บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
2.1K
2 นาที
29 ตุลาคม 2562
3 ปัจจัยที่ SMEs ควรรู้เมื่ออยากเจาะตลาดอินเดีย


ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ SMEs หลายรายก็ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจอยู่ไม่น้อย บางรายยอดขายตกจนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ก็ต้องปิดตัวลงไปเลยก็มี แต่บางรายที่ยังดำเนินกิจการต่อไปได้ก็ต้องหาทางพยุงตัวเอาไว้ ซึ่งบางรายอาจมองหาลู่ทางขยายฐานลูกค้าเพื่อรักษายอดขาย หรืออาจจะเพื่อขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น และบางทีการขยายไปตลาดต่างประเทศก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อินเดีย” ที่มีประชากรเป็นจำนวนมาก และมีอัตราการเติบโตของตลาดสูง
 
ทำไมอินเดียจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจ?

ภาพจาก https://bit.ly/31QyatO

ประเทศอินเดียนั้นเป็นประเทศในเอเชียที่น่าจับตามองไม่แพ้จีนเลยทั้งในด้านของมิติทางการเมืองระหว่างประเทศ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจของอินเดียนั้นเติบโตอย่างรวดเร็วเฉลี่ยถึงปีละ 8% และประชากรก็มีรายได้เพิ่มขึ้นจนมีกำลังซื้ออยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง โดยจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้น ก็ทำให้ประเทศดังกล่าวมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอับดับ 3 ในเอเชียรองจากญี่ปุ่นและจีน

อีกทั้งอินเดียยังเป็นศูนย์กลางธุรกิจบริการที่สำคัญของโลก ทั้งในด้านการเงิน การธนาคาร และเทคโนโลยีสารสนเทศ เนื่องจากมีทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ภาษาอังกฤษจำนวนมาก และค่าแรงก็ยังต่ำ คนรุ่นใหม่มีการศึกษาสูง อินเดียจึงเป็นทั้งตลาดการค้า การท่องเที่ยว และแหล่งลงทุนที่น่าจับตามอง

อีกทั้งไทยและอินเดียยังได้มีการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ทั้งในกรอบทวิภาคี (ไทย-อินเดีย) และพหุภาคี (อาเซียน-อินเดีย และ BIMSTEC) โดยข้อตกลงดังกล่าวนี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและอินเดีย และนอกจากนี้ยังมีกลไกความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจที่มีส่วนช่วยส่งเสริมการขยายการค้าอีกด้วย

เช่น สภาธุรกิจไทย-อินเดีย (Thai-Indian Business Council) ที่มีความร่วมมือกับภาคเอกชนของอินเดีย รวมไปถึงสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยก็มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์กรภาคธุรกิจอย่างอินเดียอีกด้วย
 
ผู้บริโภคชาวอินเดีย และธุรกิจที่มีแนวโน้มจะรุ่งในอินเดีย

ภาพจาก https://bit.ly/31QyatO

ส่วนข้อมูลทางด้านผู้บริโภคชาวอินเดียนั้น พบว่า ผู้บริโภคของชาวอินเดียมีจำนวนมากถึงประมาณ 1,300 ล้านคน ซึ่งส่วนมากก็ยังเป็นคนหนุ่มสาวที่มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 24 ปี และคนกลุ่มนี้ก็จะกลายมาเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการบริโภค และคนกลุ่มนี้ก็ชอบที่จะลองอาหารที่แปลกใหม่รวมไปถึงอาหารแปลรูป

ดังนั้นธุรกิจอาหารไทยจึงอาจมีโอกาสในการทำตลาดส่วนนี้ แต่ควรจะมีการปรับรสชาติของอาหารให้เข้ากับรสนิยมการกินของชาวอินเดียด้วย และศาสนาก็มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการบริโภคของชาวอินเดีย โดยมีชาวอินเดียกว่า 1000 ล้านคนที่นับถือศาสนาฮินดูทานมังสวิรัตและไม่ทานเนื้อวัวเพราะถือว่าวัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อทางศาสนา และในบางรัฐถึงขั้นมีกฎหมายห้ามฆ่าวัว และประชากรบางส่วนก็นับถือศาสนาอิสลามซึ่งจะไม่ทานเนื้อหมู

ดังนั้นแล้วหากจะขายอาหารที่ทำจากเนื้อวัว หรือเนื้อวัวก็คงจะยากอยู่ซักหน่อย หากจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อสัตว์ ก็ควรจะเป็นผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ที่ชาวอินเดียสามารถทานได้ทั่วไปไม่มีข้อจำกัด เช่น เนื้อสัตว์ปีก  เนื้อกระบือ หรือแพะ เป็นต้น หรือหากเป็นอาหารประเภทอาหารแปรรูป เช่น อาหารกระป๋อง ผลิตภัณฑ์ข้าว ผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร เครื่องดื่ม และอาหารสด เช่นผลไม้ ผัก หรืออาหารทะเล ก็มีแนวโน้มขยายตัวตามการเติบโตของกำลังซื้อชาวอินเดียและการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ 

และนอกจากธุรกิจอาหารแล้ว ธุรกิจที่มีแววว่าจะรุ่งในอินเดียก็คือ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม อันได้แก่ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก รถยนต์และชิ้นส่วน เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง สอดรับกับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมหลักในอินเดีย และสินค้าในภาคการเกษตร เช่น น้ำมันปาล์ม เป็นต้น
 
อุปสรรคในการเจาะตลาดอินเดีย
 
ภาพจาก bit.ly/349C9TT

ถึงแม้ว่าอินเดียจะเป็นตลาดที่น่าสนใจ แต่มันก็ยังมีอุปสรรคอยู่เหมือนกันสำหรับลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งอุปสรรคที่เป็นความท้าทายของนักลงทุนชาวต่างชาติที่จะทำการค้าในอินเดียมีดังนี้
  1. อุปสรรคเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากร อินเดียมีอัตราภาษีค่อนข้างสูง และโครงสร้างการจัดเก็บภาษีค่อนข้างซับซ้อน และนโยบายทางด้านภาษีและการส่งเสริมการลงทุนในรัฐต่างๆ ก็ยังขาดความเป็นเอกภพอยู่ นอกจากนี้กระบวนการจัดเก็บภาษียังค่อนข้างไม่เป็นระบบอีกเท่าไหร่ด้วย
  2. ปัญหาด้านการคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติก ประเทศอินเดียยังค่อนข้างขาดความพร้อมด้านโครงสร้างทางการขนส่งและโลจิสติก นั่นทำให้ต้นทุนในการผลิตและต้นทุนในการกระจายสินค้าค่อนข้างสูง
  3. มีกฎระเบียบและมาตรการอยู่หลายข้อที่เป็นอุปสรรคสำหรับการค้า เช่น มาตรการการตอบโต้การทุ่มตลาดที่อินเดียมีไว้เพื่อปกป้องตลาดของตน และมีสินค้าอยู่หลายตัวของไทยที่ถูกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด
  4. อุปสรรคทางด้านทรัพย์สินทางปัญญา ที่อินเดียนั้นมีกฎหมายคุ้มครองทรัพย์ศินทางปัญญาทั้งในด้านของลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร แต่กลับขาดการบังคับใช้และไม่มีการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างจริงจัง
  5. มีการผูกขาดทางการค้าสินค้าโภคภัณฑ์หลายประการ อาทิ ข้าว ข้าวสาลี เนื้อมะพร้าวแห้ง และนอกจากนี้ยังมีอุปสรรคจากการขออนุญาตนำเข้าสินค้าบางชนิดของรัฐบาลอินเดียผ่าน state trade agent อีกด้วย
ประเทศอินเดียถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจสำหรับการเจาะตลาดลงทุนทำธุรกิจ เพราะเศรษฐกิจของอินเดียนั้นกำลังเติบโต อีกทั้งประชากรของอินเดียยังมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้มันก็ยังมีอุปสรรคและข้อเสียอยู่บ้าง ดังนั้น หากต้องการที่จะลงทุนก็ควรจะศึกษาหาข้อมูลให้ดีๆ และพิจารณาก่อนการตัดสินใจลงทุน
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com/document/
 
ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศอินเดีย https://bit.ly/2MY4t63
 
แหล่งที่มา
การทำแฟรนไชส์ถือเป็นลู่ทางหนึ่ง ที่ธุรกิจหลายๆ แบรนด์จากทั่วโลก นิยมใช้ในการขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศอินเดีย เนื่องจากอินเดียเป็นตลาดขนาดใหญ่ ทั้งในแง่ของจำนวนประชากรและขนาดพื้นที่ ประกอบกับในช่วงก่อนหน้านี้ ทางการอินเดียยังไม่อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจค้าปลีก..
57months ago   2,304  5 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
792
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด