การสังเกตบริษัทขายตรงที่ผิดกฎหมาย
 

ธุรกิจบางราย บางประเภท ที่คิดธุรกิจขึ้นมามีลักษณะคล้ายธุรกิจขายตรง แต่แนวปฎิบัติกลับไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)  มีข้อสังเกตสำหรับประชาชน ใน การพิจารณาความแตกต่างระหว่างธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมายกับ แชร์ลูกโซ่มาให้พิจารณาข้อแตกต่างระหว่างขายตรงตามกฎหมายกับขายตรงแฝงแชร์ ลูกโซ่

ระบบขายตรง 

1. จดทะเบียนเป็นผู้ประกอบธุรกิจขายตรงตามกฎหมาย  
2. กำหนดค่าธรรมเนียมสมัครเป็นสมาชิกค่าฝึกอบรมและค่าวัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการขาย ตามความเหมาะสม และไม่บังคับซื้อสินค้า
3. รายได้หลักของผู้จำหน่ายอิสระ/ ตัวแทนขายตรง ขึ้นอยู่กับการจำหน่ายสินค้า /บริการ
4. ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงมีหน้าที่ในการรับซื้อคืนสินค้า,วัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการขายต่าง ๆ เมื่อผู้จำหน่ายอิสระใช้สิทธิคืนสินค้า
5. ผู้บริโภคมีสิทธิเลิกสัญญาภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับสินค้าหรือบริการ และผู้ประกอบธุรกิจขายตรงคืนเงินเต็มจำนวนที่ผู้บริโภคได้จ่ายไป

ระบบปิระมิดหรือแชร์ลูกโซ่

1. ไมได้จดทะเบียนเป็นผู้ประกอบธุรกิจขายตรง สถานที่ตั้ง ที่ทำการเป็นหลักแหล่ง
2. มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครเป็นสมาชิก หรืออาจกำหนดให้สมาชิกต้องลงทุนด้วยเงินและซื้อสินค้าจำนวนมาก เพื่อสามารถเข้าร่วมธุรกิจ
3. รายได้หลักของสมาชิกไม่ได้มาจากการจำหน่ายสินค้า แต่มีรายได้มาจากการแนะนำให้บุคคลอื่นมาเข้าร่วมเครือข่ายโดยคิดคำนวณจาก จำนวนสมาชิกในเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น
4. โดยมากไม่มีนโยบายในการรับซื้อสินค้าคืนจากสมาชิก
    

สำนัก งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ฝากเตือนผู้บริโภคให้พิจารณาก่อนที่จะสมัครเข้าสู่วงจรที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากบริษัทที่ทำธุรกิจระบบปิระมิดในปัจจุบัน มักใช้วิธีหลีกเลี่ยงกฎหมาย หรือคำนิยามของระบบปิระมิด โดยมีวิธีการต่าง ๆ กัน แล้วอ้างว่าเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้บริโภคและผู้สนใจเข้าร่วมธุรกิจต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของธุรกิจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

หากมีข้อสงสัยขอคำแนะนำหรือร้องเรียนได้ ที่ส่วนขายตรงและตลาดแบบตรง ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-2141-3420 ถึง 22

อ้างอิงจาก นิสารัชต์ นิลสว่าง  ส.ปชส.น่าน