แล้วอะไรที่ทำให้...ทองหล่อกลายเป็นซอยน่าลงทุนทำการค้าอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ! ทั้งๆ ที่เป็นซอยที่มีความยาวเพียงประมาณ 2-3 กิโลเมตร หรือส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเป็นถนนที่มีเส้นทางการจราจรฝั่งละ 2 เลน และสามารถเชื่อมทะลุไปยังซอยข้างเคียง อย่างซอยสุขุมวิท 49 51 53 ได้ ทำให้บรรยากาศซอยทองหล่อคึกคักแทบจะตลอดทั้งวัน

 

ไม่เว้นแม้แต่ทำเลใกล้เคียงโดยรอบ อาทิ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 47 ซึ่งอยู่ห่างจากซอยทองหล่อไม่กี่อึดใจ เมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งมีการเปิดตัวโครงการคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ "เรนฮิลล์" ของกลุ่มบริษัทบูทิค และได้รับการตอบรับมีลูกค้าเข้าใช้บริการจำนวนมาก

 

จุดเด่นของทองหล่อคือเป็นซอยที่มีถนนกว้าง ตามผังเมืองสามารถก่อสร้างตึกสูงเกินกว่า 8 ชั้นได้ ริมสองฝั่งถนนจึงเต็มไปด้วยโครงการคอนโดฯ ขึ้นกันอย่างหนาแน่น และยังมีโครงการที่อยู่ในซอยย่อยต่างๆ อีกมากมาย จากการลงพื้นที่สำรวจทำเลซอยทองหล่อ พบว่า ตลอดแนวเส้นทาง 2-3 กิโลเมตร และตามซอกซอยต่างๆ มีคอนโดฯ เกิดขึ้นแล้วไม่ต่ำกว่า 18 โครงการ

 

รวมๆ แล้วกว่า 4,000-5,000 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯ ราคาขายตารางเมตรละกว่า 100,000 บาท หรือยูนิตละกว่า 4 ล้านบาท และช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมายังคงมีโครงการใหม่ๆ ตามซอยย่อยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

อาทิ โครงการคอนโดฯ Eight Thonglor มีทั้งหมด 196 ยูนิต, โครงการโนเบิลโซโล จำนวน 408 ยูนิต, โครงการไอวี่ทองหล่อ จำนวน 447 ยูนิต, โครงการ Quattro จำนวน 446 ยูนิต, โครงการแฮมป์ตัน ทองหล่อ ซอย 10 จำนวน 73 ยูนิต, โครงการ DLV Thonglor 20 จำนวน 79 ยูนิต ฯลฯ ส่วนใหญ่ก่อสร้างแล้วเสร็จมีคนเข้าอยู่อาศัยแล้ว

 

นอกจากนี้ ซอยทองหล่อยังเป็นแหล่งรวมของโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับผู้บริหาร อัตราค่าเช่าตั้งแต่ห้องละ 40,000-50,000 บาท ต่อเดือน ไปจนถึงห้องละกว่า 100,000 บาท ต่อเดือน อาทิ โครงการโอ๊ควู้ดเรสซิเดนท์, ซัมเมอร์เซ็ท เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่อยู่ช่วงต้นซอยทองหล่อฝั่งถนนสุขุมวิท, แคปปิตอลเรสซิเด้นท์ ใกล้กับโครงการโนเบิลโซโล ฯลฯ และเป็นแหล่งรวมของออฟฟิศมากมาย

 

การที่มีคอนโดฯ ราคาขายตารางเมตรละกว่า 100,000 บาท เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก สะท้อนเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง และพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยคอนโดฯ โดยส่วนใหญ่นิยมกินดื่มนอกบ้าน ในซอยทองหล่อจึงเป็นแหล่งรวมของร้านอาหาร ร้านกินดื่ม และแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์จำนวนมาก ดังนั้น หากจะทำธุรกิจย่านนี้เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา แต่ขอให้ขายของที่มีคุณภาพ รสชาติดี ก็น่าจะหาตลาดได้ไม่ยาก

 

ปัจจุบัน ที่ดินแปลงใหญ่ติดริมถนนในซอยทองหล่อถือว่าแทบไม่มีเหลือให้พัฒนาโครงการขนาดใหญ่ได้อีกแล้ว แต่ตามซอยย่อยต่างๆ ยังคงพอมีที่ดินเหลือ ทำให้ช่วงหลายปีที่ผ่านมาซอยทองหล่อยังคงเป็นทำเลฮอตฮิตที่บริษัทพัฒนาที่ดินนิยมเข้ามาเปิดตัวคอนโดฯ

 

แม้แต่ "ตัน ภาสกรนที" เจ้าพ่อชาเขียวอิชิตันที่เข้ามาซื้อที่ดินและทำธุรกิจในซอยทองหล่อเกือบ 20 ปี โดยเริ่มต้นจากธุรกิจเวดดิ้งสตูดิโอ (ถ่ายรูปแต่งงาน) จนปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจหลากหลาย ก็ยังบอกว่า...ที่นี่เป็นแหล่งรวมของศูนย์บันเทิง (เอ็นเตอร์เทนเมนต์) และเป็นทำเลที่ค่อนข้างปลอดภัย เพราะมี สถานีตำรวจตั้งอยู่กลางซอย ทำให้ต่างชาตินิยมอยู่อาศัย และมีไลฟ์สไตล์ของคนที่อยู่อาศัยที่มีระดับ

 

ปัจจุบัน เขามีธุรกิจร้านถ่ายรูปแต่งงานในซอยทองหล่อถึง 8 ร้าน สนามฟุตบอลในร่ม ร้านราเมนแชมเปี้ยน คาราคาโอเกะ yes ผับชื่อฟังกี้และเดโมซึ่งเป็นของน้องชาย

 

"ตัน" บอกว่า สมัยนั้นตอนที่มาสำรวจเป็นเรื่องน่าประหลาดใจว่าราคาเสื้อผ้าบางร้านในสมัยนั้น ตั้งราคาสูงกว่าที่ขายในเซ็นทรัล ชิดลม ถ้าจะทำธุรกิจการค้าที่นี่เรื่องราคาจึงไม่ใช่ปัจจัย แต่คนที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ยอมจ่ายเพื่อให้ได้ของดี ของอร่อย หรือมีคุณภาพ อย่างราคาก๋วยเตี๋ยวที่นี่ก็จะขายได้สูงกว่าพระโขนงเกือบ 2-3 เท่า

 

โดยเมื่อ 20 ปีที่แล้วเขาเข้ามาทำธุรกิจในซอยทองหล่อ เพราะตอนที่มาเห็นซอยทองหล่อครั้งแรกแล้วค้นพบว่ามีต่างชาติอยู่หลายชาติ และเป็นซอยที่ไปทะลุซอยอื่นได้หลากหลายซึ่งตรงตามหลักที่ดีของการทำธุรกิจเพราะจะทำให้คึกคักมีคนเข้าออกตลอดเวลา อย่างในซอยจะมีคุณหมอ คนไต้หวัน ญี่ปุ่น อยู่อาศัยกันเยอะ
 

ก็เคยถามคนต่างชาติที่มาอยู่อาศัยในซอยทองหล่อแล้วนึกถึงอะไร เขาบอกว่านึกถึงที่อยู่อาศัยชั้นดีและอยู่แล้วปลอดภัย

 

 

จากการสำรวจซอยทองหล่อ พบว่า เป็นซอยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นับตั้งแต่ต้นซอยไปจนถึงท้ายซอยพบว่า ที่นี่มีร้านสะดวกซื้ออยู่อย่างน้อย 5 แห่ง ธนาคาร โรงพยาบาล ร้านกาแฟ สถานบันเทิง โชว์รูมวัสดุ-เฟอร์นิเจอร์ ร้านเวดดิ้งสตูดิโอ ร้านเบเกอรี่ ฯลฯ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสังสรรค์ยามค่ำคืน ทั้งร้านอาหาร ร้านกินดื่ม ส่วนใหญ่มีแขกมาใช้บริการไม่ขาดสาย แต่ที่ฮอตฮิตที่สุดคือ ธุรกิจร้านอาหาร ที่มีให้เห็นตลอดสองฝั่งถนน!

 

โดยเฉพาะในช่วงต้นซอยทองหล่อฝั่งสุขุมวิท ตลอดสองฝั่งแนวถนนเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารเกาหลีประเภทปิ้งย่าง อาทิ ร้าน Grand Teppan Yaki, ร้าน Japanese Restaurant ฯลฯ หรือแม้แต่ร้านส้มตำ และเป็นที่สังเกตว่า ร้านอาหารเหล่านี้มีโต๊ะว่างเพียงเล็กน้อย หากมีประสบการณ์หรือสนใจการทำร้านอาหารถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจ

 

เนื่องจากเป็นถนนที่คึกคักตลอดทั้งวัน ภายในซอยทองหล่อจึงมีโครงการประเภท "คอมมูนิตี้มอลล์" (มอลล์ชุมชน) ที่ประกอบด้วยพื้นที่ร้านค้าเช่าและซุปเปอร์มาร์เก็ตเกิดขึ้นถึง 2 แห่ง ที่พัฒนาโดยเจ้าของเดียวกันคือ บมจ.สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (SF) คือโครงการทองหล่อ ทาวน์ เซ็นเตอร์ ที่อยู่ช่วงต้นซอยฝั่งสุขุมวิท และถัดไปบริเวณช่วงกลางซอยมีโครงการ J Avenue ทองหล่อ หนึ่งในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ที่สร้างชื่อให้กับสยามฟิวเจอร์ฯ
 

แต่หลังจากผ่านกลางซอยไปแล้วพบว่า ร้านอาหาร ร้านค้า เริ่มลดลงบ้าง ส่วนใหญ่กลายเป็นอาคารคอนโดฯ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ศูนย์จำหน่ายวัสดุ-เฟอร์นิเจอร์ โรงพยาบาล ที่เป็นอาคารขนาดใหญ่เป็นส่วนใหญ่ อาจเป็นเพราะอยู่ถัดมาทางฝั่งถนนเพชรบุรีตัดใหม่ทำให้บรรยากาศความคึกคักลดลงไปบ้าง

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคตบรรยากาศซอยทองหล่อฝั่งถนนเพชรบุรีตัดใหม่จะค่อยคึกคักขึ้นตามลำดับ สังเกตจากปัจจุบัน บริเวณปากซอยมีโครงการคอนโดฯ "ทรูทองหล่อ" มาปักธงขึ้นโครงการ รวมถึงบริเวณปากซอยศูนย์วิจัยตรงข้ามกับซอยทองหล่อ ก็ยังมีโรงพยาบาลกรุงเทพมาเปิดให้บริการแล้วหลายปี และยังพอมีที่เหลือให้จับจองลงทุนทำธุรกิจกันอยู่

 

นี่คือเรื่องราวของซอยทองหล่อ ทำเลไข่แดงใจกลางกรุงที่น่าลงทุน

อ้างอิงจาก เส้นทางเศรษฐี