ภาพจาก goo.gl/2dIi1Y

พูดถึงรถไฟในประเทศอินเดีย เชื่อว่าแทบทุกคนคงนึกภาพที่ผู้คนเบียดเสียดยัดเยียดล้นออกมานอกขบวนขึ้นไปอยู่บนหลังคา แต่จากประสบการณ์ของผู้ที่ได้อยู่ในอินเดียมานานกลับบอกว่าไม่เคยพบเห็นภาพที่ว่านี้โดยส่วนใหญ่ภาพที่สื่อนำเสนอนั้นจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านของอินเดียมากกว่า และนอกจากรถไฟในอินเดียจะไม่ได้เป็นเหมือนภาพข่าวที่นำเสนอไปเรื่องของคุณภาพและบริการยังถือว่าดีกว่าอีกหลายประเทศที่ดูถูกดูแคลนการรถไฟของอินเดียด้วยซ้ำไป
 

และจากข้อมูลทางเว็บไซต์ทำให้เรารู้ว่าปัจจุบันแม้จะมีสายการบินต้นทุนต่ำเกิดขึ้นในอินเดียจำนวนมากแต่รถไฟก็ยังเป็นระบบขนส่งมวลชนที่คนอินเดียนิยมมากที่สุด เนื่องจากราคาค่าโดยสารอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับการเดินทางแบบอื่นๆ เนื่องจากทางรัฐบาลอินเดียลงมาดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

และระบบรางรถไฟในอินเดียก็มีครอบคลุมทั่วทั้งประเทศอันเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่สมัยอินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษซึ่งในความน่าสนใจที่ว่านี้ก็มีตัวเลขต่างๆออกมามากมายและก่อให้เกิดแรงจูงใจในการสร้างธุรกิจการสั่งอาหารออนไลน์ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยเหตุนี้
 

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าน่าจะเป็นช่องทางหนึ่งที่นักธุรกิจเมืองไทยอาจเอามาเป็นแนวคิดในการต่อยอดการทำธุรกิจตัวเองเป็นอีกช่องทางไอเดียที่คนไทยน่าจะทำได้ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะพัฒนาให้ออกมาในรูปแบบไหนเท่านั้น

 

ภาพจาก goo.gl/V164vQ

ในแต่ละปีจะมีผู้โดยสารรถไฟในอินเดียประมาณปีละ 6 พันล้านคนจากจำนวนประชากรของอินเดียที่มีรวมกว่า 1.3 พันล้านคน รวมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางในประเทศอินเดียตลอดปีรวมๆ กัน

นั่นหมายความว่าคนอินเดียแต่ละคนเดินทางโดยรถไฟเฉลี่ยปีละประมาณ 5 ครั้ง แต่ปัญหาใหญ่ของผู้โดยสารรถไฟในอินเดียก็คือเรื่องอาหารการกินบนรถไฟระหว่างการเดินทางที่มักจะมีคุณภาพไม่ดี มีเมนูอาหารให้เลือกน้อย รสชาติไม่ได้เรื่อง และไม่ค่อยจะถูกสุขลักษณะสักเท่าใดนัก ที่น่าเห็นใจมากก็คือผู้โดยสารที่เดินทางไกล

อย่างการเดินทางจากเมืองมุมไบทางด้านตะวันตกไปจนถึงเมืองพาราณสีทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือนี่ใช้เวลาเดินทางกว่า 30 ชั่วโมงกว่า และปัญหาใหญ่ของผู้โดยสารก็คือไม่มีทางเลือกเรื่องอาหารเลย บนรถไฟมีอะไรก็ต้องรับประทานไปตามนั้น เมื่อโจทย์ทางการตลาดชัดเจนขนาดนี้จึงก่อให้เกิดธุรกิจสั่งอาหารออนไลน์บนรถไฟในอินเดียขึ้นมา

 

ภาพจาก goo.gl/UcAXk3

เป็นธุรกิจของเหล่า Tech Startup ที่มองเห็นช่องทางการตลาด จึงได้เริ่มต้นก่อตั้งบริษัทเพื่อจัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อรับสั่งและจัดส่งอาหารสำหรับผู้โดยสารรถไฟขึ้นชื่อว่า TravelKhana ซึ่งเป็นชื่อที่สื่อให้เห็นธุรกิจของบริษัทอย่างชัดเจน เพราะคำว่า “Khana” ในภาษาฮินดี ถ้าเป็นคำกริยา แปลว่า “รับประทาน” หรือถ้าเป็นคำนามก็แปลว่า “อาหาร” เมื่อนำมารวมกับคำว่า “Travel” เป็น “TravelKhana” ก็คือ อาหารระหว่างการเดินทางโดยธุรกิจรับสั่งอาหารออนไลน์ไม่ใช่สิ่งใหม่ในอินเดีย

ที่ผ่านมา มีเว็บไซต์ที่รับสั่งอาหารออนไลน์เกิดขึ้นกว่า 54 เว็บ ด้วยเงินลงทุนรวมกัน 236 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,260 ล้านบาท ที่มีชื่อเสียงก็เช่น FoodPanda ในขณะที่บางรายก็ไม่สามารถดำเนินการต่อได้มีหลายรายต้องปิดตัวเองไปแต่ธุรกิจของ TravelKhana นั้นกลับเติบโตสวนกระแสได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

 

ภาพจาก TravelKhana.Com

จากเว็บไซต์ของการรถไฟอินเดียที่ www.irctc.com หรือจะเลือกสั่งจากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.TravelKhana.com หรือจะให้สะดวกกว่านั้นก็สามารถสั่งได้จาก Application บนโทรศัพท์มือถือเลย

แต่ถ้าไม่ถนัดแนวไฮเทคก็สามารถสั่งผ่านโทรศัพท์ซึ่งเป็นบริการโทรฟรีได้เหมือนกัน โดยในคำสั่งซื้อจะต้องระบุชื่อ วัน/เวลาเดินทาง ขบวนรถไฟ หมายเลขการจอง สถานีที่จะรับอาหาร เมื่อ TravelKhana ได้รับคำสั่งซื้อแล้วก็จะส่งต่อคำสั่งซื้อไปยังร้านอาหาร/ภัตตาคารในเครือข่ายของบริษัทฯ เพื่อดำเนินการจัดส่งอาหารให้ผู้โดยสารต่อไป โดยรายได้หลักของ TravelKhana มาจากค่าคอมมิชชั่นของยอดขายอาหาร

ปัจจุบัน TravelKhana มีเครือข่ายร้านอาหาร/ภัตตาคารอยู่ 1,200 แห่งตามเมืองต่างๆ โดยเป็นบริษัทออนไลน์เพียงบริษัทเดียวที่ได้รับสัมปทานในการจัดส่งอาหารให้ผู้โดยสารรถไฟของการรถไฟอินเดียซึ่งปัจจุบันเพิ่งเปิดให้บริการจัดส่งอาหารได้ 28 สถานี

แต่ขณะนี้กำลังขยายเพิ่มขึ้นอีก 409 สถานีตามความต้องการของการรถไฟอินเดีย โดยในเร็ววันนี้จะเพิ่มขึ้นก่อน 150 สถานี ส่วนที่เหลือก็จะเร่งขยายต่อไป โดยปัจจุบันยังให้บริการอยู่ในกรุงนิวเดลี มุมไบ บังคาลอร์ ปูเน่ และโกลกัตตา

ภาพจาก facebook.com/Travelkhana
 

TravelKhana หลังจากเปิดตัวได้ไม่นานก็มีอัตราการขยายตัวของธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 12 เท่าตัว โดยในแต่ละวัน TravelKhana ต้องจัดส่งอาหารให้ผู้โดยสารบนรถไฟประมาณ 1,500-2,000 ชุด มียอดรวมของการจัดส่งต่อปีนั้นไม่น้อยกว่า 512,108 ชุด

ที่น่าสนใจคือเป็นการเติบโตในทุกช่องทางการสั่งซื้อทั้งจากเว็บไซต์ การโทรศัพท์ การสั่งผ่าน Application โดยเฉพาะในการสั่งผ่าน Application และ Mobile Web เติบโตขึ้นมากเพราะคนอินเดียมีการใช้โทรศัพท์มากขึ้นรวมถึงการพัฒนาระบบอินเทอร์เนตที่ล้ำหน้า โดยบริษัทคาดว่าธุรกิจนี้จะมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าเป็น350 ล้านรูปีหรือประมาณ 175 ล้านบาทจากการสั่งออนไลน์โดยเฉพาะ

 

ถ้ามองถึงตรงนี้ก็คาดว่าอนาคตของ TravelKhana นั้นเดินมาถูกทางและน่าจะพัฒนาขึ้นไปได้อีกมาก ที่สำคัญฐานของผู้บริโภคมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากจำนวนประชากรของอินเดียที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

หันมามองในประเทศไทยที่ระบบขนส่งด้วยรถไฟก็มีความนิยมไม่แพ้กันแม้จะไม่เด่นชัดเท่าอินเดียแต่ปัญหาของคนที่เดินทางด้วยรถไฟก็น่าจะใกล้เคียงกันแต่เรื่องของธุรกิจถ้าคิดจะทำให้เหมือนกันคงยากต้องเอามาปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ในแต่ละประเทศแต่เชื่อว่าหากมีใครคิดได้และทำได้น่าจะเป็นไอเดียดีๆที่ก่อให้เกิดธุรกิจแบบใหม่น่าสนใจในประเทศได้มากขึ้น

 

ดูแล้วอนาคตของ ค่อนข้างจะสดใสมาก เพราะแค่เริ่มต้นก็เติบโตอย่างพรวดพราดเหลือเชื่อ ที่สำคัญคือ โอกาสในตลาดมีอยู่สูงมากเพราะผู้โดยสารรถไฟในอินเดียมีจำนวนมากถึงปีละ 6 พันล้านคน นี่เพิ่งจะเริ่มๆ ก็ไปโลดแล้ว ผมคิดว่าแนวความคิดนี้เด็ดสะระตี่มากๆ ครับ เขียนมาให้อ่านเผื่อว่าจะเป็นไอเดียสำหรับ Tech Startup บ้านเรานะครับ

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S