ลุงชวน ชูจันทร์ เครือข่ายชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยม เล่าถึงสถานการณ์น้ำท่วมในชุมชนว่า ตอนนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว จากที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 1 เมตร เมื่อช่วงน้ำทะเลหนุนที่ผ่านมา ลดลงเหลือ 50 เซนติเมตร แต่ระดับน้ำก็ยังสูงติดสะพานเดินข้ามคลอง จนไม่สามารถใช้เรือสัญจรรอดใต้สะพานตามคลองต่างๆได้

และเห็นว่าระดับน้ำในชุมชนลดลงค่อยข้างช้า เนื่องจากสถานีสูบน้ำอยู่ตรงคลองชักพระ ซึ่งมีระยะทางค่อยข้างไกลจากคลองลัดมะยม ทำให้ต้องใช้เวลาในการระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาช้าตามไปด้วย   

 

ลุงชวน เล่าให้ฟังว่า ชาวชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยมส่วนใหญ่แล้วประกอบอาชีพเกษตรกร ปลูกสวนผัก (เช่น มะเขือเทศ ตะไคร้ ข่า มะกรูด ฯลฯ) รวมถึงผลไม้ชนิดต่างๆ และได้นำผลผลิตมาวางขายกันที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เป็นการช่วยสร้างรายได้หลักของชาวชุมชนเกษตรกรแห่งนี้ แต่ว่าสถานการณ์น้ำท่วมหนักปีนี้ พื้นที่ย่านตลิ่งชันถูกน้ำท่วมเต็มทุกพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการดำรงวิถีชีวิตของชาวชุมชนริมคลองตลาดน้ำต้องหยุดชั่วคราว กลายเป็นผู้ประสบภัยแทน
  

“ปีนี้น้ำมาเยอะและไหลแรงกว่าทุกปี ทำให้ชาวชุมชนขาดรายได้จากการทำเกษตรกร และพืชสวนผัก  และสวนสมุนไพรนานาชนิด ที่ปลูกไว้นั้นเสียหาย และปัญหาก็คือถ้าจะหาเมล็ดพันธุ์พืชมาปลูกใหม่ก็หายากตามธรรมชาติ ไม่อย่างนั้นก็ต้องเสียเงินราคาแพงซื้อเมล็ดพันธุ์แทน ซึ่งตอนนี้อยากให้สถานการณ์น้ำท่วมลดลงเร็วที่สุด เพื่อทุกคนจะได้กลับมาทำมาหากินกันได้” ลุงชวน กล่าว

 

ลุงชวน กังวลว่า สถานการณ์น้ำท่วมปีนี้ ถ้าน้ำลดลงช้ากว่านี้ หรือต่อไปมีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งท่วมพื้นที่ไร่สวนก็จะทำให้ชาวชุมชนไม่สามารถประกอบอาชีพหลักอย่างเกษตรกรได้ จึงเกรงว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปหลายครัวเรือนที่อยู่ริมคลองอาจจะต้องอพยพย้ายไปหาที่อยู่อาศัยประกอบอาชีพอื่นแทน แต่ลุงชวนก็ไม่ได้ท้อ เพราะทันทีที่น้ำลดลงสามารถที่จะพอสัญจรได้จะรีบประชุมกันในชุมชน ถึงการหาทางออกและการฟื้นฟูพื้นที่ทำกินต่อไป เพื่อจะรักษาการดำรงวิถีชีวิตริมคลองลัดมะยมไม่ให้หายไป

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์