สิ่งที่เปลี่ยนไปบนถนนธุรกิจ

15 ปีที่แล้ว  มองซ้าย มองขวา ถึงสินค้า บริการ ทั้งอุปโภค-บริโภค เราจะเห็นรูปแบบเดิมๆ ที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย และ 15 ปีที่แล้ว อีกเช่นกัน ..ถ้ามีใครสักคนจะพุดว่า ต่อไปเวลาเราอยากจะเบิกเงิน ไม่จำเป็นต้องไปที่ธนาคาร แต่ไปเบิกตามห้างได้ และเบิกได้ทุกวันไม่มีวันหยุดตลอดปี คงจะเป็นเรื่องแปลก !

ในเรื่องของ Promotion และ Campagin ต่างๆ ก็เช่นเดียวกัน...10 ปีที่แล้ว ถ้าจะมีคนบอกว่า ต่อไปเราอาจจะได้รถยนต์มาทดลองขับฟรี หลายเดือนโดยยังไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท หรือ เราสามารถซื้อบ้านโดยผู้ขายเป็นคนจ่ายให้ !...เพื่อให้เราได้ทดลองอยู่ฟรีเป็นปี...ก็คงยากที่จะมีคนเชื่อว่าจะเป็นไปได้

และ 12 ปีที่แล้ว ผมได้เคยบอกผู้เข้าสัมมนาในระหว่างที่ผมเป็นวิทยากรให้กับธุรกิจประกันชีวิตบริษัทหนึ่ง...โดยตั้งเป็นคำถามและกระตุ้นถึงความเป็นไปได้ว่า ทำไมไม่มีกรมธรรม์รูปแบบใหม่ๆ ที่แตกต่างน่าสนใจ สะดวกกว่าที่มีอยู่ในตลาดขณะนั้น เช่น จ่ายเบี้ยสั้นที่สุด แต่คุ้มครองนานสุดและสูงสุด! หรือกรมธรรม์ที่มีสิทธิประโยชน์ที่โดดเด่น ทั้งครอบคลุมคุ้มครองในเรื่องชีวิต ทั้งสุขภาพ และการออมในกรมธรรม์เดียวกัน...แต่เพิ่มเบี้ยเพียงเล็กนอย ฯลฯ

จำได้ว่ามีเสียงตอบจากผู้บริหารหลายๆ ท่านในยุคนั้นว่า ...เป็นไปได้ยาก  เพราะธุรกิจนี้มีข้อจำกัดหลายอย่าง ยกสารพัดเหตุผลว่าเป็นไปไม่ได้.. และ 10 ปีที่แล้วอีกเช่นกัน..ถ้าจะมีคนบอกว่าโทรศัพท์แบบเติมเงินจะครองส่วนแบ่งมากกว่าแบบรายเดือน...และยังสามารถเติมเงินตามร้านก๋วยเตี๋ยวได้ ใครจะเชื่อ !?

วันที่ท่านกำลังอ่านอยู่ในวินาทีนี้...ลองสังเกตสินค้า-บริการในแต่ละธุรกิจดูสิครับ

1. สินค้า-บริการที่เป็นอันดับ 1 หรืออันดับต้นๆ มีการเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ รูปแบบของสินค้า รูปแบบของ Promotion ไปจนถึงรูปแบบของช่องทางการจัดจำหน่าย ต่างกับอดีตมากเพียงใด...
    
2. สินค้า-บริการ ที่ไม่เคยมีการเปลี่ยนหรือพัฒนาใดๆ เลย ยังเหลือรอดอยู่กี่ราย...? และจะเหลือไปถึงหนึ่งปี สองปีข้างหน้าอีกกี่ราย...?
    
3. ผู้นำสูงสุดของแต่ละธุรกิจ ยังใช้ทฤษฏีในการบริหารสินค้า บริหารองค์กร ด้วยทฤษฏีเดิมๆ เพียงกี่คน?

ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่....

ประเด็นแรก แต่ละธุรกิจไม่สามารถ “ใช้วิธีคิดในกรอบเดิมๆ ที่เคยชิน ที่เป็นที่ยอมรับในอดีต” มาใช้กับธุรกิจของตัวเองได้อีกต่อไป เช่น ธุรกิจประกันชีวิตจากเดิมพึ่งพาพนักงานรายบุคคล ต้องเพิ่มช่องทางการขายอื่นๆ ทั้งขายผ่านธนาคารหรือใช้ช่องทาง Telemarketing ที่กลายเป็นช่องทางเสริมที่เพิ่มบทบาทมากขึ้นในปัจจุบัน

ประเด็นที่สอง แต่ละธุรกิจ “หยิบยืมวิธีคิดและกลยุทธ์ของธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้มาใช้กับธุรกิจของตนเอง “ เช่น  ธนาคารใช้กลยุทธ์ของธุรกิจค้าปลีกระดับโลกทั้งยูนิลีเวอร์หรือค้าปลีกอื่นๆ มาใช้กับธุรกิจธนาคารจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา

ประเด็นที่สาม แต่ละธุรกิจจะเริ่มผสมผสาน ไปจนถึงคิดค้น “กรอบความคิดใหม่ๆ กลยุทธ์ใหม่ๆ ช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ การสร้าง Brand และการตลาดรูปแบบใหม่ๆ มาใช้กับธุรกิจตนเอง” เพื่อสร้างทั้งความแตกต่างไปจนถึงสร้างคุณค่าใหม่ๆ ที่คู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน...ไม่กล้าแม้กระทั่งที่จะคิด

ประเด็นสุดท้ายธุรกิจที่ท่านกำลังทำอยู่มีอะไรบ้างที่ถือว่าเป็นการพัฒนาไปจนถึงมีการเปลี่ยนแปลง?

รูปแบบของสินค้า รูปแบบของการบริการ รูปแบบของ Campaign รูปแบบของช่องทางการจัดจำหน่าย

หรือยังคงวนเวียนอยู่ในกรอบเดิมๆ ที่อุตสาหกรรมของท่านกำลังทำอยู่เช่นเดียวกัน...ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำยังคงเหมือนเดิม...ท่านและธุรกิจของท่าน ก็ไม่มีสิทธิที่จะโวยวาย...ถ้าลูกค้าและธุรกิจของท่านจะล้มหายตายจากไปในเร็วๆ นี้ !

อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ