ปัจจุบันศูนย์การค้าและไลฟ์สไตล์มอลไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในเขตชุมชนเมืองอีกต่อไป การเพิ่มขึ้นของประชากรในกรุงเทพฯทำให้ย่านชานเมืองเป็นเป้าหมายทางเศรษฐกิจของผู้ลงทุนจำนวนมาก

แต่กระนั้นก็ดีการเปิดพื้นที่การค้าในแหล่งใหม่ๆหากขาดประสบการณ์และวิธีการจัดการที่ดีย่อมทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้ยากแต่ในทางกลับกันหากมีประสบการณ์บริหารในพื้นที่มายาวนานการเปลี่ยนแปลงเพื่อรับการขยายตัวของชุมชนเมืองก็ดูจะเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นเช่นกัน

 

หนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่เรียกได้ว่าอยู่มานานและเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของจังหวัดก็คือน้ำพลุพลาซ่าที่เปิดดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2534 ถือเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในสมุทรสาครที่ดำเนินธุรกิจต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันโดยมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับยุคสมัยมาตลอดเวลากลายเป็นพื้นที่การค้าที่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่ามีกำลังการซื้อของผู้บริโภคจำนวนมากและน่าจะเป็นย่านการค้าที่พ่อค้าแม่ค้าทำกำไรจากธุรกิจได้มากอย่างยิ่งทีเดียว

 

จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมที่เข้าสู่ยุคแห่งความทันสมัยมากขึ้นในฐานะที่เป็นห้างสรรพสินค้าที่อยู่มายาวนานจึงต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับกระแสความนิยมและเพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนเมืองที่ออกมาสู่เขตชานเมืองมากขึ้นทางผู้บริหารโครงการน้ำพลุพลาซ่า จึงทุ่มงบประมาณปรับปรุงโครงสร้างอาคารใหม่

โดยใช้แนวคิดการออกแบบอาคารให้มีความทันสมัยมากขึ้นในรูปแบบของโมเดิร์นอาร์ต โดยด้านหน้าของอาคารทำเป็นกระจกใส ที่สามารถมองเห็นด้านในได้อย่างชัดเจน ส่วนรูปแบบของอาคารนั้นก็ทำเป็นแนวสลับคล้ายบันได

สื่อความหมายถึงการก้าวสู่ความสำเร็จ โดยใช้สีของอาคารโทนเทาเมทัลลิคเพื่อให้ดูโฉบเฉี่ยวและทันสมัยมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการปรับปรุงพื้นที่ครั้งสำคัญที่จะเป็นผลดีทั้งต่อผู้ค้าและดึงดูดให้คนสนใจเข้ามาใช้บริการในห้างสรรพสินค้าน้ำพลุพลาซ่าแห่งนี้มากขึ้นด้วย

 

 

1.ประสบการณ์ดำเนินงานยาวนานกว่า 25 ปี
 

จากจุดเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2534 ที่ถือเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของจังหวัดสมุทรสาคร มีรูปแบบการบริหารจัดการที่สอดคล้องกับยุคสมัยตลอดมา ถือเป็นการบริหารงานที่มองเห็นทิศทางของธุรกิจแนวนี้ชัดเจนและทุกกิจกรรมการตลาดก็ล้วนแต่ส่งเสริมให้ผู้ค้าในพื้นที่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

 

2.ใจกลางย่านชุมชนประชากรหมุนเวียนเกินกว่าหลักแสน/วัน
 

 

พื้นที่ตั้งของน้ำพลุพลาซ่านั้นรายล้อมไปด้วยโรงเรียนไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ศูนย์ราชการในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงปัจจุบันที่มีหมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก ปริมาณของผู้คนที่เดินทางมายังพื้นที่เหล่านี้เฉลี่ย/วันไม่ต่ำกว่า 100,000 คนซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าวางแผนทำกำไรจากฐานลูกค้าจำนวนมากเหล่านี้ได้

 

3.การเดินทางสะดวกสบายมาได้หลากหลายรูปแบบ
 

เป็นความจริงที่น่าสนใจว่าน้ำพลุพลาซ่านั้นแวดล้อมด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายไม่นับถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางที่ผู้คนสามารถมาจากทั่วสารทิศได้ง่ายทั้งจากกรุงเทพฯเดินทางสู่ภาคใต้หรือจากภาคใต้เดินทางเข้ากรุงเทพฯล้วนก็ต้องผ่านสมุทรสาครทั้งนั้น

นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟที่เดินทางมาได้จากวงเวียนใหญ่และสามารถต่อไปถึงจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงอยู่ใกล้ท่าเรือที่ประชาชนสามารถสัญจรมาทางเรือได้อีกส่วนหนึ่งจึงเป็นความหลากหลายที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

 

 

น้ำพลุพลาซ่านั้นมีพื้นที่ค้าขายไม่ต่ำกว่า 6,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยชั้นใต้ดิน และชั้นบนอีก 5 ชั้นซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมากโดยในแต่ละชั้นนั้นก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันไปเช่น

 

เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่หลากหลายราคาจึงแตกต่างกันไปในแต่ละโซน โดยพื้นที่ขนาดกลางราคาประมาณ 30,000 บาท/เดือน แต่ทั้งนี้ทางผู้บริหารของน้ำพลุพลาซ่าก็เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจจองพื้นที่ได้เข้ามาเสนอราคาที่ตัวเองต้องการซึ่งก็จะต้องมาพิจารณาความสมเหตุสมผลกันอีกทีเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าได้มีโอกาสค้าขายในทำเลการค้าที่ดีที่สุดในสมุทรสาครแห่งนี้

 

สิ่งที่เราเห็นได้ชัดคือความไม่หยุดนิ่งของผู้บริหารในการปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามกระแสและดูเหมือนว่าจะได้ผลอย่างดีกับการที่มีทั้งผู้ค้าและผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการพื้นที่จำนวนมากถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างน่าสนใจของการทำธุรกิจลักษณะนี้ที่มองเห็นความสำคัญของการลงทุนให้ตัวเองคงอยู่ในยุคสมัยได้ตลอดเวลาผลที่ตามมาคือธุรกิจก็มีกำไรได้ต่อเนื่องที่สุด

 

และสำหรับท่านใดที่อยากลงทุนค้าขายหรือเริ่มต้นการทำธุรกิจและกำลังมองหาทำเลการขายของที่น่าสนใจเรามีรวบรวมทำเลค้าขายไว้ให้ทุกท่านได้เลือกกันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/aDCSQI

 
ขอบคุณรูปภาพจาก  http://nampuplaza.co.th