่าแฟรนไชส์ 149,000 บาท ซึ่งผู้ลงทุนจะได้ระบบการจัดการที่ดีรวมถึงแนวทางการตลาดและการพัฒนาบุคลากรและเทคนิคการสอนรูปแบบใหม่ทั้งนี้เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

สามารถดูรายละเอียดข้อมูลแฟรนไชส์เพิ่มเติมได้ที่  เอ็มยูติวเตอร์ โดยทีมงานพี่ม.มหิดลติวเตอร์ 
 

 

 

ภาพจาก  facebook.com/KPDtutor

KPD Tutor เป็นสถาบันกวดวิชาคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ โดยความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการเริ่มดำเนินการก่อตั้งในปี พ.ศ. 2553 และเปิดสอนระดับประถม มัธยม มีระบบการเรียนรู้แบบครบวงจร คือมีทุกระบบให้เลือกทั้งแบบสอนสด แบบห้องเรียน DVD และแบบ KPD ON Demand

นอกจากนี้ KPDTutor ยังมีเป้าหมายให้ผู้เรียนทุกคนเรียนอย่างมีความสุข  พัฒนาตัวเองอย่างมีลำดับ โดยแข่งกับตัวเอง  เป็นสำคัญ
 

 

ภาพจาก   facebook.com/KPDtutor

 

หลักสูตรที่เปิดสอนเน้นที่คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เริ่มตั้งแต่คอร์สปรับพื้นฐาน  คอร์สตะลุยโจทย์แข่งขัน  คอร์สสอบเข้ามัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย  รวมถึงคอร์สระดับโลกเพื่อเข้าแข่งขันโอลิมปิก เป็นต้น

ผู้ที่สนใจลงทุนกับ KPD Tutor นี้ภายในระยะเวลาที่ทำสัญญาสามารถนำคอร์สเรียนไปเปิดให้บริการได้อย่างไม่จำกัดในงบประมาณเบื้องต้น 150,000 บาท มีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 4 เดือนแต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เรียนในแต่ละพื้นที่ด้วย

 

ซึ่งจุดเด่นที่ทำคนสนใจลงทุนกันจำนวนมากนั้นเพราะนี่คือการสอนที่มีมากกว่า 50 คอร์ส มีเทคนิคการสอนที่เจาะลึกทุกทฤษฏี มีวิธีการลัดที่ทำให้แก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ แน่นอนว่าเมื่อผู้ปกครองมั่นใจในเนื้อหาย่อมนำมาสู่ผลประกอบการที่เรียกว่าถ้าทำเลดีงานนี้ทำกำไรได้ไม่อั้น
 
สามารถดูรายละเอียดข้อมูลแฟรนไชส์เพิ่มเติมได้ที่  สถาบันกวดวิชา เคพีดี ติวเตอร์
 

 

 

ภาพจาก  facebook.com/HighSpeedMathsCenter

HIGH-SPEED MATHS.CENTER เปิดดำเนินกิจการมานานกว่า 20 ปี เปิดสอนครบทุกวิชาทุกระดับตั้งแต่ระดับประถมจนถึงถึงมัธยมปลายโดยทีมอาจารย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกว่า 20 ท่านในทุกรายวิชา

ด้วยดีกรีระดับเกียรตินิยม และระดับตัวแทนโอลิมปิก สอนสนุก เข้าใจง่าย และถ่ายทอดบทเรียนได้ดีที่สุดหลักสูตรการเรียนการสอนมากกว่า 500 หลักสูตรเพื่อการปรับใช้ให้เข้ากับสภาวะการแข่งขัน

 

สถาบันกวดวิชานี้เป็นแห่งเดียวที่มีระบบ Maths.On-Demand โดยใช้ระบบ CLOUD SERVER NETWORK ที่ทันสมัยที่สุด พร้อมกับตำราเรียนที่สวยงามน่าใช้ไม่ใช่การถ่ายเอกสาร

ผู้สนใจการลงทุนกับ HIGH-SPEED MATHS.CENTER ใช้เงินลงทุน 950,000 บาท สามารถเปิดคอร์สสอนได้ 4 ครั้งต่อปี คือเปิดเทอมต้น ปิดเทอมตุลาคม เปิดเทอมปลาย และปิดเทอมมีนาคม-เมษายน
 

 

ภาพจาก  facebook.com/HighSpeedMathsCenter
 

พร้อมกันนี้ยังมีทีมตลาดมืออาชีพที่พร้อมทำการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าสามารถคืนทุนกลับมาได้ไวในเวลาไม่นานการันตีปัจจุบันด้วย 15 สาขาที่มีผลกำไรอย่างสวยงามในแต่ละปี

 

ทั้งนี้การลงทุนด้านการศึกษานี้แม้จะเป็นตลาดที่ใหญ่และในอนาคตมีแนวโน้มที่สดใสแต่ผู้ลงทุนเองควรตรวจสอบตัวเองว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องเงินทุนเท่านั้น

บางครั้งประสบการณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก ถ้ายังไม่เคยผ่านจุดนี้แต่มีความตั้งใจที่จะเริ่มต้นการเลือกแฟรนไชส์ที่พร้อมสนับสนุนได้ทุกอย่าง ก็จะช่วยให้ธุรกิจสร้างกำไรได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

สามารถดูรายละเอียดข้อมูลแฟรนไชส์เพิ่มเติมได้ที่  สถาบันกวดวิชา ไฮ-สปีด แมธ เซ็นเตอร์

 

รวมรายชื่อแฟรนไชส์สถาบันกวดวิชาในประเทศไทย  http://goo.gl/cmt1Rz 

 

เรียบเรียงโดย ThaiFranchiseCenter.com