5 วิธีคิด ดูยังไง? ที่ไหน? เป็นสุดยอดทำเลของเรา
 

คำว่าทำเลทองคือย่านที่คนพลุกพล่าน การจราจรสะดวกสบาย ห้อมล้อมไปด้วยอาคารสำนักงาน บริษัทต่างๆ ซึ่งในกรุงเทพฯมีพื้นที่ทำเลทองอยู่หลายแห่งไม่ว่าจะย่านสีลม สุขุมวิท  หรือโดยรอบกรุงเทพฯ อย่างสมุทรปราการ นนทบุรี ก็มีทำเลทองอีกจำนวนมากเช่นกัน ทั้งนี้หากวิเคราะห์เจาะลึกลงไปว่าที่นั่นก็ทำเลทอง  ที่นี่ก็ทำเลทอง แล้วธุรกิจอย่างที่เรามีจะเหมาะกับพื้นที่แบบไหน

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มี 5 วิธีคิดสำหรับการประเมินว่าย่านไหนคือทำเลทองที่เหมาะกับธุรกิจของเรา สำหรับใครที่กำลังหาทำเลลองใช้เทคนิคเหล่านี้ประกอบกันเผื่อจะได้สุดยอดทำเลที่ดีและเหมาะสมที่สุด

 

1.เป็นย่านที่มีกำลังซื้อสูง
 

คำว่ากำลังซื้อสูงนั่นหมายถึงว่าสินค้าของเราต้องถูกโฉลกกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ด้วย กำลังซื้อสูงแต่หากคนไม่นิยมสินค้าเราก็ไม่มีประโยชน์ โดยเริ่มแรกวิเคราะห์ก่อนว่าในย่านนั้นมีบริษัทชั้นนำ ธนาคาร  หน่วยงานภาครัฐ อยู่มากน้อยแค่ไหน การที่ย่านไหนมีธุรกิจและองค์กรเหล่านี้ที่ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนดี พนักงานจะมีรายได้มาก นั่นคือกำลังซื้อเขาก็จะมากตามไป

อย่างเช่นย่านรัชโยธินที่มีบริษัทขุดเจาะน้ำมันอย่างChevron, CUEL, กลุ่มปตท , อาคารสำนักงานอย่างชินวัตรทาวเวอร์, ตึกช้าง ประมาณการได้ว่ากำลังซื้อในแต่ละวันจะมากเป็นพิเศษ ทีนี้เราก็ต้องมาโฟกัสว่าสินค้าที่เราจะเอาไปเจาะกลุ่มเหล่านี้ควรเป็นอะไร คือต้องให้สอดคล้องและคนในพื้นที่ต้องการ ที่นั่นก็จะกลายเป็นทำเลทองของเราไปโดยปริยาย

2.มองการพัฒนาของพื้นที่โดยรอบ
 

ในบางครั้งเราไม่ได้โฟกัสเฉพาะพื้นที่ที่เราต้องการอย่างเดียว เราควรมองไปในพื้นที่โดยรอบว่ามีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไร ซึ่งการพัฒนาพื้นที่โดยรอบมีผลโดยตรงต่อพื้นที่ของเราชัดเจน และที่สำคัญการเลือกทำเลในรูปแบบนี้เป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งในวันนี้พรุ่งนี้ ทำเลที่เราเลือกอาจจะยังไม่บูมขึ้นมาทันที แต่อนาคตที่ไม่เกิน 1-2 ปี

หากมีแนวโน้มดีขึ้นเราก็ถือว่าเป็นสุดยอดทำเลได้ เช่นย่านพหลโยธินที่กำลังจะกลายเป็น Smart City แห่งแรกของกรุงเทพฯ ซึ่งโมเดลของ Smart City อธิบายง่ายๆ คือการสร้างเมืองใหม่รอบสถานีรถไฟสายต่างๆ  นั่นหมายถึงว่าพื้นที่ใกล้เคียงกันในย่านพหลโยธินก็จะได้รับการพัฒนาที่ดีขึ้นในอนาคตด้วย

 

3.ทำเลที่มีทุกอย่างคนไม่ต้องง้อสังคมเมือง
 

หากจะหาทำเลทองแนะนำว่าลองออกไปย่านชานเมืองและวิเคราะห์หาทำเลที่คนแถวนั้นสามารถใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ได้โดยไม่ต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อทำธุระต่างๆ ซึ่งพื้นที่ที่มีความครบวงจร มีไลฟ์สไตล์มอลล์ มีหน่วยงานราชการ มีโรงพยาบาล ที่เหล่านี้คือทำเททองที่ดีเพราะจะดึงดูดให้คนจากที่อื่นเข้ามาอยู่อาศัยและคนในพื้นที่ก็จะไม่ไหลออกไปที่อื่นด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีหลายทำเลที่กำลังปรับปรุงพื้นที่ให้มีความครบวงจรซึ่งในฐานะคนลงทุนหากมองหาทำเลเหล่านี้ได้ก่อนก็จะได้เปรียบในระยะยาวด้วย

 

เรื่องนี้เราอาจต้องศึกษาข้อมูลมากหน่อยโดยเฉพาะจากหน่วยงานราชการ ถ้าเรามีข้อมูลรู้ล่วงหน้าว่าแผนงานในการพัฒนาพื้นที่ย่านต่างๆ จะเป็นที่ไหนอย่างไรจะทำให้เราเตรียมตัวจับจองพื้นที่ได้ก่อน อย่างเช่นในย่านรัชโยธินที่อีก 2 ปีต่อจากนี้จะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายเชื่อมต่อกับ หมอชิต สะพานใหม่ 

ซึ่งจะทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น หรือแนวทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่มีอีกมากในอนาคต ตามแผนงานที่วางไว้จะมีกำหนดชัดเจนหากเราเลือกลงทุนในทำเลเหล่านั้นไว้ก่อนก็มีสิทธิ์ได้ครองทำเลทองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

 

5.มีแผนในการสร้างโครงการใหญ่ๆบนพื้นที่
 

อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจคือเราไม่ต้องหาทำเลเองแค่ตามโครงการใหญ่ๆ ที่มักเป็นการลงทุนในรูปแบบบริษัท มีการวิเคราะห์และประเมินศักยภาพของแต่ละพื้นที่อย่างมีคุณภาพและส่วนใหญ่จะเข้าไปจับจองพื้นที่ตั้งแต่ราคายังไม่สูง

ซึ่งในฐานะคนลงทุนการตามโครงการใหญ่ๆเหล่านี้ โดยวิเคราะห์ว่ามีความเหมาะสมกับสินค้าที่เราจะจำหน่าย ก็จะช่วยให้เราได้ทำเลทองที่ดี ซึ่งในอนาคตหากมีการก่อสร้างโครงการต่างๆ แล้วเสร็จก็จะทำให้พื้นที่เหล่านั้นมีราคาสูงขึ้น ความน่าสนใจมากขึ้น พลิกจากพื้นที่ธรรมดากลายเป็นทำเลทองหากเราจับจองไว้ก่อนย่อมได้เปรียบกว่าแน่

 

แต่ด้วยปัจจุบันนักลงทุนมีเยอะขึ้น แต่ละคนต่างก็แย่งชิงทำเลที่ดีมาเป็นของตัวเอง ซึ่งบางครั้งคำว่าทำเลทองก็เท่ากับการจ่ายเค่าเช่าที่แพง ซึ่งเราก็ต้องวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งว่าสัมพันธ์กับรายได้ที่เราจะได้รับหรือไม่

คำว่าทำเลที่ดีคือที่ที่เราขายของแล้วมีกำไร ต่อให้สถานที่นั่นคนเยอะ คนพลุกพล่าน การจราจรคับคั่ง แต่หากแค่คนเดินไม่มีคนซื้อ ก็ไม่ถือเป็นทำเลที่ดี ดังนั้นก่อนลงทุนในทำเลใดๆ ควรศึกษาให้ละเอียดเพราะส่วนใหญ่มักมีการเซ็นสัญญาระยะยาวหากผิดพลาดไปจะกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสียมากกว่า

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)