บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
5.2K
3 นาที
7 ธันวาคม 2560
การันตีปี 2561 ปีทองของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย โดยผู้จัดงานแฟรนไชส์ระดับนานาชาติ
 
 
ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์มีการเติบโตและได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการธุรกิจและนักลงทุนมากขึ้น ด้วยแรงสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ รวมถึงการสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดอาเซียน ก่อนที่จะพัฒนาศักยภาพธุรกิจของตัวเองก้าวไกลสู่ตลาดโลก 

มาดูว่าปัจจัยสำคัญที่ทำธุรกิจแฟรนไชส์ได้รับความนิยมในการลงทุน  คือ ธุรกิจแฟรนไชส์ได้ผ่านการลองผิดลองถูกในการทำธุรกิจมาแล้ว โดยเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ จนสามารถประสบความสำเร็จได้ในวันนี้ ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องใช้เวลาในการสร้างธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น เปรียบเสมือนว่าเป็น “การเรียนลัด” ของนักลงทุนหรือผู้ซื้อแฟรนไชส์นั่นเอง    

โดยตลาดรวมของธุรกิจเฟรนไชส์ในปี 2559 มีมูลค่า 250,000 ล้านบาท เติบโต 15% จากปี 2558 และในปี 2560 ถูกคาดว่าตลาดแฟรนไชส์ไทยจะเติบโตขึ้นอีก 15% ซึ่งถ้าแบ่งเป็นสัดส่วนตลาดแล้วธุรกิจเฟรนไชส์ประเภท FOOD & BEVERAGE มีสัดส่วนถึง 50% รองลงมาคือ ประเภท EDUCATION 15% และ อื่นๆ 35%


วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “คุณกวิน กิตติบุญญา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้จัดงานแสดงแฟรนไชส์นานาชาติใหญ่ที่สุดในอาเซียน อาทิ Thai Franchise & SME Expo, งาน Thailand Coffee, Tea & Drinks, งานThailand Bakery & Ice Cream, งานท่องไทยท่องโลก 

งานThailand Bike & Vehicle, งาน TFBO - Thailand Franchise & Business Opportunities และงาน TRAFS - Thailand Retail, Food & Hospitality Service ในเรื่องแนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ 2561 เทรนด์และโอกาสของธุรกิจแฟรนไชส์ใหม่ๆ ซึ่งได้ข้อมูลที่น่าสนใจอย่างมาก มาฝากผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบธุรกิจแฟรนไชส์ทุกๆ ท่านครับ

สถานการณ์แฟรนไชส์ไทย-ต่างประเทศ 


คุณกวิน ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมาแฟรนไชส์ต่างประเทศ ได้มีการขยายสาขาเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟรนไชส์ที่มาจากสหรัฐอเมริกา เอเชีย ญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน

สาเหตุที่ทำให้แฟรนไชส์ต่างประเทศเข้ามาขยายสาขาในเมืองไทยต่อเนื่อง คือ 1.เจ้าของแฟรนไชส์มองว่าตลาดเมืองไทยมีศักยภาพ ด้วยจำนวนประชากรที่มากถึง 70 ล้านคน เป็นรองแค่อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ประกอบกับเมืองไทยเป็นจุดหมายปลายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อรวมกับคนไทยมีจำนวนมากถึง 100 ล้านคน 

2.นักลงทุนชาวไทย ส่วนใหญ่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากหาอะไรใหม่ๆ ลงทุนในระยะยาว จึงต้องมองหาวิธีการลงทุนด้วยการซื้อแบรนด์แฟรไชส์จากต่างประเทศ เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมจากตลาดและผู้บริโภคทั่วโลก
 

ซึ่งในตอนนี้แบรนด์แฟรนไชส์ต่างประเทศในเมืองไทยมีจำนวนกว่า 260 แบรนด์ มีสาขากว่า 16,000 สาขา เยอะที่สุดในอาเซียน ส่วนใหญ่เป็นแฟรนไชส์กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ชา กาแฟ เบเกอรี่ ไอศกรีม มีการเติบโตมากที่สุด  

สำหรับตลาดแฟรนไชส์ Local Brand ในเมืองไทย โดยรวมแล้วมีการเติบโตที่ช้าลง เหตุผลเพราะนักธุรกิจมีการชะลอการลงทุน เพราะยังไม่เห็นทิศทางบวกของเศรษฐกิจไทย แต่คุณกวินเชื่อว่าตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป

เศรษฐกิจไทยจะเริ่มสดใสมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลเริ่มลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น ธุรกิจเริ่มมีการส่งออกมากขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น  


ขณะที่คนรุ่นใหม่ที่เรียนจบใหม่ๆ หันมาสนใจทำธุรกิจแฟรนไชส์มากขึ้น มีทั้งสร้างธุรกิจของตัวเองเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ และกลุ่มคนซื้อแฟรนไชส์ เพราะเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ไม่ต้องยุ่งยากสร้างธุรกิจให้ติดตลาดด้วยตัวเอง 

สำหรับการเติบโตธุรกิจแฟรนไชส์ในเมืองไทย แบ่งออกเป็นแฟรนไชส์ระดับล่าง งบการลงทุนตั้งแต่หลักหมื่นขึ้นไป มีการเติบโต แต่เติบโตในอัตราช้า แฟรนไชส์ระดับกลางงบลงทุนหลักแสนถึงล้าน การเติบโตชะลอตัวลง

เพราะการขยายสาขาเป็นไปตามเป้าหมายของเจ้าของแฟรนไชส์ ส่วนแฟรนไชส์ระดับบนมีการขยายสาขาตามแผนของแต่ละแบรนด์ และมีการขยายสาขาไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 

แนวโน้มและความท้าทายธุรกิจแฟรนไชส์ 2018
 

คุณกวินให้สัมภาษณ์อีกว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มสดใสมากขึ้น จากที่เคยอยู่ในภาวะอึมครึมในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้นักลงทุนหลับมาคิดว่าจะทำอะไรเงินออมของตัวเอง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นเถ้าแก่ แต่ไม่อยากยุ่งยากในการสร้างธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น ก็เลยหันมาซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ให้กับตัวเอง 

ประกอบกับช่วงปลายปี 2561 รัฐบาลได้วางแผนการเลือกตั้งเอาไว้ จึงคาดว่าน่าจะทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศดีขึ้น นักลงทุนหันมาลงทุนทางธุรกิจมากขึ้น ส่งผลให้ความมั่นใจของประชาชนและผู้บริโภคกลับมา นักลงทุนอยากนำเงินออมที่มีอยู่ออกมาลงทุนทำธุรกิจ เรียกได้ว่าทิศทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศปี 2561 จะดีขึ้น 

ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยจะมีการพัฒนาแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น มีการขยายสาขาออกไปต่างประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น อย่างกรณีของแบรนด์กาแฟอเมซอน ขยายสาขาไปในประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ รวมถึงแบรนด์แฟรนไชส์อื่นๆ ที่แข็งแกร่งเริ่มมองหาตลาดต่างประเทศเพื่อนบ้านต่อเนื่อง 

“ปี 2561 ผมมองว่าเป็นปีทองของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ในการขยายสาขาไปต่างประเทศลัขยายสาขาในประเทศมากขึ้น”

แต่สิ่งที่ต้องทำและพึงระวัง เพื่อไม่ให้การเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสะดุด คือ



1.ระบบแฟรนไชส์ 

เจ้าของธุรกิจต้องสร้างระบบแฟรนไชส์ของตัวเองให้มีความแข็งแกร่ง และพัฒนาธุรกิจของตัวเองไปเรื่อยๆ ถ้าระบบไม่ดีโอกาสที่นักลงทุนจะมาร่วมลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ก็มีน้อย ตรงนี้จะสร้างความด่างพร้อยให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ไทย 

โดยธุรกิจแฟรนไชส์ที่ไม่น่าจะมีปัญหา คือ แฟรนไชส์ระดับกลาง เงินลงทุนตั้งแต่หลักแสนถึงล้าน แต่จะมีความพิถีพิถันในการคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนหรือผู้ซื้อแฟรนไชส์ให้ตรงกับความต้องการเท่านั้น แฟรนไชส์กลุ่มนี้ไม่เน้นปริมาณการขยายสาขา
 

ขณะที่แฟรนไชส์ระดับล่าง คุณกวินมองว่า เป็นแฟรนไชส์ที่เกิดขึ้นเร็ว ขยายสาขาเร็ว แต่ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดได้นานแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาบางแบรนด์มีเพียง 1 สาขาก็ขายแฟรนไชส์แล้ว ตรงนี้จะทำให้ระบบแฟรนไชส์ไม่มีความยั่งยืน

ผู้บริโภคก็จะเจอกับความเสี่ยงในเรื่องการบริหารจัดการหลังการขายที่ไม่ดี ที่สำคัญแฟรนไชส์ระดับล่างจะมีการหมุนเวียนเข้าออกระบบแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ มีทั้งแบรนด์แฟรนไชส์เกิดขึ้นใหม่ และแบรนด์แฟรนไชส์เลิกกิจการ 
 


2.ทำเลที่ตั้ง
 
เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญของการทำแฟรนไชส์ ทำเลที่ตั้งจะเป็นกำหนดว่าแฟรนไชส์จะอยู่รอดหรือเติบโต ดังนั้น ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ต้องให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งในการทำธุรกิจ เพราะปัจจุบันทำเลที่ตั้งหายากมากขึ้น

ที่ผ่านมาเราจะเห็นแฟรนไชส์ส่วนใหญ่อยู่ตามห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า แต่ปัญหาของศูนย์การค้าคือเติบโตไม่สอดรับกับการเติบโตของสาขาแฟรนไชส์ จึงทำให้มีคอมมูนิตี้มอลล์เกิดขึ้นตามชานเมืองมากมาย 
 

แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการขยายสาขาแฟรนไชส์ บางแห่งไม่มีการทำตลาดดึงดูดผู้บริโภค ทำให้ขยายสาขาแฟรนไชส์ไปแล้วขายไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการแฟรนไชส์ในปี 2561    

“ผมยังเชื่อมั่นในสุภาษิตที่ว่า ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ฉะนั้นในธุรกิจแฟรนไชส์ นอกจากการหา Partner ที่ใช้แล้ว ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ต้องให้ความสำคัญในเรื่องทำเลที่ตั้งด้วย เพราะถ้าทำเลไม่ดี จะกระทบทั้งผู้ขายและผู้ซื้อแฟรนไชส์ เมื่อแฟรนไชส์ซีขายสินค้าหรือบริการไม่ได้ เงินทุนหมุนเวียนไม่พอ อีกไม่นานก็ต้องเลิกกิจการ” 

แฟรนไชส์ชาเย็นยังเติบโต 
 

คุณกวินบอกด้วยว่า ช่วง 1-2 ปีมานี้ เราจะเห็นธุรกิจเครื่องดื่มยาเย็น ชาเขียว ชานมไข่มุก กาแฟ ฯลฯ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากหลากหลายแบรนด์ จนสามารถสามารถขยายสาขาแบบแฟรนไชส์ แม้แต่แบรนด์เก่าแก่อย่าง “ตรามือ” ยังลงมาเล่นในตลาดเครื่องชาเย็น เพราะเป็นตลาดผู้โภคคนรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ 

แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนโฉมของตลาดเครื่องดื่มประเภทชาเย็น คือ ทำเลที่ตั้งจะอยู่บนรัถไฟฟ้า หน้าออฟฟิศกันมากขึ้น โดยทางลงรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่เราได้เห็นจะเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่ซื้อและกินได้ง่าย


ความโดดเด่นของเครื่องดื่มเหล่านี้อยู่ที่ราคาถูก เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ดี ตลาดกว้างขวาง อย่างกรณีกาแฟ 25 บาท ก็หากินได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องเข้าร้านกาแฟแบรนด์ดังๆ ก็สามารถซื้อกินได้ แต่ความท้าทายของแฟรนไชส์เหล่านี้อยู่ที่การหาทำเลที่ตั้ง และจับตลาดให้ถูก 

ซื้อแฟรนไชส์อย่าตามกระแส 


ในส่วนของนักลงทุนหรือคนซื้อแฟรนไชส์ในปี 2561 คุณกวินบอกว่า อย่าซื้อแฟรนไชส์ตามกระแส ต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบ หรือถนัดอะไร สิ่งแรกที่ผู้อยากซื้อแฟรนไชส์จะต้องทำ คือ หาข้อมูล หาความรู้ตามเว็บไซต์ต่างๆ 

หรือไม่ก็เดินตามศูนย์การค้าเพื่อหาแฟรนไชส์ที่ตัวเองชอบ รวมถึงหาแฟรนไชส์ในงานแสดงสินค้าแฟรนไชส์ต่างๆ ที่มีการจัดขึ้นตลอดทั้งปี เพราะจะได้พบปะกับเจ้าของแฟรนไชส์โดยตรง ทำให้สามารถคุยรายละเอียดต่างๆ ได้

โดยเฉพาะคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ รูปแบบการลงทุน เป้าหมายและปรัชญาของธุรกิจ ที่สำคัญจะได้ดูว่าเจ้าของแฟรนไชส์จะอยู่กับเราได้หรือไม่ เพราะการซื้อแฟรนไชส์เหมือนการหาคู่แต่งงาน เจ้าของแฟรนไชส์จะต้องให้การสนับสนุนผู้ซื้อแฟรนไชส์ต่อเนื่อง 


สรุปจากการสัมมภาษณ์คุณกวิน ก็คือ ปี 2561 ตลาดแฟรนไชส์ในประเทศไทยจะเติบโตมากกว่าปี 2560 โดยมีปัจจัยมาจากสัญญาณเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกเริ่มเป็นบวก ประกอบกับการเมืองนิ่ง การส่งออกดี การท่องเที่ยวเติบโต ทำให้นักลงทุนกล้าที่จะนำเงินออมออกมาทำธุรกิจมากขึ้น 

โดยเฉพาะการลงทุนในแฟรนไชส์ เพราะไม่ต้องเสียเวลาสร้างธุรกิจใหม่ด้วยตัวเอง สามรรถเลือกแบรนด์และธุรกิจที่ตัวเองชอบได้เลย แต่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของระบบแฟรนไชส์ และการหาทำเลที่ตั้งในการทำธุรกิจครับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php
สนใจซื้อแฟรนไชส์ www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
903
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
631
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
570
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
521
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
506
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
484
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด