บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ต่างประเทศ
5.9K
4 นาที
27 กุมภาพันธ์ 2560
10 อันดับธุรกิจแฟรนไชส์ชั้นนำจากแฟรนไชส์ 500 ของ Entrepreneur

 
ในต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ต้องยอมรับว่าธุรกิจแฟรนไชส์เป็นตลาดที่ใหญ่มากกว่าธุรกิจในกลุ่มอื่นๆ ที่สำคัญเกี่ยวข้องและอยู่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมาโดยตลอด แต่ละแบรนด์ แต่ละกลุ่มธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในแต่ละปี เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด ให้เป็นที่นิยม และต้องการเป็นแบรนด์ที่ครองใจลูกค้ามากที่สุด 
 
จึงไม่แปลกที่ในช่วงปลายปี 2016 เว็บไซต์ Entrepreneur.com ได้ทำการจัดอันดับ 10 แฟรนไชส์ชั้นนำของโลก จากธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งหมด 500 กิจการ

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จึงอยากจะพาท่านผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทย รวมถึงผู้ที่กำลังมองหาช่องทางลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์จากต่างประเทศ ไปดูว่ามีธุรกิจแฟรนไชส์แบรนด์ไหนบ้าง เป็นที่นิยมของลูกค้า มีระบบการบริหารจัดการที่ดีเลิศ เผื่อว่าอาจมีธุรกิจแฟรนไชส์ในใจที่คุณกำลังอยากลงทุนพอดีครับ     
 
1.7-ELEVEN
 
ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษที่ 7-11 ก้าวขึ้นมาติดอันดับ 1 ในการจัดอันดับธุรกิจแฟรนไชส์ชั้นนำจากธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งหมด 500 กิจการ อาจเป็นเพราะ 7-11 ได้พัฒนาระบบการบริการจัดในร้าน

รวมถึงการให้บริการที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้ โดยเฉพาะเรื่องการให้บริการทำธุรกรรมทางการเงินใน 7-11 โดยใช้เวลาประมาณ 75-120 วินาทีต่อการทำธุรกรรม 1 ครั้ง ที่สำคัญมีการนำสินค้าอุปโภคบริโภคมาขาย มีอาหารรองรับความความต้องลูกค้าทั้งเช้า กลางวัน เย็น มีอาหารสด อาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อตอบสนองลูกค้าที่มีความเร่งรีบ
 
หัวใจของความสำเร็จของ 7-11 อยู่ที่การมีระบบการบริการจัดการร้านที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา มีระบบการจัดเรียงสินค้า การให้บริการพนักงาน การแต่งกาย ประเภทสินค้าจะมีมาตรฐานที่เหมือนกันทุกสาขา ที่สำคัญมีความสะดวกรวดเร็ว สร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ที่เข้าไปใช้บริการ 
  • 7-11 ก่อตั้งในปี 1927
  • จำนวนสาขาทั่วโลก 60,000 สาขา
  • จำนวนสาขาในสหรัฐฯ 8,504 สาขา
  • ต้นทุนในการเปิดร้าน $37.2 K-$1.6 Million  
  • ระยะห่างในการเปิดสาขาทุก 3.5 ชั่วโมง
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/SfeqO2 
 
2. MCDONALD'S
 
แมคโดนัลด์ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 2 จากแฟรนไชส์ 500 กิจการ เราต้องยอมรับว่า แมคโดนัลด์เป็นธุรกิจแฟรนไชส์อาหารจานด่วนที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะนสหรัฐอเมริกาเอง รวมถึงประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงไทยด้วย 
 
จึงไม่แปลกที่คนจะบอกว่า ตำนานความอร่อยของแฮมเบอร์เกอร์ ต้องเป็นร้านแมคโดนัลด์ โดยได้เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2491 โดยผู้บุกเบิกคือ พี่น้องดิ๊กและแมค เปิดร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อว่า "แมคโดนัลด์" เป็นแบบไดร์ฟทรู ในซานเบอร์นาดิโน เมืองเล็กๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ภายหลังทั้งสองได้ขายกิจการให้กับ นายเรย์มอนด์ อัลเบิร์ต คร็อค เพื่อนำไปขยายสาขา 
 
จนทั่วสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มต้นสาขาแรกที่รัฐอิลลินอยส์ ในปี พ.ศ. 2498 จวบจนทุกวันนี้มีร้าน แมคโดนัลด์ กว่า 36,000 สาขาทั่วโลก และนายเรย์มอน อัลเบิร์ต คร็อค ได้รับยกย่องให้เป็น บิดาแห่งอุตสาหกรรมอาหารบริการด่วน ที่สำคัญมีระบบการคัดเลือกผู้แฟรนไชส์ที่ดีเยี่ยม ต้องได้รับการอบรมมากกว่า 18 เดือน ถึงจะเปิดร้านได้ 
  • แมคโดนัลด์ ก่อตั้งในปี 1955
  • จำนวนสาขาทั่วโลก 36,000 สาขา
  • จำนวนสาขาในสหรัฐฯ 14,000 สาขา
  • ต้นทุนการเปิดร้าน $1M-$2.2M
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/Pqenxc 
 
3. DUNKIN' DONUTS
 
นับว่าเป็นแบรนด์โดนัทและกาแฟในสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมาก จึงไม่แปลกที่ได้รับคัดเลือกให้อยู่อันดับที่ 3 ของธุรกิจแฟรนไชส์ชั้นนำของโลก โดย Entrepreneur.com โดยในสหรัฐฯ มีการเติบโตและขยายสาจาไปแล้วกว่า 8,600 สาขา และผู้บริหารก็ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสาขาให้ได้ถึง 17,000 สาขาทั่วโลกในปีนี้
 
โดยดังกิ้นโดนัทได้วางแผนเสนอสิ่งจูงใจใหเคนมาซื้อแฟรนไชส์ โดยการลงทุนช่วงเวลา 3 ปีแรกจะได้รับส่วนลดค่าสิทธิ์ถึง 5,000 เหรียญสหรัฐ ไม่ต้องเสียค่าการตลาด ที่สำคัญยังให้ส่วนลดค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น แก่แฟรนไชส์ซีที่เป็นทหารผ่านศึก ถึง 20% สิ่งจูงใจเหล่านี้จะทำให้ดังกิ้นโดนัทขยายสาขาได้ตามเป้าหมาย
  • DUNKIN' DONUTS ก่อตั้งในปี 1950
  • จำนวนสาขาทั่วโลก 12,000 สาขา
  • จำนวนสาขาในสหรัฐ 8,600 สาขา
  • ต้นทุนในการเปิดร้าน $228.6 K–$1.7 M 
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/RHgtmS 
 
4. THE UPS STORE 
 
เป็นแฟรนไชส์ให้บริการไปรษณีย์ ธุรกิจ การพิมพ์ และบริการด้านการสื่อสาร ก่อตั้งขึ้นและขยายธุรกิจสู่ระบบแฟรนไชส์ในปี 1980 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ถือเป็นธุรกิจให้บริการที่ได้รับความนิยมของธุรกิจขนาดเล็ก
 
ในสหรัฐอเมริกาแม้เทคโนโลยีการสื่อสารจะมีความก้าวหน้ามากเพียงใด แต่ธุรกิจให้บริการจัดส่งไปรษณีย์ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนสาขาของ THE UPS STORE ทั่วโลกมีมากกว่า 4,943 และในสหรัฐอเมริกามีสาขากว่า 4,590 สาขา และคาดว่าน่าจะเพิ่มสาขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง 
  • THE UPS STORE ก่อตั้งในปี 1980
  • จำนวนส่าขาทั่วโลก 4,943 สาขา
  • จำนวนสาขาในสหรัฐฯ 4,590 สาขา 
  • ต้นทุนในการเปิดร้าน $159.2 K-$434.5 K
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/XSthcC 
 
5. JIMMY JOHN'S GOURMET SANDWICHES
 
ร้านแซนด์วิชชื่อดังอย่าง Jimmy John’s Gourmet Sandwiches ถูกจัดมาอันดับที่ 5 จากแฟรนไชส์ 500 กิจการ ถือเป็นแฟรนไชส์ทั่วโลกที่ต้องจับตามอง Jimmy John’s Gourmet Sandwiches อาจยังไม่เป็นที่คุ้นหูคุ้นตามานัก แต่ในต่างประเทศ Jimmy John’s Gourmet Sandwiches เป็นที่รู้จักดี 
 
เพราะขึ้นชื่อในเรื่องการทำแซนด์วิชที่สดใหม่ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ขอบอกก่อนเลยว่า Jimmy John’s Gourmet Sandwiches ไม่ได้เป็นแบรนด์น้องใหม่แต่อย่างใด ทางร้านเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1983 (เปิดร้านมากว่า 33 ปี) แต่เริ่มมาขายแฟรนไชส์ในปี 1993 (เป็นเวลากว่า 23 ปี ที่ขายแฟรนไชส์)
 
  • . JIMMY JOHN'S GOURMET SANDWICHES ก่อตั้งในปี 1983
  • . จำนวนสาขาในสหรัฐฯ 2,600 สาขา 
  • . ต้นทุนในการเปิดร้าน $325.5 K–$555 K
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/dAIHlf 
 
6. DAIRY QUEEN
 
DAIRY QUEEN เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมและมีประสบการณ์มายาวนานในสหรัฐฯ เห็นได้ขยายสาขาไปทั่วโลกแล้วกว่า 6,700 สาขา โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา DAIRY QUEEN ได้เปิดสำนักงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ยุโรป ละตินอเมริกา แคลิบเบียน เป็นต้น 
 
ต้องยอมรับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา คนอเมริกันเกิดความหลงใหลในสินค้าแสนอร่อยของ แดรี่ควีน นับแต่ร้านแดรี่ควีนร้านแรก เปิดที่เมือง โจเล็ท มลรัฐอิลินอย สหรัฐอเมริกาในปี 1940 โดย เจ เอฟ แมคคูลูจ ไอศกรีมจะมีรสชาติอร่อยขึ้น ถ้าทำให้นุ่ม โดยการผลิตใหม่สดจากเครื่อง ไม่แข็งเหมือนไอศกรีมแช่แข็งทั่วไป 
 
และจากสัญลักษณ์อันโดดเด่น ไอศกรีมโคนบอลกลม หัวรูปตัวดี ทำให้แดรี่ควีนมีเอกลักษณ์พิเศษที่ไม่เหมือนใคร เจ เอฟ แมคคูลูจ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีของธุรกิจผลิตภัณฑ์นม” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Dairy Queen
  • DAIRY QUEEN ก่อตั้งในปี 1940
  • จำนวนสาขาทั่วโลก 6,700 สาขา
  • จำนวนสาขาในสหรัฐฯ 4,460 สาขา
  • ต้นทุนการเปิดร้าน $361.5 K-$1.8 M
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/hrV3Uz 
 
7. ACE HARDWARE
 
ACE HARDWARE แฟรนไชส์ร้านฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ปรับปรุงบ้าน ก่อตั้งในปี 1924 โดย 4 เจ้าของร้านฮาร์ดแวร์ อย่าง Richard Hesse, E. Gunnard Lindquist, Franke Burke and Oscar Fisher ได้ร่วมลงทุนซื้อสินค้าจำมากเพื่อนำมาขายเก็งกำไร และเพื่อต่อสู้กับร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ จากความร่วมมือดังกล่าว ธุรกิจมีการเติบโต ขยายร้านค้ามากว่า 1,000 แห่ง มีบริการหลากหลายผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะฮาร์ดแวร์ต่างๆ อุปกรณ์ปรับปรุงและตกแต่งบ้าน เป็นต้น
  • ACE HARDWARE ก่อตั้งในปี 1924 
  • จำนวนสาขาทั่วโลก 4,900 สาขา
  • จำนวนร้านในสหรัฐฯ 4,335 สาขา
  • ต้นทุนในการเปิดร้าน $272.5 K-$1.6 M
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/kISzlC 
 
8. WINGSTOP RESTAURANTS
 
ถือว่าสุดยอดสำหรับ WINGSTOP RESTAURANTS ที่เข้ามาติดอันดับ 8 จาก 10 อันดับแฟรนไชส์ชั้นนำขอโลกตลอดปี 2016 ในประเทศไทยอาจไม่ค่อยรู้จักมากนัก เพราะเป็นแบรนด์แฟรนไชส์น้องใหม่ในสหรัฐฯ
 
โดยแฟรนไชส์ร้านขายไก่ทอด Chicken wings เริ่มดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 1994 กระทั่งปี 1998 ได้ทำการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ได้รับความนิยมจากตลาดและผู้บริโภคชาวอเมริกันจำนวนมาก
  • WINGSTOP RESTAURANTS ก่อตั้งในปี 1994
  • จำนวนสาขาทั่วโลก 949 สาขา
  • จำนวนสาขาในสหรัฐฯ 67 สาขา
  • ต้นทุนในการเปิดร้าน $238.4 K–$922.9 K 
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/nk50i0 
 
9. SPORT CLIPS 
 
SPORT CLIPS เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ร้านตัดผมสำหรับผู้ชาย ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 ก่อนที่จะขยายพื้นที่ให้บริการและเปิดร้านบริการในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา 
ความโดดเด่นของแฟรนไชส์ SPORT CLIPS อยู่ที่การออกแบบทรงผมใช้เวลารวดเร็ว ลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการจะได้รับการบริการที่มีคุณภาพ ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์เปิดร้านจะได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น มีความยืดหยุ่นในแบบสไตล์สิสต์ 
  • SPORT CLIPS ก่อตั้งในปี 1993
  • จำนวนสาขาในอเมริกาเหนือ 1,625 สาขา
  • จำนวนแฟรนไชส์ในสหรัฐฯ 50 สาขา
  • ต้นทุนในการเปิดร้าน $183.3 K–$351.5 K
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/GJfTZ1 
 
10. RE/MAX
 
นับตั้งแต่ปี 2008 ถือว่า RE/MAX เข้ามาติดอันดับ 10 เป็นครั้งแรก จากการจัดอันดับธุรกิจแฟรนไชส์ชั้นนำยอดนิยมจากแฟรนไชส์ 500 โดยปีที่ผ่านาพบว่าการเติบโตกว่า 64% มาจากต่างประเทศ โดยมีสาขาทั่วโลกมากกว่า 7,275 สาขา 
 
เป็นแฟรนไชน์ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุด มีตัวแทนที่ทำงานร่วมกันเกือบ 97,000 คน ในประเทศมากกว่า 97 ประเทศทั่วโลก ก่อตั้งในปี 1973 ที่เดนเวอร์ รัฐโคโลราโด้ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย คุณเดฟ และ เกล ลินิเกอร์ ในขณะนั้นคุณเดฟ อายุเพียง 27 ปี เขาทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา มีความเป็นมืออาชีพ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • RE/MAX ก่อตั้งในปี 1973
  • จำนวนสาขาทั่วโลก 7,275 สาขา
  • จำนวนสาขาในสหรัฐฯ 3,657 สาขา
  • ต้นทุนการเปิดร้าน $37.5 K–$224 K 
รายละเอียดเพิ่มเติม https://goo.gl/bhCLcV
 
ได้เห็นแล้วว่า 10 อันดับธุรกิจแฟรนไชส์ชั้นนำ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากตลอดปี 2016 หน้าตาแบรนด์เป็นอย่างไรบ้าง ต้องยอมรับว่าแต่ละแบรนด์มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แม้ว่าหลายๆ แบรนด์คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักมากนัก แต่เชื่อว่าในอีกไม่ช้า ธุรกิจแฟรนไชส์ที่เราไม่คุ้นหน้าคุ้นตา น่าจะขยายสาขามาในประเทศไทยอย่างแน่นอน 
 
สำหรับใครที่อยากลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ เราได้รวบรวมธุรกิจแฟรนไชส์หลากหลายแบรนด์ หลากหลายธุรกิจ ลงทุนตั้งแต่หลักพันถึงหลักล้าน คลิกดูได้ที่ goo.gl/gXXw4V 
 
อ้างอิงข้อมูลจาก https://goo.gl/gkiVGe
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
5 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนพฤศจิกายน 25..
2,096
ลงทุนไหนดี! 10 แฟรนไชส์กาแฟ ซื้อแล้วกำไร ลูกค้าไ..
868
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เฟรนช์ฟรายส์ราดซอสชีส+เครื่องดื..
823
มาจิเมะ “ตัวบอสแห่งวงการชานม” ลงทุนน้อย! ยอดขายด..
725
รวม 15 แฟรนไชส์ Gen ไหน เหมาะลงทุนแบรนด์ไหน
687
มัดรวม 17 แฟรนไชส์ซื้อโดยเสน่หา! ลงทุนหน้าบ้าน
655
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด