ภาพจาก goo.gl/MsNSDP

การใช้เครื่องมือออนไลน์มาทำการตลาดถือว่าช่วยประหยัดต้นทุนได้มากและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ในปัจจุบัน เครื่องมือออนไลน์เหล่านี้กลายเป็นช่องทางสำคัญในการทำธุรกิจ ซึ่งก็มีเทคนิคสำคัญๆ ให้เราได้ศึกษาอยู่เป็นจำนวนมากและหนึ่งในวิธีการเพิ่มยอดขายสินค้าที่หลายคนนิยมทำกันนั้นก็คือการ Live ผ่าน Facebook โดยที่ผ่านมาการทำ Live อาจจะมีทั้งแบบที่สำเร็จและไม่สำเร็จ

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com  มี 10 เทคนิคในการทำ Facebook LIVE ให้คนติดตามมากขึ้นบางเรื่องเราอาจทำไปแล้วแต่บางเรื่องเราอาจมองข้ามวันนี้ลองมาดูเทคนิคเหล่านี้อีกครั้งว่ามีอะไรบ้าง

 

ภาพจาก goo.gl/hkxAwM

ถึงแม้ว่า การทำ Facebook Live จะได้รับการผลักดันแบบสุดๆ จากทาง Facebook ด้วยการเพิ่มค่า Reach ที่สูงมากไปยังเพื่อนเรา และคนที่ Follow เราอยู่อย่างมหาศาล แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะพร้อมดู Live ของเราทันทีการประกาศล่วงหน้าว่าเราจะ Live กี่โมงและ Live เรื่องอะไรช่วยเพิ่มแรงกระตุ้น ให้คนรอคอย Live ของเรามากขึ้น วิธีนี้คล้ายกับการวางผังรายการของสถานีโทรทัศน์ที่ทำให้คนดูรู้เวลาออกฉายแน่นอนก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยได้อย่างสบายใจ

 

2.การ Live สด สัญญาณอินเทอร์เนตต้องแรง

Internet ที่ดี ช่วยให้การทำ Live ราบรื่น ภาพไม่กระตุก เสียงไม่ขาดหาย คนดูไม่เสียอารมณ์ ถึงแม้ว่า Facebook จะใช้เทคโนโลยีในการบีบอัดภาพที่ค่อนข้างดีมากในการส่งข้อมูล เราควรมีความแรงของอินเทอร์เนตอย่างน้อยสำหรับการทำ Live ให้ภาพเป็น HD ดังนั้นก่อนทำ Live ก็ทำ Speedtest ทดสอบ Internet ที่ใช้งานดูก่อนว่ามีค่า Upload เท่าไหร่ และเพียงพอต่อการทำ Live หรือไม่

 

3.เตรียมตัวทำบทพูดไว้ล่วงหน้าและวางไว้ในจุดที่เรามองเห็นได้ชัดเจน
 

เนื่องจากการ Live ก็คือการถ่ายทอดสดด้วยเหตุนี้เราจึงต้องป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทอดโดยเฉพาะกับบทพูดที่สำคัญมาก ดังนั้นเนื้อหาสาระที่เราต้องการพูดควรเตรียมพร้อมมาอย่างดี

ทุกประเด็นเราควรซ้อมพูดไว้ก่อนเริ่มการLive หรือถ้าไม่แน่ใจหรือว่ากลัวจะลืมสคริปเหล่านั้นก็ควรจดใส่กระดาษหรือปริ้นต์เป็นแผ่นกระดาษติดไว้ในบริเวณที่เรามองเห็นได้ง่าย เวลาที่เกิดปัญหาหรือไม่แน่ใจจะได้มีตัวช่วยในการถ่ายทอดสด

 

 

ภาพจาก goo.gl/7Wmiak

นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สำหรับใครก็ตามที่ทำการ Live เชิงธุรกิจเรื่องนี้สำคัญมาก ลองจินตนาการภาพดูว่าในขณะที่เรากำลัง Live สดอยู่นั้นแล้วเกิดมีคนโทรเข้ามาหาเราโทรศัพท์จะต้องทำการตัดสัญญาณLive เพื่อให้เรารับโทรศัพท์ ทีนี้ก็มีปัญหาในระหว่างการถ่ายทอดทันที ด้วยเหตุนี้ Airplane Mode จึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดที่ป้องกันการถูกรบกวนจากคนโทรเข้าแลยังทำให้เราเปิดสัญญาณWIFI ได้ด้วย

5.รู้จักใช้ประโยชน์จากขาตั้งกล้อง
 

 

ภาพจาก goo.gl/dbwCgF

ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจยากสำหรับมืออาชีพทั้งหลายก็ยังต้องใช้ขาตั้งกล้องในการถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอ เหตุผลสำคัญก็คือป้องกันภาพสั่นไหว คงไม่ใช่เรื่องดีแน่หากการ Live ของเรานั้นภาพที่เผยแพร่ออกไป

มีการสั่นไหวตลอดเวลาแม้จะเพียงเล็กน้อยแต่ถ้าดูต่อเนื่องกันหลายๆนาทีเข้าคนดูก็เวียนหัวได้เหมือนกัน ที่สำคัญการใช้ขาตั้งกล้องยังทำให้เราสามารถหยิบจับสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้นและปัจจุบันราคาขาตั้งกล้องก็ไม่แพงมาก เรียกว่าลงทุนเพิ่มอีกนิดแต่ได้งานที่มีคุณภาพมากขึ้น

 

6.ใช้อุปกรณ์เพิ่มคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น
 

แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงไมค์ที่จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดของการ Live เพราะคุณสมบัติของโทรศัพท์แต่ละรุ่นแม้จะอัพเกรดหรือพัฒนากันมากขึ้นแต่ไมค์ในตัวเครื่องอาจไม่มีคุณภาพมากพอ ทำให้เสียงที่ออกไปนั้นไม่ดี

การหาไมโครโฟนดีๆสักตัวน่าจะเป็นคำตอบที่น่าสนใจซึ่งการเลือกใช้ไมค์นั้นก็มีหลายรูปแบบเช่น Rode VideoMic Me สำหรับงานที่ต้องคุยกันหลายๆคน ในระยะภาพไม่เกิน 1-2 เมตร หรือไมโครโฟนแบบ Lavalier เพื่อลดเสียงรบกวนและเพิ่มขยายเสียงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

ภาพจาก goo.gl/C75AL6

เราต้องไม่ลืมว่าการ Live ของเราก็ต้องมีคนดูแน่นอน ดังนั้นบทพูดและท่าทางในการพูดเป็นสิ่งสำคัญมาก เราควรทำตัวเป็นนักแสดง นักพูดที่มีวาทะในการดึงดูดให้คนสนใจ ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาพูดแต่ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เราควรมีลูกเล่นในการสร้างบรรยากาศดีระหว่างเรากับคนดู ให้รู้สึกว่านี่ไม่ใช่การ Live ที่น่าเบื่อแต่คือรายการหนึ่งที่น่าติดตามก็จะเป็นผลดีที่ทำให้การ Live ครั้งต่อๆไป มีคนสนใจและอยากดูมากขึ้น

 

8.เวลาที่เริ่ม Live ควรเป็นเวลาเดิมที่แน่นอน
 

คล้ายกับข้อแรกที่เราได้พูดไปว่าต้องกำหนดเวลาที่แน่นอนให้เหมือนผังรายการโทรทัศน์เพื่อคนดูจะได้ติดตามเราได้ง่ายๆ และนอกจากนั้นเราทำการ Live อย่างสม่ำเสมอ

โดยอาจกำหนดแผนการออกอากาศว่าในแต่ละสัปดาห์เราจะทำการ Live ช่วงไหน วันไหน และควรทำให้สม่ำเสมอในเวลาและวันเดิมๆ ความถี่ในการ Live นั้นไม่ควรมากไปหรือว่าน้อยเกินไป ในแต่ละสัปดาห์สัก 2-3 ครั้งน่าจะกำลังดีสำหรับการติดตามของผู้ชม

 

9.ควรใช้เวลาในการ Live ให้เหมาะสม
 

ระยะเวลาที่น่าสนใจของการ Live นั้นอยู่ระหว่าง 15-30 นาที ไม่ควรให้น้อยกว่านี้หรือนานเกินไปกว่านี้ เพราะในช่วง 5 นาทีแรกอาจเป็นเวลาที่คนดูยังเข้ามาไม่มากนักบางคนมาไม่ทันในเวลาเริ่มต้นก็ต้องให้เวลานิดหน่อย

ดังนั้นการวางสคริปช่วงแรกก็อาจเป็นเรื่องทั่วไปและในนาทีที่  5 เป็นต้นไปอาจเริ่มเข้าสู่เนื้อหาสาระที่เราต้องการนำเสนอจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามเวลาในการ Live ไม่ควรให้เกินกว่า 30 นาทีเพราะจะทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อหน่ายการ Live ได้
 

 

ภาพจาก goo.gl/2PWhwu

ใน Youtube ถ้าเราอยากให้คนตามวีดีโอใหม่ๆของเราก็ต้องขอให้เค้า Subscribe ตัว Channel ของเราเอาไว้ เมื่อมีเรื่องใหม่ๆหรือประเด็นสนใจเขาก็จะได้รู้ในทันทีซึ่งการ Live ใน Facebook ก็สามารถทำได้เหมือนกัน โดยปุ่ม Subscribe จะอยู่บริเวณด้านล่างกับด้านบน เราสามารถรู้จักการจบประโยคและเล่นกับคนดูให้เขากด Subscribe ให้กับเราเพื่อประโยชน์ในการ Live ครั้งต่อๆไป

 

การเรียนรู้เทคนิคสำคัญของเครื่องมือออนไลน์มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยทำให้ธุรกิจของเรามีโอกาสเพิ่มลูกค้าได้มากขึ้น บางครั้งเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่เรามองข้ามแต่กลับเป็นสิ่งที่ลูกค้าหลายคนมีความต้องการ ด้วยเหตุนี้ในฐานะที่เราเป็นผู้ประกอบการในยุคใหม่จึงต้องใส่ใจและก้าวตามเทคนิคเหล่านี้ให้ทันเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S