6 เทคนิคเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ให้คนเหลียวหลัง!
 

นอกจากข้าวก็มีก๋วยเตี๋ยวนี่แหละที่คนไทยนิยมบริโภค จุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวคือปรุงใหม่ ทานร้อนๆ สารอาหารครบถ้วน มีหลายชนิดให้เลือก ที่สำคัญราคาไม่แพง บางคนเลือกทานก๋วยเตี๋ยวเป็นเมนูหลักแทนข้าวด้วยซ้ำ จึงไม่น่าแปลกที่เราจะเห็นใครๆ ก็อยากเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว

แม้ในความจริงการทำก๋วยเตี๋ยวค่อนข้างจะเป็นเมนูที่จุกจิกและมีรายละเอียดในการทำเยอะมาก นอกจากนี้ร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่นับรวมสารพัดแฟรนไชส์ที่เปิดโอกาสให้เราลงทุนง่ายขึ้น คำถามที่น่าสนใจคือ ยุคนี้การเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวยังมีอนาคตอยู่หรือไม่ 

 

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าทุกการลงทุนมีอนาคตในตัวเองยิ่งมีคู่แข่งมากก็หมายความตลาดมีความต้องการมาก แต่สิ่งสำคัญคือหากจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วจะทำอย่างไรให้คนสนใจและหันมามองลองไปดู 6 เทคนิคที่คัดสรรมานำเสนอนี้อาจเป็นตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวของเราเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น

 

ร้านก๋วยเตี๋ยวเวอร์ชั่นเดิมๆ คือสั่งกับแม่ค้าโดยตรงว่าอยากทานก๋วยเตี๋ยวอะไร เส้นอะไร ใส่ผักหรือเปล่า ลูกชิ้น เครื่องในใส่ไหม รายละเอียดของลูกค้าที่ยิ่งมากก็เท่ากับเพิ่มความยากในการทำและซับซ้อนให้กับเรา ในอีกมิติหนึ่งคือเอาใจลูกค้าให้ได้ทานเมนูในแบบที่ต้องการ แต่จะดีกว่าไหมหากลองเอาก๋วยเตี๋ยวที่ว่านี้มาจัดเป็นเซต เช่น เชตน้ำใสแฮปปี้ที่ในเซตอาจมี ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส (หมู หรือเนื้อก็ว่ากันไป) + น้ำสมุนไพร (เช่นน้ำเก๊กฮวย  น้ำลำไย ) + ขนมหวานหรือผลไม้  ซึ่งการจัดเซตให้ลูกค้าเลือกจะลดความยุ่งยากของเราเหมือนที่ร้านฟาสฟู้ดต์ส่วนใหญ่ชอบทำและที่สำคัญยังเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้มากขึ้นอีกด้วย

 

2.จานชาม/ภาชนะ มีความพิเศษไม่เหมือนใคร
 

ข้อเสียเปรียบของร้านก๋วยเตี๋ยวที่เราเห็นส่วนใหญ่คือจะเป็นถ้วยกระเบื้องที่ใส่แล้วใส่อีก บางทีก้นถ้วยมีคราบดำจากการใช้มานาน แม้ว่าเจ้าของร้านจะล้างสะอาดแต่คราบที่ฝังลึกก็ล้างให้หมดได้ยาก หลายคนอาจไม่สนใจเรื่องภาชนะที่ใส่ แต่จะดีกว่าแค่ไหนหากเราเปลี่ยนภาชนะที่ใส่ให้มีความน่าสนใจ มีสีสัน เป็นถ้วยชามที่ดูน่ารักหรือมีโลโก้ของตัวเอง

แม้หลายคนจะบอกว่าเป็นการเพิ่มต้นทุน แต่หากเรามีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ก็จะทำให้เรามีกำไรเพิ่มมากขึ้นจากความนิยมของลูกค้าที่มากขึ้นได้ ซึ่งโดยเฉลี่ยร้านก๋วยเตี๋ยวจะมีกำไรประมาณ 25% จากยอดขายทั้งหมด

 

3.เพิ่มสีสันด้วยก๋วยเตี๋ยวไซด์จัมโบ้
 

ราคาก๋วยเตี๋ยวโดยปกติอยู่ประมาณ 35 บาท แต่เราอาจเคยได้ยินอาหารจานยักษ์ที่มีตั้งแต่ข้าวมันไก่ ข้าวผัดกระเพรา ซึ่งก๋วยเตี๋ยวเองก็ทำให้เป็นจานยักษ์จัมโบ้ได้ ซึ่งก๋วยเตี๋ยวชามจัมโบ้นี้คือการสร้างสีสันให้ลูกค้ารู้สึกอยากลอง โดยเฉพาะยุคนี้ที่เป็นโลกโซเชี่ยลอะไรที่เป็นกระแสจะแชร์ต่อกันเร็วมาก

ดึงดูดลูกค้าแบบที่เราไม่ต้องลงทุนมาก ที่สำคัญก๋วยเตี๋ยวไซด์ยักษ์เราไม่ได้ทำประจำ อาจกำหนดเป็นช่วงเวลาหรือทำเฉพาะเมื่อมีออร์เดอร์จากลูกค้าเท่านั้น แน่นอนว่าเราสามารถอัพราคาไซด์ยักษ์ให้แพงขึ้นกว่าก๋วยเตี๋ยวธรรมดาหลายเท่า หรือหากจะโปรโมทร้านอาจจัดแข่งขันทานก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์ด้วยก็ได้

 

4.แต่งร้านให้เป็นวัยรุ่น เข้ากับยุคสมัย
 

บรรยากาศร้านเป็นปัจจัยดึงดูดลูกค้าได้ดี ในยุคนี้จะเห็นได้ว่าแทบทุกร้านพยายามสร้างสีสันให้ร้านตัวเองดูโดดเด่น การจัดร้านก๋วยเตี๋ยวก็เช่นกัน หมดสมัยการทำร้านแบบทึบๆ มืดๆสลัวๆ ยุคนี้ต้องโมเดิร์นเข้าไว้

ซึ่งสไตล์การแต่งร้านอาจขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของร้านแต่ละคนแต่ควรคำนึงเสมอว่าฐานลูกค้าที่มากที่สุดคือกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ทำอย่างไรในการจัดร้านที่ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้อยากเดินเข้ามาใช้บริการ ไม่นับรวมเรื่องบริการที่ต้องรวดเร็วทันใจด้วยเช่นกัน

 

5.พัฒนาเมนูใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง
 

ต่อให้เรามั่นใจในรสชาติแค่ไหน แต่อย่าลืมว่าทุกร้านก็มีก๋วยเตี๋ยวแบบเดียวกับที่เรามีดังนั้นเพื่อให้ร้านก๋วยเตี๋ยวเราไม่ถูกกลืนไปกับกาลเวลา อย่าหยุดพัฒนาเมนูใหม่ๆ ด้วยวัตถุดิบใหม่ๆ ยิ่งแปลกยิ่งทำให้คนสนใจ เช่นในยุคที่คนรักสุขภาพเราอาจมีเมนูก๋วยเตี๋ยวเพื่อสุขภาพ อย่างก๋วยเตี๋ยวชาโคล เป็นต้น

อีกทั้งต้องไม่ลืมตามกระแสของสังคมไม่ว่าจะเทศกาลอะไรมาเราก็ควรมีเมนูต้อนรับเทศกาลนั้นๆ ไม่ว่าจะวาเลนไทน์,ฟุตบอลโลก, ปีใหม่ , สงกรานต์ ซึ่งการสร้างสีสันแบบนี้จะทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวเราเป็นที่พูดถึงอยู่อย่างต่อเนื่อง

 

6.ใช้การตลาดโซเชี่ยลในการสร้างกระแส
 

สิ่งสำคัญคือการโปรโมทเนื่องจากในละแวกเดียวกันอาจมีร้านก๋วยเตี๋ยวเปิดชนกันได้มากกว่า 2-3 ราย เราต้องทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวของเรานอกจากการจัดร้านที่ดึงดูดคนที่เดินผ่านไปมา การใช้เทคโนโลยีโซเชี่ยลจะทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น อย่าลืมการโฆษณาในเว็บไซต์ฟรีต่างๆ การใช้โซเชี่ยลส่วนตัวทั้งเฟสบุ๊ค อินสตราแกรม ยูทูป  ช่องทางเหล่านี้ไม่มีต้นทุนเพิ่มเติมแต่มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

 

ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในยุคที่การแข่งขันมีสูง การตลาดเป็นสิ่งสำคัญมาก ในฐานะที่ลูกค้ามีสิทธิเลือกร้านค้า ก็เป็นโจทย์ของเราว่าจะทำอย่างไรให้ร้านเราเป็นผู้ถูกเลือก ดังนั้นใครที่คิดลงทุนต้องรู้จักการตลาดและวิธีทำตลาด หากไม่สนใจในเรื่องนี้มุ่งหน้าแต่เรื่องสินค้า มั่นใจว่าสินค้าดีเดี๋ยวก็มีคนสนใจ เมื่อก่อนอาจใช้ได้แต่ยุคนี้คิดแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)