กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลฯ สำหรับการขายข้าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หลังราคาข้าวเปลือกตกต่ำ อยู่ที่กิโลกรัมละ 5 ถึง 6 บาทเท่านั้น

ทำให้เกษตรกรบางส่วนหันมาขายข้าวสารโดยตรงผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค เนื่องจากไม่ต้องผ่านโรงสีหรือพ่อค้าคนกลาง ที่เชื่อกันว่าขูดรีดและกินส่วนต่างราคา
 

ปัจจุบันนี้การค้าขายสินค้ามีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก ตั้งแต่เรามี Social Network สินค้าหลากหลายประเภท ถูกขายบน Facebook, Instagram, Line

และในตอนนี้แม้แต่การ “ขายข้าว” ของชาวนาไทย ก็ยังหันมาขายผ่านช่องทาง Facebook แล้ว โดยที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง มีหลายกรณี หลายตัวอย่าง ที่สามารถสร้างโอกาสได้มหาศาล
 

 
 

ภาพจาก  https://goo.gl/fV8Yb0

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ขอสนับสนุนชาวนาไทยที่กำลังรวมกลุ่มกัน “ขายข้าวสาร” ผ่านทางออนไลน์ จึงมีเทคนิคและวิธีการขายข้าวบนโลกออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จมาฝาก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการขายข้าวให้รวย! 
 

 

ภาพจาก  https://goo.gl/fV8Yb0

เป็นเรื่องที่ชาวนาต้องให้ความสำคัญก่อนที่จะขายข้าวผ่านออนไลน์ เพราะถ้าข้าวมีแบรนด์เป็นที่รู้จักจะช่วยให้ขายข้าวได้ง่ายขึ้น คุณอาจตั้งชื่อตามกลุ่มหมู่บ้าน ชื่อตามเอกลักษณ์ของข้าว เช่น กลุ่มข้าวหอมมะลิสุรินทร์ กลุ่มข้าวกล้องสุโขทัย ซึ่งชื่อของข้าวที่ขายเหล่านี้ จะทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ง่าย จะได้รู้ว่าเป็นข้าวมาจากที่ไหน ปลูกอย่างไร คุณภาพดีไหม
 

2.นำเสนอกระบวนการผลิตข้าว
 

แน่นอนว่า ผู้บริโภคจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าข้าวที่ขายบนโลกออนไลน์ผลิตมาจากที่ไหน ผู้ที่จะขายข้างทางออนไลน์จะต้องนำเสนอภาพที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตข้าว ตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งเก็บเกี่ยว การสีข้าว การบรรจุถุง เรียกว่านำเสนอทุกขั้นตอนให้ลูกค้าได้รับรู้

เพราะจะเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อข้าวจากคุณเร็วขึ้น เรียกได้ว่า ถ้านำเสนอภาพกระบวนการผลิตข้าว ที่ชัดเจน โดดเด่น มีเอกลักษณ์ ทุกขั้นตอนได้คุณภาพมาตรฐาน เชื่อว่ารอรับออร์เดอร์ได้เลย 
 

 

ภาพจาก  https://goo.gl/ZsLHM3

ข้าวสารที่จะขายผ่านออนไลน์ จะต้องมีจุดเด่น และมีความแตกต่างจากร้านขายข้าวสารทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเล่าเรื่องราวของกระบวนการผลิต ภูมิปัญญาชาวบ้าน บนโลกออนไลน์ ให้ความรู้เรื่องการทำนา การผลิตข้าวกว่าจะได้แต่ละเม็ด

คุณประโยชน์ของข้าวแต่ละประเภท ซึ่งสิ่งเหล่านี้ร้านค้าขายข้าวทั่วไปจะไม่มี ที่สำคัญเรื่องของราคาขาย ต้องต่ำกว่าท้องตลาด เพราะจะเป็นตัวตัดสินใจสั่งซื้อข้าวจากคุณ 
 

4.นำเสนอขั้นตอน และรูปแบบการจัดส่งสินค้า
 

เทคนิคการขายของออนไลน์อย่างหนึ่งให้ประสบความสำเร็จ ที่ชาวนาจะต้องทำ คือ การถ่ายภาพขั้นตอน กระบวนการ และรูปแบบของการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้เห็นเป็นตัวอย่าง เพื่อลูกค้าที่ต้องการซื้อข้าวสารจากคุณ จะได้ไว้เนื้อเชื่อใจคุณมากขึ้น

ลูกค้าที่คิดจะซื้อของออนไลน์ส่วนใหญ่กลัวโดนหลอกกัน ดังนั้น หากชาวนาที่คิดจะขายข้าวออนไลน์ ต้องนำเสนอภาพในกระบวนการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้เห็นด้วย เพื่อทำให้ลูกค้าได้เห็นว่า คุณส่งสินค้าจริงๆ   

 

https://goo.gl/hzF6Yk

เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจสั่งซื้อข้าวทางออนไลน์จากคุณ บรรจุภัณฑ์หรือแพ็กเกจที่ใส่ข้าวสาร ต้องสวยงาม และมีความเป็นเอกลักษณ์ คุณอาจไม่ต้องทำแพ็กเกจขนาด 5 กิโลกรัมเหมือนที่ขายตามร้านค้าทั่วไปก็ได้ อาจทำแพ็กเกจจิ้งในรูปแบบใหม่ 2-3 กิโลกรัม ที่มีเอกลักษณ์สอดคล้องกับข้าว แหล่งผลิต หรือจังหวัดของคุณก็ได้ 
 

แทนที่จะบรรจุใส่ถุงพลาสติกเหมือนทั่วไป ก็ปรับเปลี่ยนพัฒนามาเป็นบรรจุใส่ถุงผ้า ที่ตัดเย็บรวดลายเป็นรูปทรงต่างๆ บ่งบอกถึงเศรษฐกิจพอเพียง ที่เดินตามรอยองค์ในหลวง ร.9 เชื่อว่าน่าจะดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย ไม่แน่ส่งออกได้อีกด้วย  

6.สร้างร้าน หรือจุดจำหน่าย ง่ายต่อการจัดส่ง
 

  

https://goo.gl/gtimng

เรื่องของการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า ถือเป็นสิ่งที่ชาวนาต้องให้ความสำคัญอันดับต้นๆ เพราะสินค้าจะขายได้ในครั้งต่อไปอยู่ที่กระบวนการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า

ส่งสินค้าเร็ว ลูกค้าก็ชอบ และอย่าลืมว่าถ้าคุณส่งสินค้า โดยเฉพาะข้าวสารทางไปรษณีย์ อาจทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น เพราะข้าวมีน้ำหนักมาก ถ้าขายแพงก็อาจไม่มีใครสั่งซื้อ 
 

ดังนั้น การขายข้าวทางออนไลน์ คุณอาจรวมกลุ่มกัน หรือสร้างเครือข่ายชาวนา เพื่อสร้างร้าน หรือหาจุดจำหน่ายข้าว ที่หลากหลาย ทั่วประเทศ เพราะจะง่ายต่อการจัดส่งให้แก่ลูกค้า อาจไม่จำเป็นต้องส่งข้าวทางไปรษณีย์ก็ได้ นำระบบ Logistic มาปรับใช้ให้มากที่สุด เพื่อลดต้นทุน และสามารถขายข้าวได้ต่ำกว่าท้องตลาดได้ด้วย    
 

โดยปัจจุบัน สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ได้เข้ามาช่วยเหลือชาวนา ในการจัดบริการจุดจำหน่ายข้าวสาร ได้ตามปั้มน้ำมันปตท.ทั่วประเทศ กลุ่มชาวนาที่สนใจก็สามารถติดต่อปั้มปตท.สาขาใกล้บ้านคุณได้ทันที โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ครับ   

 

แม้การเริ่มต้นขายข้าวทางออนไลน์ อย่าง Facebook อาจจะยาก เพราะยังเป็นของใหม่ แต่คุณก็ต้องสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าของคุณอีก

โดยการสร้างภาพลักษณ์ให้เหมือนแบรนด์ใหญ่ การถ่ายรูปภาพ การบรรจุภัณฑ์ การส่งของ การตอบคำถามลูกค้า และอื่นๆ ต้องดูน่าเชื่อถือ จะทำให้การขายข้าวออนไลน์ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก