เคยนึกสงสัยกันไหมว่าในขณะที่เราอยากค้าขายแต่การหาทำเลมันยากแสนยาก แต่ทำไม 7-11 ถึงผุดตรงโน้น โผล่ตรงนี้ได้ราวกับดอกเห็ด ที่สำคัญ 7-11 เปิดที่ไหนก็ขายได้ขายดี บางคนกลับไปมองในด้านลบว่า 7-11 มาเปิดที่ไหนก็แย่งอาชีพคนแถวนั้น แต่หากมองในด้านบวก เราควรเรียนรู้ว่า 7-11 ใช้กลยุทธ์อะไรในการหาทำเล และเราก็ควรเอากลยุทธ์นั้นมาปรับใช้กับตัวเราบ้าง แม้จะดูว่าเป็นการลอกเลียนแบบแต่วิธีเหล่านี้ก็ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ อยู่ที่ว่าจะทำตามได้แค่ไหน

ภาพจาก goo.gl/images/Q6khiF

ตัวเลขน่าสนใจที่ www.ThaiFranchiseCenter.com นำมาฝากก่อนเข้าเรื่องที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าปัจจุบัน 7-11 มีสาขาทั่วประเทศกว่า 10,268 แห่ง และยังตั้งเป้าจะเปิดให้ถึง 13,000 สาขาภายในปี 2564  โดยเฉลี่ยแล้วเป็นการขยายสาขาเพิ่มปีละมากกว่า 700 สาขาเลยทีเดียว ยังไม่นับรวมจำนวนผู้ใช้บริการที่มากกว่า 11.7 ล้านคน หรือเฉลี่ยสาขาละกว่า 1,184 คน มียอดขายแต่ละสาขาประมาณ 79,786 บาท 

 

แนวคิดพื้นฐานของ 7-11 คือเป็น Convenient Store คือ ซื้อตามสะดวก เน้นของจำเป็นที่สามารถหาซื้อได้ทันที เมื่อขาด หรือในกรณีอาหารก็จะเน้นประเภทซื้อแล้วสามารถทานได้เลย ร่วมด้วยบริการต่างๆ ที่ครบวงจรในร้านเดียว แต่ทั้งนี้ต่อให้แนวคิดดีแค่ไหน สินค้าดีอย่างไร หากไม่ได้อยู่ในทำเลที่ดีก็คงไม่มีความหมาย ลองมาดูเทคนิคการหาทำเลในสไตล์ของ 7-11 ว่าเข้าใช้กลยุทธ์อะไรบ้าง

 

1. ทฤษฎีสามเหลี่ยม
 

7-11 ให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งคือ บ้าน โรงเรียน ที่ทำงาน เป็นทฤษฏีสามเหลี่ยม ที่ 7-11 จะเน้นเปิดกิจการในเส้นทางเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นจากบ้านไปที่ทำงานหรือจากบ้านไปโรงเรียน ดังเราจะเห็นว่าที่ไหนมีหมู่บ้านที่นั่นต้องมี 7-11 เพราะนี่คือหลักพื้นฐานในการหาทำเลด้วยเชื่อว่าคนก่อนจะเข้าบ้านต้องหาซื้อของกินของใช้ และจะไม่รีบร้อนมากนักเพราะอยู่ใกล้บ้านแล้ว ทำให้มีเวลาเลือกซื้อของมากขึ้นด้วย

ภาพจาก goo.gl/images/s7F8PY

 

2. ทฤษฏีปากรวย
 

ถ้ายังไม่รู้จะหาทำเลอย่างไรเอาทฤษฏีปากรวยนี้ไปใช้ สังเกตให้ดีว่าอีกหนึ่งทำเลที่ 7-11 นิยมมากๆ คือบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน ปากซอยต่างๆ 

คำถามคือทำไมต้องปากซอย กลางซอยไม่ดีกว่าหรืออย่างไร คำตอบคือ ปากซอยคือจุดที่ทุกคนต้องผ่านไม่ว่าจะมาจากทางไหนก็ต้องเริ่มจากปากซอย ถ้าตั้งร้านกลางซอยคนที่อยู่บ้านต้นซอยก็จะไม่สนใจร้านค้า แต่ทั้งนี้ใช่ว่า 7-11 จะเลือกทุกปากซอยเป็นทำเลทอง ต้องพิจารณาก่อนว่าจำนวนประชากรในย่านนั้นมีมากน้อยแค่ไหน มีกำลังซื้อมากน้อยอย่างไร และควรลงสินค้าแบบไหนให้เหมาะสมกับกลุ่มคนซื้อในพื้นที่

ภาพจาก goo.gl/images/APg4PG

 

3. ทฤษฏีแรงดึงดูด
 

7-11 จะเจาะกลุ่มไปที่ศูนย์รวมที่มีคนเยอะๆ แม้ไม่ใช่เส้นทางจากบ้านไปโรงเรียนหรือที่ทำงาน หรือไม่ใช่ปากซอย แต่หากเป็นแหล่งรวมที่ดึงดูดผู้คนเข้ามายังพื้นที่ได้ 7-11 ก็พร้อมจะเข้าไปดำเนินกิจการ ด้วยเชื่อว่าการเข้ามาของผู้คนที่หลากหลายความต้องการที่มีย่อมหลากหลายดังนั้นสินค้าที่อยู่ในพื้นที่อาจยังไม่ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด ซึ่ง 7-11 จะเป็นส่วนเติมเต็มให้ทุกคนหาสินค้าได้ง่าย กับบริการที่ไม่ยุ่งยาก

ภาพจาก goo.gl/images/umZK3n

แน่นอนว่าทุกทฤษฏีอาจดูเป็นเรื่องที่พูดง่าย และทำเลเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็มักมีราคาแพง แต่ 7-11 มองที่ความคุ้มค่าดีกว่าเสี่ยงเลือกทำเลที่ราคาถูกกว่าแต่คนไม่นิยมผ่านซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งในการทำธุรกิจ หรือจะให้ดีถ้าเราไม่รู้ว่าจะเลือกทำเลแบบไหนอย่างไร ตอนนี้หลายคนนิยมใช้วิธีนี้คือ 7-11 เปิดที่ไหน เราก็ตามไปเปิดที่นั่น โดยอาศัยแรงดึงดูดจาก 7-11 ที่มีลูกค้าจำนวนมาก หากเราใช้พื้นที่ใกล้เคียงกันก็ย่อมมีลูกค้ามาหาเรามากขึ้นด้วยเช่นกัน

ภาพจาก goo.gl/images/vt4HXL

และแม้ว่าบางทีเราอาจต้องสู้ราคาค่าเช่าพื้นที่ซึ่งแพงมาก แต่หากคำนวณจุดคุ้มทุนคุ้มค่า บางทีก็น่าเสี่ยงที่จะลอง ซึ่งข้อมูลที่น่าสนใจจาก 7-11 อีกประการคือ 7-11 ไม่มีนโยบายซื้อที่ตั้งสาขาแต่จะใช้การเช่าระยะยาวประมาณ 10 ปี เพื่อกระจายความเสี่ยงเนื่องจากสภาพสังคมและเมืองมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะความเจริญด้านคมนาคม การเช่าจึงไม่ผูกขาดและสามารถปรับเปลี่ยนทิศทางได้ง่ายกว่าและไม่ทำให้เม็ดเงินจมอยู่กับที่ใดที่หนึ่งด้วย
 

SMEs Tips
 

1. ทฤษฎีสามเหลี่ยม

2. ทฤษฏีปากรวย

3. ทฤษฏีแรงดึงดูด

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)