บทความทั้งหมด    บทความค้าขาย    การบริหารจัดการร้านค้า    การเช่าพื้นที่ หาทำเล เปิดร้าน
526
2 นาที
29 เมษายน 2568
มีทำเลให้เช่า “เปิดร้านสะดวกซื้อ” ควรคิดค่าเช่าเท่าไหร่?
 

ปี 2025 สงครามร้านสะดวกซื้อยังคงแข่งขันกันดุเดือดถ้าวิเคราะห์ถึงตัวเลขเทียบสัดส่วนจำนวนประชากรต่อร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยพบว่าร้านสะดวกซื้อ 1 สาขา รองรับประชากรได้ 4,428 คน สะท้อนให้เห็นว่าการเติบโตยังเปิดกว้างได้อีกมากถ้าเทียบกับเกาหลีที่ร้านสะดวกซื้อ 1 สาขา รองรับประชากรได้ 953 คน
 
และถ้าไปดูภาพรวมของร้านสะดวกซื้อในปัจจุบันเราเห็นการแข่งที่ชัดเจน ทุกแบรนด์ต่างแย่งชิงพื้นที่หรือทำเลทองที่ดีที่สุดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด แบรนด์ร้านสะดวกซื้อที่เราเห็นในทุกวันนี้ก็เช่น 7-Eleven , Lotus’s , Big C , ท็อปส์ เดลี่ , CJ เป็นต้น
 
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพในกรณีของ 7-Eleven ตอนนี้โตแรง ทั้งยอดขายและการขยายสาขาปัจจุบันมี 15,245 สาขา เพิ่มขึ้น 700 สาขา จากปี 2023 (14,545 สาขา) ขณะที่ยอดขายต่อร้านต่อวัน ก็เพิ่มขึ้นเป็น 83,906 บาท จาก 80,837 บาท ในปีก่อน โดยมีลูกค้าเฉลี่ยต่อสาขาต่อวันอยู่ที่ 978 คน 
 
 
ซึ่งนอกจากนี้อีกหลายแบรนด์ร้านสะดวกซื้อก็เร่งพัฒนาธุรกิจให้เติบโตเพื่อแข่งขัน อย่างเช่น CJ ในปี 2568 เตรียมงบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เปิดร้านใหม่ 300 สาขา เป้าหมายสิ้นปี 2568 จะมี 1,800 สาขา มี 3 โมเดลลงทุนคือ
  • ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต ขนาดพื้นที่ 300 ตร.ม ลงทุนราว 8 ล้านบาท 
  • ซีเจ มอร์ ขนาด 300 ตร.ม. มีลานจอดรถลงทุน 12 ล้านบาท 
  • ซีเจ เอ็กซ์ ร้านค้าส่งค้าปลีก ขนาด 200 ตร.ม. ลงทุนต่ำกว่า 2 ล้านบาท 
เมื่อการแข่งขันสูงมาก เรื่องของ “ทำเล” ก็ยิ่งสำคัญ บางคนมีที่ดินเปล่า มีพื้นที่ว่าง ไม่รู้จะลงทุนทำอะไร ก็ต้องการปล่อยเช่าให้ร้านสะดวกซื้อ เพราะนอกจากเป็นการสร้างรายได้ยังทำให้ที่ดินมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย อย่างไรก็ดีใช่ว่าที่ดินเปล่าทุกแห่งจะเป็น ทำเลทองของร้านสะดวกซื้อ ยกตัวอย่าง 7-Eleven ก็มีขั้นตอนการเลือกพื้นที่สำหรับเปิดร้านเช่น
 
  • การสำรวจและรวบรวมข้อมูล ทั้งจำนวนประชากร ผังเมือง สภาพเศรษฐกิจ ข้อมูลการตลาด คู่แข่งในพื้นที่ เปรียบเสมือนภาพใหญ่ก่อนที่จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกต่อไป
  • การวิเคราะห์เชิงลึกด้านจำนวนครัวเรือน จำนวนโรงเรียน จำนวนนักเรียน การสัญจรของรถและคนที่เดินทางผ่านไปมาแถวนั้น จำนวนตลาดสดที่เปิดช่วงเช้า บ่าย เย็น จนถึงดึกดื่น เพื่อประเมินกำลังซื้อให้แก่ร้าน 7-Eleven
หรือในกรณีของ CJ ถ้าเป็นพื้นที่เปล่า ต้องการพื้นที่ 200 ตารางวา หรือ 800 ตารางเมตรขึ้นไป หรือ มีหน้ากว้าง 20 เมตร ขึ้นไป ถ้าเป็นอาคารพาณิชย์ ต้องการพื้นที่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป และมีหน้ากว้าง 20 เมตร หรือ 5 คูหาขึ้นไป รวมถึงต้องเป็นพื้นที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน / ตลาดสด / ตลาดนัดขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ พื้นที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพ และ ปริมณฑล / ภาคกลาง / ภาคตะวันตก / ภาคตะวันออก / นครราชสีมา / บุรีรัมย์ 
 
 
ซึ่งการคิดค่าเช่าสำหรับการเปิดร้านสะดวกซื้อนั้น เนื่องจากเป็นการทำสัญญากับบริษัท ก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป และมีอีกหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องโดยส่วนใหญ่หากเรามีทำเลจะคิดตั้งราคาตามหลักความจริงเช่น
  • เทียบราคาค่าเช่ากับร้านอื่นที่อยู่ใกล้เคียงว่าราคากลางอยู่ประมาณเท่าไหร่
  • เทียบกับทำเลของพื้นที่ว่าเป็นทำเลทองที่น่าสนใจแค่ไหน ยิ่งอยู่ในทำเลที่ได้เปรียบการคิดค่าเช่ามักมีราคาสูง
  • ใช้ความพึงพอใจเป็นเกณฑ์ว่าต้องการตั้งราคาเท่าไหร่

ทั้งนี้ก็มีเทคนิคให้เช่าและทำสัญญาเช่าที่ควรรู้คือ โดยทั่วไปค่าเช่าตึกพาณิชย์ 3 คูหา ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นบาทขึ้นไปจนถึงหลักแสนบาท หรือถ้าเป็นที่ดินว่างเปล่าการเปิดร้านสะดวกซื้อ 1 แห่ง จะใช้พื้นที่ประมาณ 150 - 200 ตารางเมตร รวมที่จอดรถ ซึ่งการคิดค่าเช่าจะต้องคำนึงถึงความเจริญและศักยภาพของทำเลนั้น ๆ 
  • ทำสัญญาให้เช่าครั้งละ 10-12 ปี (สัญญาระยะยาว) 
  • การกำหนดเงื่อนไขปรับเพิ่มค่าเช่าทุก ๆ 3 ปี ครั้งละ 10%
  • การกำหนดค่าภาษีโรงเรือนให้ผู้เช่าจ่าย
  • ค่าเช่าโอนเข้าบัญชีเดือนละ 1 ครั้ง
สิ่งที่ควรระวังคือในสัญญาต้องทำให้รัดกุมทุกประเด็น โดยมีที่ปรึกษาดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การประกันภัย ภาษี การปรับปรุงให้กลับคืนสภาพเดิมภายหลังเลิกเช่า การบอกเลิกสัญญา ค่าปรับต่าง ๆ (จ่ายล่าช้า, บอกเลิกสัญญาก่อน ฯลฯ) การเช่าช่วง อื่น ๆ เป็นต้น
 
ทั้งนี้หากใครที่มีพื้นที่ต้องการให้เช่าเปิดร้าน ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์มีบริการนำเสนอพื้นที่เช่าให้กับเจ้าของ SMEs และ แฟรนไชส์ได้พิจารณา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/443nVGD 

ติดตามได้ที่ Add LINE id: 
@thaifranchise
 
 
บทความค้าขายมาใหม่
บทความอื่นในหมวด