บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
16K
3 นาที
20 มิถุนายน 2561
ความหมายของ “แฟรนไชส์” ที่คนไทยต้องเข้าใจ!
 

เชื่อว่าในวันนี้ หลายคนน่าจะรู้จัก “แฟรนไชส์” กันเป็นอย่างดี แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่สนใจเรื่องของแฟรนไชส์ แต่ยังไม่รู้ว่าแฟรนไชส์คืออะไร ไม่รู้ว่าแฟรนไชส์ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นแฟรนไชส์รูปแบบไหน เขาบริหารงานยังไง
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอความหมายของระบบแฟรนไชส์ ให้กับคนที่กำลังสนใจแฟรนไชส์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยากทำแฟรนไชส์ และนักลงทุนที่อยากซื้อแฟรนไชส์ทำธุรกิจ ได้รู้และเข้าใจแบบชัดๆ ครับ  
 
ความหมายของแฟรนไชส์
 

ธุรกิจแฟรนไชส์ คือ วิธีการหนึ่งในการขยายตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายของธุรกิจ โดยผ่านผู้ประกอบการอิสระที่เรียกว่า แฟรนไชส์ซี ส่วนทางบริษัทให้สิทธิเครื่องหมายการค้า ถ้ายังไม่ได้เป็นเจ้าของสิทธิถือว่าไม่ถูกต้อง ต้องไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพราะถ้าไม่มีเครื่องหมายการค้าจะไม่สามารถขายแฟรนไชส์ได้ 
 
รวมทั้งต้องมีความเชี่ยวชาญ หรือ Know How อาจจะเป็นวิธีการทำธุรกิจที่จะถ่ายทอดให้แฟรนไชส์ซี เช่น ระบบการผลิต ระบบการขาย ระบบการบริหารการตลาด เพื่อที่จะให้รูปแบบวิธีดำเนินธุรกิจในทุกๆสาขาให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน
 
การทำธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ กับผู้ที่ต้องการลงทุน เช่น ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ Initial Franchise Fee บางที่เรียกว่า ค่าสิทธิ์แรกเข้า หรือ Entrance Fee 

 
เป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้นของระบบแฟรนไชส์ที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซี) จะต้องจ่ายให้แก่แฟรนไชส์ซอร์ เป็นค่าสิทธิในการประกอบธุรกิจหรือใช้ตราสินค้าหรือบริการ หรือเครื่องหมายการค้าหนึ่ง ภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด 
 
โดยแฟรนไชส์ซอร์ส่วนใหญ่จะเสนอบริการต่างๆ เพื่อเป็นการตอบแทนกับรายจ่ายนี้ เป็นการอำนวยความสะดวกต่อการทำธุรกิจรวมถึงการอบรมบริการต่างๆ ที่ทางแฟรนไชส์ซอร์จัดให้แก่แฟรนไชส์ซี 
 
ขณะเดียวกัน สิ่งที่เป็นค่าใช้จ่ายในระบบแฟรนไชส์อีกอย่าง ก็คือ เงินรายงวด ค่าธรรมเนียมการจัดการ หรือ ค่ารอยัลตี้(Royalty Fee) เป็นค่าสิทธิต่อเนื่องบนรายได้ที่แฟรนไชส์ซีได้ จากการดำเนินธุรกิจที่ได้รับสิทธิ เสมือนเป็นภาษีทางธุรกิจ หรือค่าสมาชิกสโมสรที่คนเป็นสมาชิกต้องช่วยเหลือ สนับสนุนเพื่อนำไปพัฒนานั่นเอง 
 
เงินรายงวดหรือค่าธรรมเนียมการจัดการ เป็นค่าใช้จ่ายระหว่างดำเนินกิจการ โดยปกติแฟรนไชส์ซีจะจ่ายให้แก่แฟรนไชส์ซอร์เป็นรายเดือน โดยคิดคำนวณจากสัดส่วนของยอดขายสุทธิในแต่ละเดือน ในธุรกิจอาหารและร้านค้าปลีกต่างๆ อัตราเปอร์เซ็นต์ของค่า Royalty บนยอดขายมักจะมีค่าประมาณ 4-6% ขณะที่ธุรกิจประเภทการบริการมักอยู่ที่ 8-10%

 
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้อาจจะถูกกำหนดให้คงที่ หรือผันแปรก็ได้ หรืออาจจะเป็นทั้ง 2 แบบรวมกัน โดยแฟรนไชส์ซอร์อาจแลกเปลี่ยนด้วยการให้บริการต่างๆ เช่น จัดรายการโฆษณา สนับสนุนการขาย ให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น 
 
ค่าใช้จ่ายข้างต้นเป็นสิ่งที่แตกต่างกับการทำธุรกิจทั่วไป เป็นค่าใช้จ่ายที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการล้มเหลวในธุรกิจ และช่วยให้เถ้าแก่ใหม่เรียนลัดได้เร็วขึ้นกว่าปกติ เหมือนกับการจ่ายค่าติวเข้มทางธุรกิจ และจ้างพี่เลี้ยงช่วยเหลือ 
 
นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในระบบธุรกิจแฟรนไชส์อีก เช่น การลงทุนตกแต่งร้าน เพื่อให้มีรูปลักษณ์เหมือนกับของแฟรนไชส์ซอร์ ซึ่งต้นทุนนี้จะเกิดขึ้นในระยะแรกของการตกลงใจที่จะทำแฟรนไชส์ 
 
ดังนั้น แฟรนไชส์ซี จำเป็นจะต้องมีเงินทุนที่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายล่วงหน้าส่วนนี้ พร้อมทั้งต้องแบ่งสรรเงินทุนส่วนหนึ่งให้เพียงพอกับการดำเนินงานธุรกิจตามปกติ เช่น ค่าใช้จ่ายทั่วไป เงินเดือนพนักงาน การสั่งซื้อสินค้าและบริการ เป็นต้น 
 
ประเภทของระบบแฟรนไชส์ในปัจจุบัน
1. Product Distribution Franchise
 

เป็นการให้สิทธิ์ในตัวผลิตภัณฑ์หรือเครื่องหมายการค้า เพื่อการผลิตหรือจำหน่ายสินค้าในยี่ห้อสินค้านั้น แฟรนไชส์ประเภทนี้ แฟรนไชส์ซอร์ในฐานะผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ มักจะกำหนดมาตรฐานทางคุณภาพด้านต่างๆ ให้แฟรนไชส์ซีปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์เป็นมาตรฐานเดียวกัน  
 
โดยส่วนใหญ่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ประเภทนี้ มักจะทำหน้าที่ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นั้นๆ มากกว่าที่จะเป็นผู้ผลิตเสียเอง หรือซื้อวัตถุดิบจากเจ้าของแบรนด์มาผลิตจำหน่าย โดยปกติมักจะเป็นผู้ค้าปลีกเป็นส่วนมาก เช่น ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จะเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ให้กับบริษัทผู้ผลิต หรือแม้แต่ Coca-Cola, บริษัท Ford Motor, Exxon และ Osim
 
นอกจากนี้ เจ้าของแฟรนไชส์จะไม่เข้าไปควบคุมการดำเนินธุรกิจของผู้ซื้อแฟรนไชส์ แต่เจ้าของแฟรนไชส์จะดูแลควบคุมในด้านมาตรฐานให้เป็นไปตามที่ข้อกำหนดเท่านั้น อย่างในเมืองไทยแฟรนไชส์ประเภทจะเป็น ชา 25 บาท ลูกชิ้นทอด ฯลฯ
  
2. Business Format Franchise
 

เป็นรูปแบบแฟรนไชส์ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน คือ แฟรนไชส์ซอร์จะกำหนดระบบของการดำเนินธุรกิจให้ใช้เหมือนกันทั่วโลก ทั้งสินค้า เครื่องหมายการค้า วิธีบริหารระบบการเงิน ระบบงานต่างๆ รวมทั้งแผนการตลาด 
 
ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับสิทธิ์ในการให้บริการ หรือ ทำการผลิตสินค้า ที่มีสูตรหรือส่วนประกอบเฉพาะ หรือ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้รูปแบบและเครื่องหมายทางการค้าของเจ้าของแฟรนไชส์ 
 
โดยมีการถ่ายทอดระบบและวิธีการดำเนินธุรกิจ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน ให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ปฏิบัติตามให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงที่เจ้าของแฟรนไชส์กำหนด เพื่อรักษาภาพลักษณ์และศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาดของเจ้าของแฟรนไชส์

ทั้งนี้ ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของทั้งเจ้าของและผู้ซื้อแฟรนไชส์ จะมีการระบุไว้อย่างชัดเจนในสัญญาแฟรนไชส์ โดยยึดถือประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย เช่น เคเอฟซี แมคโดนัลด์ ดังกิ้น โดนัท 7-Eleven เป็นต้น
 
3. Management Franchise
 

เป็นระบบแฟรนไชส์ที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการอิสระที่มีอยู่เดิม ที่ต้องการให้ธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ มีรูปแบบ หรือ ใช้เครื่องหมายทางการค้าที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป และเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค 
 
โดยรูปแบบของธุรกิจแฟรนไชส์ เจ้าของแฟรนไชส์จะให้ความเชี่ยวชาญด้านการจัดการรูปแบบ การวางระบบ รวมถึงขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ ตัวอย่างของแฟรนไชส์การจัดการ คือ กลุ่มธุรกิจโรงแรม และกลุ่มธุรกิจบริการไปรษณีย์เอกชน ที่กำลังได้รับความนิยมจากอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซบูม เช่น Hilton, American Idol, UPS Store, ควิกเซอร์วิส, Super S 
 
ทั้งหมดเป็นความหมายและประเภทของระบบแฟรนไชส์ที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยระบบแฟรนไชส์ต้องมีแฟรนไชส์ซอร์ (เจ้าของธุรกิจ) และแฟรนไชส์ซี (ผู้ซื้อแฟรนไชส์) ตกลงทำสัญญาร่วมกันในการถ่ายทอดระบบการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จให้กัน โดยผูซื้อแฟรนไชส์จะต้องมีค่าตอบแทนให้กับเจ้าของธุรกิจ เช่น ค่าแฟรนไชส์แรกเข้า ค่าการตลาด ค่าดำเนินงานให้ความช่วยเหลือต่างๆ ตลอดอายุสัญญาแฟรนไชส์ ซึ่งจะจ่ายเป็นรายเดือนให้กับเจ้าของแฟรนไชส์ 



สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php

เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี ทำธุรกิจ www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php 
 

Franchise Tips

ธุรกิจแฟรนไชส์ประกอบด้วยปัจจัยหลัก 3 ประการ คือ
  1. มีผู้ซื้อและผู้ขายแฟรนไชส์ เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่าย ก็คือแฟรนไชส์ซอร์ และแฟรนไชส์ซี ซึ่งมีการตกลงร่วมในการทำธุรกิจร่วมกันทั้งมีสัญญาและไม่มีสัญญา แต่ในอนาคตรูปแบบข้อตกลงจะปรับรูปสู่ระบบการสร้างสัญญาทั้งหมด เพื่อให้ทั้งระบบแฟรนไชส์ในตลาดจะต้องถูกระบบ เพราะไม่เช่นนั้นแฟรนไชส์ซอร์ที่ไม่ดีจะทำลายระบบด้วย
  2. เครื่องหมายการค้า หรือบริการ มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีรูปแบบ ระบบธุรกิจ และใช้เครื่องหมายการค้าเดียวกัน ระบบการจัดการธุรกิจอาจจะเป็นเครื่องมือ หรือสูตรที่คิดค้นขึ้นมาเอง ในการผลิตสินค้า หรือบริการ โดยมีมาตรฐานที่อยู่ในตราสินค้า Brand เดียวกัน
  3. มีการจ่ายค่าตอบแทนอย่างน้อย 2 อย่าง คือ ค่าแรกเข้าในการใช้เครื่องหมายการค้า (Franchise Fee) และค่าตอบแทนผลดำเนินการ (Royalty Fee)  
แหล่งข้อมูล
 
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
903
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
631
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
569
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
521
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
504
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
483
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด