บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    Startups    แอพพลิเคชั่นและซอฟต์แวร์
3.0K
2 นาที
15 ธันวาคม 2559
รวม 5 บริการ แอพส่งของ เร็วและดี งานมีคุณภาพ


หนึ่งในธุรกิจที่คาดหมายกันว่าจะเติบโตได้ดีนั้นคือบริการรับส่งของแบบ Delivery ที่ทุกวันนี้มีบทบาทไม่เฉพาะกับภาคธุรกิจเท่านั้นแม้แต่ประชาชนทั่วไปก็นิยมใช้บริการเหล่านี้กันมากขึ้น

นี่คือธุรกิจที่สร้างสรรค์มาตอบโจทย์ความเป็นไลฟ์สไตล์ได้อย่างดี ยิ่งในช่วงเทศกาลอย่างคริสมาสต์ ปีใหม่ เช่นนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากใช้บริการส่งของให้ญาติ เพื่อนสนิท กันมากยิ่งขึ้นถือเป็นการตอกย้ำไอเดียธุรกิจดีๆที่วันนี้มีเปิดตัวกันมาหลายรายทีเดียว
 
www.ThaiFranchiseCenter.com จึงได้รวบรวมเอาแอพพลิเคชั่นของบริการส่งของที่เราสามารถสั่งงานผ่านมือถือเราได้ทุกที่ทุกเวลาเป็นการประหยัดเวลาได้อย่างดี หลายคนอาจจะพอคุ้นเคยกับบริการนี้มาบ้างแต่วันนี้ลองดูกันอย่างหลากหลายว่ามีบริการไหนบ้างเพื่อสนใจอยากเปลี่ยนมาใช้แบบใหม่กันบ้าง ตามไปดูเลย!
 
1. LINE MAN

LINE ประกาศเปิดตัว “LINE MAN” แอปผู้ช่วยชั้นเลิศ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในชีวิตไว้ในแอปเดียว หลังจากได้ปล่อยเวอร์ชั่นทดลองเพื่อให้ผู้ใช้ทดสอบระบบผ่าน Google Play เป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งแอพ LINE MAN นี้พร้อมให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดและใช้งานทั้งบนระบบไอโฟนและแอนดรอยด์โดย LINE MAN เป็นบริการในรูปแบบ O2O แรกของ LINE ประเทศไทยและเป็นบริการแรกที่มีการคิดค้นและพัฒนาโดยทีมคนไทย เพื่อคนไทยโดยเฉพาะ
 
LINE MAN เริ่มต้นด้วยบริการหลัก 3 อย่างคือ แมสเซนเจอร์ สั่งซื้ออาหาร  รวมถึงการสั่งของจากร้านสะดวกซื้อ
 
โดยค่าบริการเริ่มต้น 48 บาท ค่าบริการต่อกิโลเมตร กิโลเมตรละ 7.2 บาท เกิน 30 กิโลเมตร กิโลเมตรละ 14 บาท จำกัดเอกสารหรือกล่องไม่เกิน 20 กิโลกรัม ขนาด 50 x 50 x 50 ซม และกล่องบรรจุอาหารไม่เกิน 30 x 43 x 27 ซม.เป็นต้น

2. GrabBike (Delivery)

บริการ GrabBike เปิดตัวในไทยมาเกือบครบหนึ่งปีได้เปิดบริการใหม่อย่าง GrabBike (Delivery) รับส่งสินค้า "ทุกอย่าง" ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร, อาหาร, เครื่องดื่ม ฯลฯ แถมยังขยายบริการ จากเดิมที่เคยจำกัดอยู่ที่การรับส่งพัสดุ มาเพิ่มบริการรับฝากซื้อสินค้ามูลค่าไม่เกิน 500 บาท จากร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ
 
ค่าบริการเริ่มต้น 20 บาท และกิโลเมตรต่อไปกิโลเมตรละ 9 บาท ถูกลงกว่าตอนเริ่มให้บริการมาก สำหรับคนไอทีที่ต้องส่งข้อมูลขนาดใหญ่ๆ ส่งฮาร์ดดิสก์หรือแฟลชไดร์ฟผ่าน GrabBike (Delivery) น่าจะถูกว่าค่าอัพโหลดผ่านเน็ตมือถือหลายเท่าตัว

การส่งทั่วกรุงเทพฯ ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง โดยทาง GrabBike วางมาตรการหลายอย่างเพื่อให้บริการ ไว้ใจได้สูงสุด ทั้งการเก็บประวัติผู้ขับขี่, ตรวจประวัติอาชญากรรม, เก็บรูปถ่ายทั้งคนขับและตัวรถ มีประกันสินค้าในกรณีที่ เสียหายขณะขนส่งรวมถึงตัวแอพเองก็สามารถติดตามตำแหน่งของรถที่กำลังส่งของได้ตลอดเวลาอีกด้วย
 
3. lalamove

lalamove คือแอพพลิเคชั่นที่เชื่อมโยงผู้บริโภคที่กำลังมองหาระบบขนส่งที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะต้องการขนย้ายสินค้า ตั้งแต่เอกสารชิ้นเล็ก ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ บริการธุรกิจได้ทุกประเภท

ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าทั่วไป หรือ SMEs เพื่อลดปัญหาเรื่องความล่าช้า ราคาที่ไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรม และการบริการและคนขับรถส่งของที่ไม่ได้มาตรฐาน  ในส่วนของการคิดค่าบริการ แอพพลิเคชั่นจะคำนวณอัตราค่าบริการโดยอัตโนมัติ โดยคิดค่าบริการพื้นฐานตามระยะทาง

สำหรับการจัดส่งเอกสารหรือพัสดุน้ำหนักไม่เกิน 20 กก. ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ค่าบริการจะเริ่มต้นที่ 60 บาท ค่าบริการสำหรับรถตู้และรถ MPV สำหรับจัดส่งสินค้าหรือพัสดุน้ำหนักไม่เกิน 100 กก. จะเริ่มต้นที่ 300 บาท

ส่วนค่าจัดส่งสินค้า เฟอร์นิเจอร์ และพัสดุน้ำหนักไม่เกิน 1,000 กก. ด้วยรถกระบะ จะเริ่มต้นที่ 600 บาทค่าบริการเสริมอื่นๆนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ซึ่งต้องแยกกันเป็นกรณีไป
 
4. Skootar 

ภาพจาก  goo.gl/zA4Bb0

Skootar คือแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ให้บริการมอเตอร์ไซค์หรือแมสเซ็นเจอร์สำหรับธุรกิจ SME โดยใช้ Collaborative economy แปลว่าเป็น freelance หรือ crowdsourcing ของแมสเซ็นเจอร์ โดยผู้ใช้สามารถใช้บริการผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นทั้งแอนดรอยด์และ iOS สำหรับงานธุรกิจเช่น เก็บเช็ค วางบิล เป็นต้น  

โดยราคาในการจัดส่งนั้นผู้สนใจสามารถเข้าไปเช็คราคาเบื้องต้นโดยใส่ต้นทาง – ปลายทาง ก็จะได้ตัวเลขค่าใช้จ่าย ซึ่งเริ่มต้นที่ 70 บาท และจะบวกขึ้นตามระยะทางที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ Skootar ยังมีเงื่อนไขที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเช่นบริการจุดแวะรับสินค้าระหว่างทาง หรือการนำเช็คเข้าบัญชีหลังเก็บ  รวมถึงการเก็บเงินปลายทางและนำมาส่งที่ต้นทาง ซึ่งทั้งหมดนี้ใครต้องการใช้บริการสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายก่อนล่วงหน้าได้ก็ถือว่าสะดวกสบายและได้ราคาที่ทราบก่อนอย่างชัดเจน
 
5. RushBike 

SendRanger หรือที่รู้จักกันเมื่อก่อนว่า RushBike เป็นบริษัทสตาร์ทอัพของคนไทย ที่ให้บริการรับส่งเอกสาร รับส่งพัสดุ รับส่งสินค้า และ รับส่งของด้วยแมสเซนเจอร์มืออาชีพผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่อให้การรับส่งเป็นไปอย่างราบรื่นโดย RushBike มีจุดเด่นตรงที่สามารถเรียกคนส่งของให้ได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงเท่านั้น

แถมยังคิดค่าบริการตามระยะทางจริงๆ ไม่มีการโก่งหรือต้องต่อราคาเหมือนเรียกใช้แมสเซ็นเจอร์ทั่วไป ซึ่งอัตราค่าบริการของ RushBike เริ่มต้นที่ 90 บาท และเพิ่มทุกๆ 13-15 บาท / กิโลเมตร

นอกจากนี้เพื่อเพิ่มเติมความสบายใจของผู้ใช้บริการจึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีการติดตามตำแหน่ง และ RushBike ยังได้เข้าร่วมโครงการ JFDI.Asia ซึ่งเป็นหนึ่งใน Incubator ชั้นนำของเอเชีย ที่สิงคโปร์ พร้อมกับการได้รับเงินทุนสนับสนุนให้มาต่อยอดการทำธุรกิจให้เติบโตได้มากขึ้นในอนาคตด้วย
 
แต่ทั้งนี้ไม่ว่าเราจะเรียกใช้บริการของแอพพลิเคชั่นใดๆก็ตามควรคำนึงให้ครบถ้วนในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็วในการให้บริการ ราคาที่ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบเองได้ การรับประกันสินค้า การตรวจสอบตำแหน่งของผู้ส่ง รวมถึงความน่าเชื่อถือของพนักงานขับที่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ด้วย
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
791
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด