กลยุทธ์บริษัทแฟรนไชส์ แดกด่วน แจกแหลก กินฟรี กินทั้งปี

การฟื้นตื่นจากสภาพ "ยักษ์หลับ" ของจีนในสมัยคุณนิสสันเป็นประธานาธิบดีมะกานั้นมีทั้งส่วนดีและเลวซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเป็นเช่นนั้น คุณนิสสันอาจจะเห็นว่าจีนเป็นประเทศใหญ่ มีพลเมืองกว่าพันล้านถือว่าเป็นตลาดใหญ่ของโลก ทำไมพลเมืองจีน จึงจะมีเงินซื้อสินค้าต่าง ๆ จากต่างประเทศได้ หรือไม่ซื้อจากต่างประเทศก็ซื้อสินค้า ที่ผลิตในจีน เป็นการอุดหนุนซึ่งกันและกัน ก็ยิ่งดีใหญ่

แต่เรื่องสำคัญก็คือคนจีนส่วนมากเป็นคนจน วิธีที่จะทำให้หายจนก็คือต้องหาทางให้เขาทำเงินได้ ถ้าคนจีนมีเงินพอที่จะผลิตสินค้าขึ้นมาขายแข่งกับประเทศอื่น แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรก็น่าจะศึกษาจากประเทศอื่นว่ามีโรงงานผลิตสินค้าอะไรบ้าง สินค้าอะไรที่คนจีนต้องการ และต้องการมากขนาดไหน ถ้านำเข้าไปขายในจีนจะได้กำไรดีไหม

ถ้าได้กำไรน้อยเพราะต้องผ่านค่าอะไรหลายขั้นตอน อาเสี่ยจีนอยากสร้างเองในจีนเพื่อจะได้มีกำไรเพิ่มมากขึ้นเขา ก็น่าจะใช้วิธีเรียนรู้ เข้าไปเป็นลูกจ้างในบริษัทเจ้าของสินค้านั้น ๆ แล้วก็กลับไปเปิดโรงงานผลิตสินค้าให้คนจีนซื้อ ถ้าสินค้าได้รับความนิยมย่อมได้รับความนิยมจาก คนชาติอื่นที่ไม่ใช่จีนด้วย เมื่อเป็นดังนี้ก็ต้องเพิ่มปริมาณสินค้าเพื่อส่งไปขายทั่วโลกด้วยการเพิ่มคนงาน ทำให้คนจีนมีรายได้ที่จะซื้อขายสินค้าต่าง ๆ ตามใจชอบ

ถ้าคนจีนที่เรียนรู้การผลิตสินค้า แต่ไม่มีเงินลงทุนก็ต้องหาทางกู้เงินมาลงทุน แต่เป็นเพราะเครดิตไม่ดีกู้ไม่ได้ก็ต้องหานายทุนจีนมาลงทุนร่วมกัน ถ้านายทุนจีน ไม่เอาด้วยก็ต้องหาทางติดต่อโรงงานที่ ตัวเองเคยไปเรียนรู้ ให้เข้าไปลงทุนในจีน แล้วจ้างเขาให้เป็นผู้จัดการก็ได้

ตลอดเวลา 20 กว่าปีเราจะเห็นว่าจีนทำได้สำเร็จเกือบทุกเรื่อง โดยที่แรงงานจีนมีมากมายเพราะคนจีนไม่เลือกงานไม่เกี่ยงเรื่องค่าแรง โรงงานผลิตสินค้าในจีนจึงใหญ่โตและขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะสินค้าต่าง ๆ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มองแล้วจะเห็น Made in China มากกว่าอื่น

แสดงให้เห็นว่าแรงงานในเกือบทุกประเทศไม่มีงานทำเพราะนายทุนไปลงทุนผลิตที่จีนด้วยค่าแรงถูกเมื่อค่าแรงถูกสินค้าที่ขายก็ถูกขายได้มากก็เป็นกำไรมาก รวมความแล้วเราก็ต้องรู้ว่ารัฐบาลจีนมีเงินเต็มโกดัง วิธีดีที่สุดก็คือเอาเงินล้นโกดังนี้ไปลงทุนซื้อสินค้าสำคัญต่าง ๆ เช่น น้ำมัน ฯลฯ ซึ่งผมคาดว่าต่อไปนี้มหาอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในทุกด้านก็ไม่พ้นต้องเป็น "จีน" จากที่จนที่สุดในอดีตมาเป็นรวยที่สุดในปัจจุบัน

มันน่าเศร้าใจไหมเมื่อขับรถออกจากบ้าน (ในฮอลลีวูด) ตลอดเส้นทางสองฟากแค่ 5-10 ไมล์ เราจะเห็นตึกรามธุรกิจปิดกิจการเป็นตึกร้างเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่แค่ฮอลลีวูด ถนนไหนเมืองไหนก็มีสภาพเช่นเดียวกัน

ธุรกิจใหญ่เล็กในมะกากระเทือนกันทั่วต่างก็หาทางแก้ไข คนที่เคยใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยก็ระวังตัวมากขึ้นแม้กระทั่งพวกอาหารแดกด่วนที่คนต้องกิน ไม่ว่าจะเป็นตลาดในหรือนอกประเทศ

ร้านอาหาร Denny"s เริ่มการโปรโมตร้านด้วยคำสโลแกน "Grand Slam for a Year" ประมาณเมษายน 2010 เป็นต้นไป ถ้าจับสลากชื่อลูกค้าขึ้นมาจะได้กินอาหารเช้าฟรีที่มีไข่สองใบ เบคอน 2 ชิ้น เนื้อไก่ทอด แพนเค้ก 2 แผ่น ทั้งหมดนี้กินได้ 2-3 คน ถ้ากินคนเดียวไม่หมดร้านอนุญาตให้เอาเพื่อนมาช่วยกินได้ 2-3 คน เดนนี่เชื่อว่าด้วยวิธีนี้ร้านจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 เท่า เดนนี่เผยว่าบริษัทมีร้านค้า 1,545 แห่ง ส่งใบสมัครให้ลูกค้าเพื่อชิงรางวัลประมาณ 600,000 ราย ในระยะโปรโมชั่น 1 ปี
 
ร้านอาหาร Subway ร้าน Chick-fil-A ร้าน Krispy Kreme Doughnuts และ KFC ซึ่งเป็นร้านขายแซนด์วิชยาว 2-3 ฟุต ขายไก่ย่าง ข้าวโพดคั่ว โดนัท ฯลฯ มีโปรโมชั่นให้อาหารฟรีแก่ลูกค้าประจำที่ชนะทายการแข่งขันการแข่งขันฟุตบอล ฯลฯ อาหารที่มอบเป็นรางวัลนั้นตั้งวงกินกับเพื่อนฝูงได้ 5-6 คู่ ส่วน Chick-fil-A ขายแซนด์วิชไก่ เผยว่าจะแจกแซนด์วิชฟรีสำหรับผู้ที่ยืนเข้าแถว (100 คนแรก) เมื่อเปิดร้านใหม่ทุกสาขา อาหารฟรีนี้ให้กินตลอดปี (ถ้าไม่เลี่ยนไม่เบื่อก็แล้วไป) คิดเป็นเงินก็ประมาณ 300 เหรียญ

ซัพเวย์ แซนด์วิช เสนอโปรโมชั่น "Five Dollar Footlong" เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนเมษายน 2010 มีผู้ได้รับรางวัลแล้ว 71 คน มีสิทธิ์ได้กินแซนด์วิชยาวหนึ่งฟุตตลอดปี หรือ 12 เดือน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 260 เหรียญ ด้วยวิธีนี้ซัพเวย์เชื่อว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 400,000 คน ซัพเวย์เป็นร้านแดกด่วนใหญ่มาก มี 8,192 แห่ง บริหารโดยเจ้าของแฟรนไชส์ร้านเดียว อีก 8,191 เป็นร้านแฟรนไชส์

โดนัท คริสปี้ ครีม เสนอโปรโมชั่นสำหรับร้านที่จะเปิดใหม่ทุกร้าน ลูกค้าคนแรกได้โดนัทฟรีสัปดาห์ละครั้ง ๆ ละ 1 โหลตลอดทั้งปี อีก 11 คนต่อจากคนแรกจะได้รับโดนัท 1 โหลทุกเดือนตลอดทั้งปี
 
เบอร์เกอร์ คิง ร้านแดกด่วนอันดับสองของมะกาแจกคูปองเพื่อกินแฮมเบอร์เกอร์ในราคาชุดละ 1 เหรียญ ในขณะที่ราคาปกติประมาณ 6 เหรียญ ข่าวว่ามีคูปองแจกจำนวนไม่น้อยและน่าจะมีแฟนเพิ่มขึ้นอีกเป็นแสนคน เบอร์เกอร์ คิงมีทั้งหมด 7,121 แห่ง

แดกด่วนที่ดังระเบิดที่สุดก็ต้องเป็น "แมคโดนัลด์" เจ้าพ่อแฮมเบอร์เกอร์อันดับหนึ่งของมะกาและทั่วโลกไม่ว่าสถานการณ์ในมะกาจะดีหรือเลวอย่างไรเจ้านี้เขาไม่เคยหวั่นไหว ในขณะที่เศรษฐกิจมะกาห่อเหี่ยวเช่นนี้ไม่มีอะไรที่แมคโดนัลด์ต้องห่วงวิตกเลย ยังบุกมากขึ้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นตลาดในบ้าน หรือนอกบ้าน

ตลาดนอกบ้านที่ใหญ่ที่สุดก็ต้องเป็นจีน ภายในปี 2010-2013 แมคฯ จะเพิ่มจำนวนร้านในจีนเป็นดับเบิลของที่มีในปัจจุบัน 1,100 แห่ง ที่คาดหวังดังนี้เป็นเพราะบริษัทได้เปิดวิทยาลัยแห่งแรกในเซี่ยงไฮ้ชื่อ McDonald"s Hamburger Univeristy in China เมื่อประมาณต้นปี 2010 (ค่าก่อสร้าง 36.6 ล้านเหรียญ) วิทยาลัยแมคโดนัลด์นะครับ เก๋ไก๋ไม่ใช่เล่นเลย

ก็เวลานี้จีนกำลังดังฮิตแบบนี้น่ะ มหาวิทยาลัยดัง ๆ ทั่วโลกกำลังฮิตเข้าไปเปิดในจีนกันจ้าละหวั่น แล้วแมคฯ เป็นอะไร ก็ต้องเข้าแถวเข้าระบบเป็นวิทยาลัยโภชนาการ สอนการครัวการบ้านสอนให้เป็น "เชฟ" เป็นเวตเตอร์ เวตเตรส ฯลฯ เต็มครบวงจรร้านอาหาร รวมทั้งสอนการหาทำเล และการบริหารกิจการด้วย

ปี 2009 แมคฯเปิดร้านใหม่ในจีนได้เกือบ 150 แห่ง คาดว่าปี 2010 จะเปิดได้อีก 150-175 แห่ง เพราะความนิยมในการกินเบอร์เกอร์ได้รับการต้อนรับจากคนจีนมาก ที่น่าทึ่งก็คือคนจีนที่ว่านี้ส่วนมากเป็นคนจีนชั้นกลาง ร้านแรกของแมคฯ เปิดที่เมือง Shenzhen เมื่อปี 1990 ปัจจุบันแมคฯ มีพนักงานในจีนกว่า 60,000 คน สิ้นปี 2010 มีเพิ่มอีก 175 แห่ง จะทำให้แมคฯ ในจีนมีลูกจ้างเพิ่มขึ้นอีก 1 หมื่นคน

รายได้ของแมคฯ ทั่วโลกเพิ่ม 3-5 เปอร์เซ็นต์ ปี 2009 มีรายได้ 22.74 พันล้านเหรียญ กำไร 4.55 พันล้านรายได้ในจีนคือ 23 เปอร์เซ็นต์ ตลาดกินอาหารนอกบ้านในจีนเมื่อปี 2009 มีค่า 300 พันล้านเหรียญ ปี 2010 จะเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์ แมคฯ เผยว่ารายได้ทั่วโลก 80 เปอร์เซ็นต์มาจากแฟรนไชส์ แมคฯ เป็นเจ้าของในจีน 5 ร้าน

 

อ้างอิงจาก นิมิตร วัฒนาวารินทร์