จีนถือเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในระดับโลก ตลาดของจีนมีความน่าสนใจมากมาย

สิ่งสำคัญคือจำนวนประชากรที่มีจำนวนมาก เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนต่างชาติไม่ว่าใครต่อใครก็อยากเข้าไปขยายกิจการในเมืองจีนกันแทบทั้งนั้นโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคที่มาในรูปแบบร้านสะดวกซื้อถือว่ากำลังเติบโตในจีนได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

 

www.ThaiFranchiseCenter.com มองเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในตลาดของจีนและธุรกิจของร้านสะดวกซื้อที่กำลังเฟื่องฟู แม้ว่าจีนจะมีพื้นที่ประเทศกว้างใหญ่มาก ธุรกิจร้านสะดวกซื้ออาจจะกระจุกตัวอยู่ในเฉพาะเมืองใหญ่ๆ แต่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะสร้างรายได้มหาศาลชนิดที่เรียกว่าคุ้มค่าการลงทุนแน่นอน

 

 

ประเทศจีนแม้จะกว้างใหญ่แต่ร้านสะดวกซื้อยังมีอยู่ในมณฑลใหญ่เป็นหลักไม่ว่าจะปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้  กว่างโจง เฉินตู  เป็นต้น ร้านสะดวกซื้ออันดับหนึ่งในเมืองจีนคือแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดีนั้นคือ เซเว่น-อีเลฟเว่น ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ก็คือ FamilyMart นอกนั้นก็เป็นร้านสะดวกซื้อแบรนด์เก่าในท้องถิ่นที่ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เช่น Hong Qi , WuDengFeng และ WoWo เป็นต้น
 

 

ซึ่งร้านสะดวกซื้อในจีนเป็นการซื้อลิขสิทธิ์มาจากประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นสินค้าที่วางขายจึงเป็นสินค้าที่มาจากญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากรูปแบบการบริการและการจัดวางสินค้าก็เป็นมาตรฐานเดียวกับที่เราคุ้นเคยอาจจะแตกต่างในรายละเอียดบางอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตของคนจีนเป็นหลัก

แต่อย่างไรก็ตามถ้าพูดถึงจำนวนโดยรวมของร้านสะดวกซื้อทั้งหมดถือว่ายังมีปริมาณน้อยมากยิ่งถ้าเทียบกับประเทศไทยที่เดินไปทางไหนก็เจอแต่ถ้าในเมืองจีนบางครั้งแทบจะเรียกว่างมเข็มในมหาสมุทรกันเลยทีเดียว

 

“เฉิงตู” หนึ่งในมณฑลด้านตะวันตกของจีนมีแผนการปรับปรุงและยกระดับการบริการของร้านสะดวกซื้อให้สมบูรณ์และครบวงจรมากขึ้นโดยเตรียมดำเนินโครงการสร้าง “ศูนย์รวมการบริการที่ครบวงจรใน 15 นาที” กระจายอยู่ในชุมชนแต่ละแห่งทั่วนครเฉิงตู เพื่อทำให้ชุมชนให้มีความทันสมัยและครบวงจรมากยิ่งขึ้น

โดยในแต่ละศูนย์รวมการบริการดังกล่าวจะต้องมี “ร้านสะดวกซื้อ” เปิดให้บริการอย่างน้อย 1 ร้าน และตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2560 “ร้านสะดวกซื้อ” ในนครเฉิงตูจะมีจำนวนมากกว่า 10,000 แห่ง

เพราะปัจจุบัน จำนวนร้านสะดวกซื้อต่อประชากรหนึ่งล้านคนของจีนเฉลี่ยอยู่ที่ 54 ร้านต่อ 1 ล้านคน ซึ่งยังล้าหลังประเทศอื่นๆ อยู่มาก เช่น ญี่ปุ่น (388 ร้านต่อ 1 ล้านคน) และไต้หวัน (425 ร้านต่อ 1 ล้านคน)

 

1.มีของกินมากมายคล้ายกับประเทศอื่นๆแต่ที่ดูไม่เหมือนคือมีมุมขายข้าวแกง ใครอยากได้แกงแบบไหน ผัดอะไร ก็สั่งราดข้าวรับประทานได้เลย
 

 

2.ร้านสะดวกซื้อที่จีนมีซาลาเปาขายเหมือนทั่วไปแต่ที่นี่ไม่มีขนมจีบขายเหมือนในประเทศไทย
 

 

3.อาหารกล่อง และข้าวปั้นหลากหลายประเภท ถอดแบบมาจากญี่ปุ่นแต่ที่ไม่ต้องหวังคือการเห็นเนื้อปลา เนื้อกุ้งชิ้นโตๆ เพราะที่เมืองจีนวัตถุดิบเหล่านี้แพงมาก เพื่อประหยัดต้นทุนจึงเน้นที่ข้าวมากกว่าการสอดไส้แบบต่างๆ

 

 

4.ที่จีนมะม่วงจะเป็นเหมือนผลไม้ไฮโซยอดฮิตไม่ว่าจะเครื่องดื่ม ขนม ของหวานมักจะมีส่วนผสมของมะม่วงไม่เว้นแม้แต่สินค้าในร้านสะดวกซื้อที่มีสินค้าเกี่ยวกับมะม่วงมากมายแต่บอกก่อนเลยว่ามะม่วงแบบจีนจะลูกเล็กและรสชาติออกไปทางเปรี้ยวๆมากกว่า
 

 

5.ร้านสะดวกซื้อที่นี่หาขนมไหว้พระจันทร์ได้ง่ายมาก เพราะที่เมืองจีนเป็นต้นตำหรับของเทศกาลมากมาย มีการไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษกันมากเป็นพิเศษ ดังนั้นขนมไหว้พระจันทร์ที่นี่จึงหลากหลายมีทั้งคาวหวาน อย่างไส้เนื้อวัว ไส้พุทรา ไส้ถั่วแดง ไส้ชาเขียว เป็นต้น
 

 

6.ไม่มีการขายน้ำแข็งในร้านสะดวกซื้อของจีนเนื่องจากไม่เป็นที่นิยม ส่วนใหญ่จะเน้นการทานของอุ่นและร้อนมากกว่าอย่างกาแฟถ้าสั่งว่ากาแฟเย็นก็จะได้กาแฟธรรมดาที่ไม่ร้อนถ้าอยากได้กาแฟเย็นก็ต้องสั่งย้ำๆว่า “ใส่น้ำแข็งด้วย” 
 

 

7.ประเทศจีนจะเสรีเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มาก มีการวางขายในร้านสะดวกซื้ออย่างเปิดเผย ไม่จำกัดเวลาในการซื้อรวมถึงอาจจะมีร้านที่ขายแต่เหล้าและเบียร์โดยเฉพาะด้วย 
 

 

8.มี “หน้ากากอนามัย” ขายจำนวนมากในร้านสะดวกซื้อ เพราะว่าเมืองจีนขึ้นชื่อว่ามีมลพิษสูงมาก รวมถึงอาจมีพายุทรายที่พร้อมพัดเข้ามาได้ตลอดเวลา แต่ละท้องถิ่นจึงต้องขายสินค้าที่ขึ้นกับสภาพสังคมและภูมิอากาศด้วย
 

 

9.มุมวางชั้นหนังสือของร้านสะดวกซื้อในเมืองจีนมีขายเฉพาะนิตยสารและหนังสือพิมพ์ ที่สำคัญคือใส่ซองหุ้มอย่างดีเปิดอ่านในร้านไม่ได้ ที่เป็นเช่นนี้นอกจากป้องกันการอ่านฟรียังป้องกันสิ่งสกปรกที่อยู่ในอากาศรวมถึงนิตยสารส่วนใหญ่ในเมืองจีนจะมีการแนบของแถมและสินค้าทดลองมาในเล่มด้วย

 

10.การซื้อของในร้านสะดวกซื้อของจีนเราต้องพกถุงผ้าหรือถุงพลาสติกไปด้วย เพราะเมื่อพนักงานคิดเงินเขาจะไม่เอาสินค้าใส่ถุงให้ถ้าไม่เตรียมไปเองเราต้องซื้อถุงเพิ่ม ราคาประมาณ 1-2เหมา/ใบ (10 เหมา=1หยวน)

 
สิ่งหนึ่งที่เรามองเห็นคือโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ยังเติบโตได้อีกมากเพราะปัจจุบันยังมีการกระจายตัวแค่ในเมืองใหญ่ๆเท่านั้น

ถ้าทางรัฐบาลจีนและภาคเอกชนหันมาร่วมมือกันพัฒนาให้ร้านสะดวกซื้อกระจายไปยังภูมิภาคต่างๆได้มากขึ้นเชื่อว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเกมส์ธุรกิจขนาดใหญ่ที่นักธุรกิจกลุ่มไหนสามารถเข้าไปแชร์ตลาดได้ คำว่ากำไรยังน้อยเกินไปเพราะสิ่งที่จะตามมาคือมูลค่าทางการตลาดมหาศาลที่ยังรอการเปิดตัวในอนาคต

 

เรียบเรียงโดย ThaiFranchiseCenter.com

ขอบคุณรูปภาพจาก  http://goo.gl/0auYOx