บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การขาย
9.1K
3 นาที
12 ธันวาคม 2562
รวม 7 อาชีพพนักงานขาย รายได้ดีแค่ไหน


อาชีพ “พนักงานขาย” หลายคนมองข้าม เหตุผลที่หลายคนไม่สนใจอาชีพนี้เพราะดูว่าเป็นงานจุกจิก ยุ่งยาก ต้องรักษายอด ต้องหาลูกค้าใหม่ ต้องติดต่อพูดคุยกับคนมากมาย ต้องง้องอนอ้อนวอนให้เขาซื้อของ ทั้งที่ความจริง “พนักงานขาย” หากใครตั้งใจและทำได้จริง นี่คือสุดยอดอาชีพที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี

www.ThaiFranchiseCenter.com ลองรวบรวม7อาชีพพนักงานขายและตัวเลขรายได้เบื้องต้น เผื่อว่าใครกำลังตกงานหรืออยากเปลี่ยนงานใหม่จะลองเลือกทำอาชีพนี้ดูบ้าง
 
1.เซลล์ขายรถยนต์
 
ภาพจาก bit.ly/2YDcguk

พนักงานขายรถยนต์เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่โดดเด่นในด้าน “งานขาย” หลายคนบอกว่า “เซลล์ขายรถ” รายได้ดี แต่คนอีกไม่น้อยก็มองว่านี่คืออาชีพที่ยาก สำหรับคนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ ยิ่งยากที่จะมีรายได้สูงๆ ในความเป็นจริง เซลล์ขายรถในแต่ละบริษัทมีกฏเกณฑ์ในด้านรายได้ต่างกันแต่ส่วนใหญ่ฐานเงินเดือนไม่สูงตั้งแต่ 9,000 -12,000 บาท แต่ที่หลายคนสนใจอาชีพนี้เพราะ “คอมมิชชั่น” ยกตัวอย่างเช่น พนักงานขายรถยนต์ได้ 1 คัน ราคา 1,000,000 บาท สิ่งที่พนักงานขายจะได้รับคือ
  • ค่าคอมมิชชั่นจากการขายรถยนต์คันนี้ (ซึ่งแต่ละบริษัทจะให้ค่าคอมตามเปอร์เซนต์แตกต่างกันออกไป)
  • ค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทไฟแนนซ์
  • ค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันภัยชั้นหนึ่ง
  • ค่าคอมมิชชั่นจากร้านประดับยนต์
  • ค่าตีเทิร์นคันเก่า (ได้จากเต๊นท์รถ)
สำหรับ “เซลล์ขายรถ” มือเก่าเก๋าประสบการณ์มีลูกค้าต่อเนื่อง แต่ละเดือนอาจมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 -30,000 บาท หรือบางทีอาจจะมากกว่านั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและกฏเกณฑ์การจ่ายเงินของแต่ละบริษัท
 
2.เซลล์ขายบ้านและที่ดิน
 
ภาพจาก bit.ly/2Ee4j5a

อาชีพพนักงานขายบ้าน เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับค่าตอบแทนสูงมาก เพราะอาชีพพนักงานขายบ้าน หรือนายหน้าขายบ้านและที่ดินสามารถทำเงินได้ 2 ช่องทาง คือ ค่าคอมมิชชั่นจากผู้ซื้อและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ขาย เช่น
  • เงินเดือนประจำจากบริษัท
  • ค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทโดยตรง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แต่ละบริษัทจะได้ค่าตอบแทนแตกต่างกัน
  • ค่าคอมมิชชั่นจากการแนะนำช่างรับเหมาก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่ง หรือรีโนเวทใหม่
ถ้าเป็นพนักงานขายประจำจะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 0.3 – 2% ถ้าเป็นพนักงานขายอิสระจะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 3% และอสังหาริมทรัพย์มือสอง พนักงานประจำจะได้ค่าคอมมิชชั่นที่ 0.2 – 1.5% ถ้าเป็นพนักงานขายอิสระจะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 2% สิ่งสำคัญของการเป็นพนักงานขายอสังหาริมทรัพย์คือการสร้างคอนเนคชั่นกลุ่มลูกค้าซื้อ-ขาย-เช่า เพราะลุกค้ากลุ่มที่เคยซื้อกับเราจะช่วยแนะนำให้เราได้รู้จักกับลูกค้าคนอื่นๆ ได้ โดยในการให้บริการเราต้องช่วยเหลือลูกค้าทุกเรื่องอย่างเต็มที่เช่นกัน
 
3.พนักงานขายจิวเวลรี่

ภาพจาก bit.ly/38vIlc8

จิวเวลรี่ เครื่องประดับ เพชร พลอย อัญมณี สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องมี ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มที่มีฐานะพอสมควรหรือชื่นชอบในเครื่องประดับเหล่านี้จริงๆ พนักงานขายจิวเวลรี่ (Diamond Advisor) จึงถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีรายได้ดี ค่าคอมมิชชั่นสูง

ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีเงินรายได้อื่นๆ ที่มอบให้พนักงานแตกต่างกันออกไป บางบริษัทให้ค่าตอบแทนสูงมากมีทั้งค่าเป้า ค่าคอมมิชชั่น ค่าตำแหน่ง และเงินเดือนมอบให้กับพนักงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน พนักงานขายจิวเวลรี่หลายคนมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 30,000-70,000 บาทต่อเดือน (ในกรณีที่ทำงานมานานและมีประสบการณ์มากพอ)
 
สิ่งสำคัญในอาชีพพนักงานขายจิวเวลรี่ คือต้องแต่งกายดูเรียบร้อย น่าเชื่อถือ และต้องเป็นคนช่างสังเกต รอบคอบ เช็คทุกอย่างแบบละเอียดถี่ถ้วน และควรมีทักษะในการเจรจาต่อรองกับลูกค้า และมีมนุษยสัมพันธ์ที่สามารถพูดจาโน้มน้าวใจได้เก่งเพื่อให้สามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดต้องมีความรู้ในเรื่องเครื่องประดับเป็นอย่างดีจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
4.ตัวแทนขายประกัน
 
ภาพจาก bit.ly/34b0V5W

ถ้าพูดถึงงานขาย “ตัวแทนขายประกัน” น่าจะเป็นสิ่งแรกที่เรานึกถึง  ถามว่า “อาชีพตัวแทนขายประกัน” เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีแค่ไหน เราก็ต้องมาย้อนถามตัวเองด้วยเช่นกันว่า “เราทุ่มเทให้กับงานนี้มากน้อยแค่ไหน”  พนักงานขายประกันหลายคนสามารถมีเงินซื้อบ้าน ซื้อรถ ในขณะที่อีกหลายคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปสำหรับการทำอาชีพนี้

สิ่งที่พนักงานขายประกันจะได้รับ แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้ “ไม่มีเงินเดือน” แต่สิ่งที่ได้คือ “คอมมิชชั่นจากกรรมธรรม์” โดยเฉพาะลูกค้าที่เปิดกรรมธรรน์ใหม่ ตัวแทนจะได้เปอร์เซ็นต์เฉลี่ย 10-40% จากเบี้ยประกันปีแรก และทุกๆ การส่งเบี้ยประกันของลูกค้าในปีต่อๆไปส่วนหนึ่งก็จะหักเป็นรายได้ของพนักงานขายประกัน

ยังไม่รวม “รางวัลแห่งความสำเร็จต่างๆ” ที่แต่ละบริษัทจะมีการ “ตั้งเป้า” ให้ตัวแทนทำยอดขายได้กี่รายต่อเดือน มีมูลค่ารวมกรรมธรรม์เท่าไหร่ เพื่อจะได้รับรางวัล เช่นการท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นต้น  เบ็ดเสร็จรายได้ของตัวแทนในแต่ละเดือนคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 15,000 -30,000 บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถในการหาลูกค้าเป็นสำคัญ
 
ข้อดีของอาชีพตัวแทนขายประกันคือ อาชีพที่อิสระไม่มีขอบเขตในการทำงาน ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับความสามารถ รวมถึงมีโอกาสไต่ไปสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูงได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการสร้างเครือข่ายสาขา (สำนักงานตัวแทน) โดยเสมือนหนึ่งเป็นธุรกิจแฟรนไซน์ของบริษัท

อย่างไรก็ดีสิ่งที่ตัวแทนขายประกันจำเป็นต้องมีคือทักษะในการเจรจาต่อรอง การพูดจาที่โน้มน้าว และพูดให้ลูกค้าเข้าใจในตัวกรรมธรรน์ต่างๆ ได้ รวมถึงการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าทุกคนเป็นอย่างดี เพื่อเป็นฐานให้ลูกค้าบอกต่อซึ่งคนส่วนใหญ่จะเลือกทำประกันชีวิตกับคนที่ตัวเองไว้ใจเท่านั้น
 
5.พนักงานขายสินค้าแบรนด์เนม

ภาพจาก bit.ly/2RKflaD

สินค้าแบรนด์เนมจัดอยู่ในประเภทเดียวกับเครื่องประดับ คือ เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ที่พนักงานขายจะต้องมีมาตรฐานการบริการที่ดีมาก โดยแต่ละแบรนด์จะมีคาแรคเตอร์ของพนักงานแตกต่างกันไป การสร้างคาแรคเตอร์ให้พนักงานจะสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์นั้นได้อย่างชัดเจน ในการให้บริการพนักงานขายสินค้าแบรนด์เนมจะต้องเข้าไปดูแลตั้งแต่ลูกค้าเดินเข้าร้านมา ลูกค้าเลือกสินค้า ลองชุด และปรับไซส์ ซึ่งต้องพิถีพิถันมากๆ เมื่อพนักงานขายถือเป็นหน้าตาของ
 
แบรนด์ฉะนั้นทั้งเงินเดือน และค่าคอมมิชชั่นจึงดีมากๆ ในบางพื้นที่พนักงานขายอาจมีรายได้ต่อเดือนเกือบ 100,000 บาทเลยทีเดียว แต่สำหรับนักขายมือใหม่ที่ต้องอาศัยสะสมประสบการณ์ ช่วงแรกอาจมีรายได้ประมาณ 15,000 -20,000 บาท แต่ถ้ามุ่งมั่นและพยายามต่อไปก็มีโอกาสที่จะสร้างรายได้สูงขึ้น
 
6.พนักงานขายสื่อโฆษณาออนไลน์
 
ภาพจาก pixabay.com

จากข้อมูลในอินเทอร์เนตเกี่ยวกับตำแหน่งงานพนักงานขายสื่อออนไลน์ที่บริษัทต่างๆ เปิดรับสมัครพบว่า ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 20,000-40,000 บาท ขึ้นอยู่กับประสบการณ์+ค่าคอมมิชชั่น ซึ่งดูเหมือนว่าในยุคการตลาดดิจิทัลแบบนี้ อาชีพพนักงานขายสื่อโฆษณาออนไลน์ดูจะน่าสนใจ

โดยหน้าที่สำคัญของอาชีพนี้ คือการเสนอขายสื่อโฆษณาครบวงจร Facebook Ads/Google Ads/Line@/E-mail Marketing ทางโทรศัพท์ (TeleSales) , การหาฐานลูกค้าใหม่เพื่อเสนอขายสื่อโฆษณาออนไลน์ , การจัดทำเอกสารและใบเสนอราคาที่ใช้ในการติดต่อลูกค้า ,การให้คำปรึกษาและแนะนำเรื่องการลงโฆษณากับลูกค้า รวมถึงสามารถปิดการขายตามเป้าหมายที่ได้รับ
 
คุณสมบัติผู้สมัครส่วนใหญ่มักรับคนรุ่นใหม่ไฟแรงอายุระหว่าง22-35 ปี  ชอบการเรียนรู้และสนใจด้านเทคโนโลยีการตลาดออนไลน์ Internet, Website, Social Media หรือความรู้ด้านสื่อโฆษณาออนไลน์ สามารถวิเคราะห์และประเมินลูกค้าได้ก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ รวมถึงต้องมีทักษะการขายการเจรจาต่อรองและการนำเสนอที่ยอดเยี่ยมด้วย
 
7.พนักงานขายเครื่องสำอาง
 
ภาพจาก bit.ly/34ji5OV

อาชีพพนักงานขายเครื่องสำอางอาจจะเหมาะสำหรับผู้หญิง เนื่องด้วยภาพลักษณ์ที่ดูดีกว่าการเอาผู้ชายมาขายเครื่องสำอาง ซึ่งรายได้ของพนักงานขายเครื่องสำอางของแต่แบรนด์อาจแตกต่างกันไป สวัสดิการของแต่แบรนด์ก็อาจแตกต่างกันไปด้วย โดยเฉลี่ยอาชีพนี้มีฐานเงินเดือนประมาณ 14,000 -18,000 บาท ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถ รวมถึงบางแห่งอาจตั้งฐานเงินเดือนต่ำกว่านี้แต่ไปบวกที่ค่าคอมมิชชั่นในสินค้าแต่ละชนิด ซึ่งสินค้าแต่ละชนิดอาจจะมีรายได้ให้กับพนักงานต่างกัน
 
คุณสมบัติของพนักงานขายเครื่องสำอางจะเน้นวัยรุ่นใสๆ หรือคนที่อายุไม่เกิน 30  ไม่เน้นวุฒิการศึกษาทำได้ตั้งแต่ จบ  ม.3  ม.6  รวมถึงจบการศึกษาในระดับปวช., ปวส. หรือ ปริญญาตรี สำคัญต้องมีความสูง ไม่น้อยกว่า 160 ซม. , มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี และรักงานบริการ ,มีความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และตรงต่อเวลา ซึ่งบางบริษัทอาจจะเพิ่มข้อกำหนดพิเศษเช่น สามารถเดินทาง โยกย้าย ระหว่างสาขาได้บางครั้ง หรือสามารถใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน Microsoft Office ได้
 
นอกจาก 7 อาชีพพนักงานขายที่เรากล่าวถึง ก็ยังมีการขายในแบบอื่นๆที่สร้างรายได้เช่น ขายของออนไลน์ ขายสินค้าตลาดนัด  ขายส่งสินค้าต่างๆ  ฯลฯ ซึ่งทุกอาชีพการขาย มีทักษะพื้นฐานที่เหมือนกันคือ “การพูดคุย” ถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าจะขาย เราต้องคุย และเทคนิคในการคุยเพื่อปิดการขาย เพื่อหาลูกค้าใหม่ เพื่อโน้มน้าวใจเราก็สามารถหาข้อมูลศึกษาได้ อาชีพพนักงานขายไม่ใช่อาชีพที่ยากเกินไปหากตั้งใจจริง รายได้ดีอาจจะดีกว่าบางอาชีพด้วยซ้ำ
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
 
ขอบคุณข้อมูล bit.ly/2DXGejh , bit.ly/38mxjpe , bit.ly/2DY0QHV , bit.ly/2P0s6vR 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
422
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด