บทความทั้งหมด    บทความค้าขาย    การบริหารจัดการร้านค้า    การทำการตลาด การขาย
4.1K
2 นาที
26 มกราคม 2560
6 เทคนิคการขายให้เป็น Top Sale 
 
หากจะประเมินว่า คุณเป็นพนักงานขายที่จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น สามารถดูได้จากวิธีการขายของคุณ

ว่ามีการสื่อสารกับลูกค้าอย่างไร น่าสนใจหรือไม่ คุณให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้ามากน้อยเพียงใด 
 
เพราะการขายที่ดี จะต้องช่วยลูกค้าให้ได้สินค้าที่เหมาะสม สามารถนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการ หรือแก้ปัญหาของลูกค้าได้ ดังนั้น การจะเป็นเซลส์ที่ดีนั้น ต้องให้ความสำคัญทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้อนรับลูกค้า นำเสนอสินค้า ปิดการขาย ไปจนถึงบริการหลังการขาย ทุกขั้นตอนต้องน่าประทับใจ 
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณไปว่า วิธีการที่จะทำให้พนักงานทั้งหลายก้าวสู่การเป็น Top Sale ได้นั้น จะต้องใช้เทคนิคการขายอย่างไรบ้าง เพื่อให้สามารถก้าวไปถึงจุดๆ นั้นได้ มาดูพร้อมๆ กันเลยครับ
 
1.ทักทายอย่างจริงใจ


 
แค่การกล่าวทักทาย ก็สามารถทำให้คุณได้ลูกค้า หรือเสียลูกค้าได้ทั้งนั้น ดังนั้น คุณควรคิดก่อนที่จะทักทายลูกค้าทุกครั้ง ว่าคุณจะทักทายเขาอย่างไร สบตาลูกค้าพร้อมรอยยิ้ม และไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าถูกรุกมากเกินไป หากคุณกลัวว่าการทักทายจะไม่เป็นธรรมชาติ ควรมีการฝึกซ้อมทักทายลูกค้ากับเพื่อนร่วมงาน จนเกิดความเคยชิน จะเป็นธรรมชาติไปเอง
 
2.ถามแล้วต้องฟังด้วย 


 
การถามความต้องการของลูกค้า ควรถามด้วยคำถามปลายเปิด เพื่อเปิดการสนทนากับลูกค้า จากนั้นฟังความต้องการของลูกค้า พูดทวนสิ่งที่ลูกค้าบอกอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ เมื่อคุณเข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ คุณก็จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม
 
3.รู้ว่าจะขายอะไร

 
เซลส์ที่ดีต้องรู้จุดขาย เข้าใจคุณสมบัติ หน้าที่ และประโยชน์ของสินค้าที่คุณกำลังขายให้แก่ลูกค้า รวมทั้งสามารถเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียระหว่างสินค้าของคุณกับของคู่แข่งได้ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณตอบคำถามลูกค้า และนำเสนอสินค้าได้อย่างเหมาะสม เพราะสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังไม่ใช่ตัวสินค้า แต่เขาซื้อสินค้านั้นที่ประโยชน์ของมันต่างหาก และประโยชน์ที่ว่านั้น ต้องสามารถตอบโจทย์ความต้องการหรือแก้ปัญหาให้กับเขาได้
 
4.เสนอสินค้าอื่น ที่ต้องใช้ร่วมกัน


 
หากคุณทราบว่าสินค้าที่คุณขายนั้น ต้องใช้ร่วมกับอะไร เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น คุณก็ควรแนะนำด้วย เพื่อประโยชน์ของลูกค้า เช่น หากสินค้าดังกล่าวต้องใส่ถ่าน ควรแนะนำด้วยว่าใช้ถ่านแบบไหน ขนาดใด กี่ก้อน พร้อมอธิบายวิธีใช้งานง่ายๆ และตบท้ายด้วยการเสนอเป็นของแถม เพียงเท่านี้ก็ได้ใจลูกค้าเพิ่มขึ้นแล้ว
 
5.ถึงเวลาปิดการขาย


 
การอธิบายประโยชน์ของสินค้า คุณภาพสินค้า การรับประกันสินค้า รวมทั้งประสบการณ์ตรงของคุณ เป็นการโน้มน้าวใจให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และต้องการสินค้านั้น เมื่อคุณเห็นสัญญาณซื้อจากลูกค้า ก็ถึงเวลาปิดการขายได้แล้ว 
 
ทั้งนี้คุณควรเสนอเป็นคำถามปลายปิด ให้ลูกค้าเลือกว่าตกลงจะรับชิ้นนี้หรือชิ้นนั้นดี โดยคุณต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณพูดกับลูกค้าด้วย ไม่ควรโฆษณาเกินจริง หากคุณมองแค่ว่าให้ปิดการขายได้ แต่ทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึกในภายหลัง คุณก็จะขายได้เพียงครั้งเดียว ไม่สามารถรักษาลูกค้าเพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำได้อีก
 
6.เอาใจใส่ดูแลหลังการขาย


 
ต้องขอบอกว่า หน้าที่ของ Sale ไม่ได้จบอยู่ที่การขายสินค้าได้เท่านั้น แต่คุณควรติดตามและประเมินผลหลังการขายด้วย เช่น ติดต่อสอบถามเพื่อสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า ส่งข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นถึงความเอาใจใส่ที่คุณมีต่อลูกค้า เป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีในระยะยาวต่อไป ลูกค้าก็จะรู้สึกดีกับคุณ 
 
 

ทั้งหมดถือเป็นเทคนิคการขายให้ก้าวสู่การเป็น Top sale ผู้ที่เป็นเซลล์ถ้าอยากขายเป็น อยากขายเก่ง อยากขายได้ สามารถนำเทคนิคจากข้างต้นไปปรับใช้หรือเป็นแนวทางในการขาย เพื่อก้าวสู่การเป็น Top Sale ในวันข้างหน้าได้ครับ
 
สนใจบทความทำเลค้าขาย เทคนิคการขายอื่นๆ ได้ที่ goo.gl/QTQSSD
 

SMEs Tips
  1. ทักทายอย่างจริงใจ
  2. ถามแล้วต้องฟัง
  3. รู้ว่าควรขายอะไร
  4. เสนอสินค้าที่ต้องใช้ร่วมกัน
  5. ถึงเวลาปิดการขาย
  6. เอาใจใส่ดูแลหลังการขาย

บทความค้าขายยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สรุปขั้นตอนเปิดร้านในห้าง ใช้เวลาเท่าไหร่
417
บทความค้าขายมาใหม่
บทความอื่นในหมวด