บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    วางแผนขยายธุรกิจ    โลจิสติกส์ ขนส่ง AEC
4.2K
5 นาที
1 กุมภาพันธ์ 2556
สสว.กางลายแทงโอกาส-อุปสรรค 'เอสเอ็มอีไทย'ลุยอาเซียน


 
สสว.เผยผลศึกษานโยบายและ ก.ม.ของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ส่อทั้งโอกาสและผลกระทบสำหรับเอสเอ็มอีไทยในการใช้ประโยชน์ต่อการขยายการค้าการลงทุน และเตรียมพร้อมรับมือเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) 
 
ดร.อิสรา ภูมาศ ที่ปรึกษา สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า แนวทางส่งเสริมให้ SMEs ไทย พร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558  ทาง สสว. ได้ดำเนินโครงการศึกษาผลกระทบของนโยบายและกฎหมายของ 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีต่อ SMEs ไทย เกี่ยวข้องการประกอบธุรกิจ โดยมีผลการศึกษาดังนี้ 
 
ลงทุนอุตฯ อาหารในบรูไนต้องอาศัยคนท้องถิ่นถือหุ้น 30%
 
รัฐบาลได้ประกาศแผนพัฒนาประเทศในระยะยาวฉบับแรก คือ “วิสัยทัศน์บรูไน ปี 2578 หรือ Vision Brunei 2035” ด้วยการนำพาเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพาน้ำมัน ไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายให้บรูไนขึ้นติดอันดับ TOP 10 ของประเทศที่มี GDP ต่อหัวสูงสุดในโลก ภายในปี 2578 
 
นโยบายด้านการค้าการลงทุน รัฐบาลได้มีการเปิดเสรีทางการค้าการลงทุนมากขึ้น โดยอนุญาตให้มีการลงทุนจากต่างประเทศเกือบทุกสาขา และอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 100% ทุกสาขา ยกเว้น อุตสาหกรรมที่ใช้ทรัพยากรภายในประเทศ และที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางอาหารแห่งชาติ ที่ยังต้องมีผู้ถือหุ้นในประเทศอย่างน้อย 30% ในสาขาเกษตร ประมง และแปรรูปอาหาร

นอกจากนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การลงทุนเกี่ยวกับการผลิตปิโตรเคมีขั้นปลายน้ำ และสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ไม่ใช้พลังงานของบรูไน แต่สิ่งที่เป็นข้อจำกัด คือ มาตรการเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร เนื้อสัตว์ ต้องเป็นสินค้าฮาลาลเท่านั้น ส่วนที่ต้องมีการขอใบอนุญาตนำเข้า ได้แก่ อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม เครื่องมือแพทย์ เคมีภัณฑ์ พืชและสัตว์มีชีวิต 
 
 
 
กัมพูชามุ่งนโยบายเปิดกว้างการค้า
 
รัฐบาลกัมพูชา ได้มีการปรับเปลี่ยนมาสู่ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี โดยเตรียมการปฏิรูปทั้งโครงสร้างและเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งเศรษฐกิจส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรม โดยรัฐบาลได้มุ่งขยายปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างภาคเกษตร และอุตสาหกรรม รวมทั้งข้อได้เปรียบในการแข่งขันกับทั้งในภูมิภาคและระดับนานาประเทศ นอกจากนี้ยังมุ่งปรับสภาพแวดล้อมในการลงทุน เพิ่มการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพิ่มการฝึกฝนความเป็นมืออาชีพ

รวมทั้งการสร้างเขตอุตสาหกรรมและเขตส่งออกที่มีโครงสร้างพื้นฐานและบริการที่มีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญกับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศควบคู่ไปกับการรับความช่วยเหลือจากนานาชาติ 
 
นโยบายด้านการค้าการลงทุน เนื่องจากกัมพูชาไม่สามารถผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเพียงพอ จึงต้องอาศัยการนำเข้าเป็นหลัก โดยมีนโยบายการค้าเสรีไม่มีข้อกีดกันทางการค้า มีเพียงห้ามการนำเข้าสินค้าบางประเภทที่กระทบกับความมั่นคง สุขอนามัย สิ่งแวดล้อม และการควบคุมสินค้าส่งออก ที่ต้องได้รับอนุญาตก่อนส่งออกจากประเทศ คือ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ และข้าว นอกจากนี้มีข้อกำหนดให้ผู้นำเข้าสินค้าต้องชำระภาษีนำเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีอื่นๆ ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด 
 
อินโดฯ ออกก.ม.เข้ม ขวางสินค้านำเข้า
 
รัฐบาลอินโดนีเซียได้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงานและกระตุ้นการค้าการลงทุนภายในประเทศ โดยให้ความสำคัญในเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมการส่งออกสินค้าสำคัญ รวมถึงปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อดึงดูดการลงทุน แต่ก็ยังมีการปกป้องตลาดภายในประเทศ โดยการออกกฎระเบียบที่มีลักษณะกีดกันการนำเข้าและการจำหน่ายสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายที่มีการนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย โดยกำหนดสินค้าสำคัญ 5 กลุ่มคือ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และของเด็กเล่น ซึ่งกำหนดให้นำเข้าเฉพาะท่าเรือและท่าอากาศยานที่กำหนดไว้เท่านั้น   
 
นโยบายด้านการค้าการลงทุน ต้นปี 2555 BKPM ได้ออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นการลงทุนในอินโดนีเซีย โดยให้สิทธิพิเศษทางภาษีแก่นักลงทุนใน 129 สาขาเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมปลายน้ำให้มีการใช้ทรัพยากรในประเทศเป็นวัตถุดิบ และลดการนำเข้าสินค้าบริโภคขั้นสุดท้าย

เช่น การเพาะปลูกพืช การทำเหมืองแร่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อิเล็กทรอนิกส์ ยา และอาหาร อย่างไรก็ดีรัฐบาลยังมีการกำหนดมาตรการกีดกันทางการค้าหลายมาตรการ เช่น การห้ามนำเข้า การออกใบอนุญาตนำเข้า ด้านสุขอนามัย รวมถึงการขึ้นทะเบียนอาหารและยา 
 
 
 
ชี้อุปสรรคลงทุน "ลาว" ขาดความพร้อมสาธารณูปโภคพื้นฐาน
 
ลาว ได้เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจเสรีเมื่อปี 2529 โดยการใช้นโยบาย “จินตนาการใหม่” ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศมากขึ้น และในปี 2554-2558 ซึ่งอยู่ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 7 ที่มุ่งจะลดอัตราความยากจน การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาสหัสวรรษ และเตรียมความพร้อมสำหรับการรวมตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

โดยตั้งเป้าหมายว่าจะพาตนเองออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดให้ได้ในปี 2563 และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวรัฐบาลได้มีการดำเนินมาตรการหลายประการ ทั้งการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในหลายๆ เขต ส่งผลให้จะต้องมีการวางระบบสื่อสาร ระบบคมนาคมขนส่ง ระบบสายไฟฟ้า ฯลฯ แผนการพัฒนาระบบการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำ แผนพัฒนาการทำเหมือง รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน 
 
นโยบายด้านการค้าการลงทุน แม้ว่ารัฐบาลต้องการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ แต่นักลงทุนต่างชาติยังประสบปัญหาสำหรับการลงทุนในลาว เนื่องจากระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานยังไม่เพียงพอ เส้นทางคมนาคมขนส่งภายในประเทศยังไม่ดี นโยบายของรัฐบาลกลางกับนโยบายของแต่ละแขวงอาจยังไม่สอดคล้องกันในทางปฏิบัติ แรงงานที่มีทักษะและมาตรฐานสำหรับบางอุตสาหกรรมยังมีจำนวนน้อย ขาดแคลนแรงงาน ฯลฯ

ส่วนมาตรการทางการค้าที่สำคัญ ประกอบด้วย สินค้าห้ามนำเข้า 8 รายการ ได้แก่ ปืนและอาวุธสงคราม เมล็ดฝิ่น กัญชา โคเคนและส่วนประกอบ เครื่องมือหาปลาแบบดับศูนย์ เครื่องจักรดีเซลใช้แล้ว ตู้เย็น ตู้แช่ สินค้าใช้แล้ว ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ สารเคมีอันตราย สินค้าที่ห้ามส่งออกมีทั้งหมด 4 รายการ ฝิ่นและกัญชา ปืนและอาวุธ ไม้ซุงและวัตถุโบราณ นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้า 18 รายการและอนุญาตส่งออกอีก 9 รายการ 
 
 
 
มาเลย์ เปิดกว้าง 27 สาขา ต่างชาติเข้าลงทุนได้ 100%
 
จากวิสัยทัศน์ 2020 ของมาเลเซีย ที่กำหนดอนาคตว่า มาเลเซียจะต้องเป็นประเทศพัฒนาแล้วให้ได้ในปี 2020 และได้วางนโยบายวิสัยทัศน์แห่งชาติ ที่มุ่งจะสร้างให้เป็นประเทศที่มีความยืดหยุ่นคงทนและมีความสามารถในการแข่งขัน โดยให้ความสำคัญต่อการเติบโตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของประสิทธิภาพการผลิตโดยรวม ซึ่งจะเน้นการลงทุนที่มีการค้นคว้า วิจัย และเทคโนโลยีสูง

ปัจจุบันรัฐบาลมาเลเซียได้ใช้นโยบาย New Economic Model (NEM) ซึ่งให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าเพื่อพัฒนาประเทศตามศักยภาพที่แท้จริง และมีแนวคิดที่จะยกระดับเศรษฐกิจของมาเลเซียไปสู่ระดับ High Income 
 
นโยบายด้านการค้าการลงทุน ภายใต้แผนพัฒนามาเลเซีย ปี 2551-2563 ได้กำหนดสาขาเศรษฐกิจหลักแห่งชาติ 12 สาขา เพื่อเป็นสาขานำในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ได้แก่ น้ำมัน ก๊าซและพลังงาน ปาล์มและน้ำมันบริการทางการเงิน ท่องเที่ยว บริการทางธุรกิจ อิเล็กทรอนิกส์ ค้าส่งและค้าปลีก การศึกษา บริการสุขภาพ สื่อสารโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน เกษตร และการลงทุนในเขตพัฒนาการทางเศรษฐกิจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดเสรีภาคบริการด้วยการยกเลิกข้อบังคับที่ต้องมีชาวภูมิบุตรถือครองหุ้นร้อยละ 30 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการปฏิรูปนโยบาย NEM และเป็นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากต่างชาติ โดยอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ 100% ในสาขาบริการย่อย 27 สาขา ครอบคลุมบริการด้านการท่องเที่ยว สุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ และขนส่ง รวมถึงการลงทุนในศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาค ศูนย์จัดซื้อสินค้าระหว่างประเทศ และการทำธุรกิจเหมืองแร่ ขณะเดียวกันยังมีการคลายข้อกำหนดการถือหุ้นของต่างชาติและเงื่อนไขด้านการส่งออกในการลงทุนด้านการผลิตอีกด้วย อย่างไรก็ดีรัฐบาลมาเลเซียยังคงไว้ซึ่งอำนาจในการอนุมัติการลงทุนจากต่างชาติไว้ค่อนข้างสูง เพราะต้องการลดการพึ่งพาเศรษฐกิจจากภายนอก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป 
 
พม่ารุกเปิด ปท. แต่ยังต้องระวังความไม่แน่นอน 
 
จากการที่รัฐบาลพม่าโดยดำเนินนโยบายในการเปิดประเทศมากขึ้น มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการส่งเสริมการลงทุนแห่งสหภาพพม่า ให้ทำหน้าที่พิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนจากต่างชาติ โดยมีคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศเป็นผู้พิจารณาโครงการลงทุนในเบื้องต้น ซึ่งรูปแบบการลงทุนที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล มี 2 รูปแบบ คือ
  1. การลงทุนที่ชาวต่างชาติถือหุ้น 100%
  2. การร่วมทุน ซึ่งแบ่งเป็น การร่วมทุนกับรัฐบาลพม่า โดยนักลงทุนต่างชาติสามารถเจรจาขอร่วมลงทุนได้มากกว่า 35% ของมูลค่าเงินลงทุนรวม และการร่วมทุนกับเอกชนพม่า ซึ่งนักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนในสัดส่วนน้อยกว่า 35%
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในลักษณะที่เป็น BOT (Build Operate and Transfer) ในธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ส่วนการลงทุนที่เป็น PSC (Product Sharing Contract) อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนเฉพาะด้านการสำรวจและขุดเจาะทรัพยากรธรรมชาติออกมาใช้ประโยชน์เท่านั้น 
 
อย่างไรก็ดีสิ่งที่ยังคงเป็นอุปสรรคสำหรับการลงทุนในพม่า คือความไม่มั่นคงในด้านนโยบายและกฎระเบียบ ความเข้มงวดต่อการทำธุรกรรมทางการเงินของบริษัทต่างชาติ ระบบโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ ระบบการดำเนินธุรกิจยังไม่ได้รับการพัฒนาและขาดทักษะ แต่จากการที่ทุกภาคส่วนของพม่าตื่นตัวกับสัญญาณการพัฒนาเศรษฐกิจในครั้งนี้ รัฐบาลพม่าจึงได้ออกมาตรการและแผนงานต่างๆ เช่น แผนการปฏิรูประบบภาษีอากร ความร่วมมือกับภาคเอกชน การแปรรูปรัฐวิสาหกิจภายใน 10 ปี และออกนโยบายส่งเสริม SMEs เป็นต้น 
 
 
 
ฟิลิปปินส์ เน้นต่างชาติลงทุนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
 
แรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ คือการบริโภคในประเทศ การขยายตัวด้านการส่งออกและการลงทุน รวมถึงการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยมีแผนการพัฒนาสำหรับปี 2554-2559 ด้วยมาตรการการพัฒนาเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืน สร้างความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาทั้งด้านภูมิศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข การเข้าถึงแหล่งเงินทุน โครงสร้างพื้นฐานและที่ดิน ฯลฯ โดยรัฐบาลปัจจุบันยังให้ความสำคัญต่อการเร่งรัดพัฒนาภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะการเพิ่มผลผลิตข้าวให้เพียงพอต่อการบริโภคและลดการนำเข้า 
 
นโยบายด้านการค้าการลงทุน รัฐบาลมีนโยบายเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อระดมทุนในการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ และเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนโดยการอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการดำเนิน ธุรกิจให้มีความสะดวกรวดเร็วขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการลงทุน

โดยสนับสนุนกลไกความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน และส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น การก่อสร้าง รถไฟฟ้า ท่าอากาศยาน และพลังงาน แต่มาตรการที่จะเป็นอุปสรรคทางการค้าที่สำคัญ เช่น การอนุญาตนำเข้า การห้ามนำเข้า การตอบโต้การทุ่มตลาด การปกป้อง และการสุขอนามัยพืชและสัตว์ 
 
สิงคโปร์ อัดสิทธิประโยชน์ภาษีจูงใจนักลงทุน 
 
สิงคโปร์ จากข้อจำกัดทั้งในด้านขนาดของพื้นที่และทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลสิงคโปร์จึงให้ความสำคัญกับภาคการค้าและบริการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนและส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทั้งด้านการค้า การลงทุน การเงิน ระบบสาธารณูปโภค ระบบการคมนาคมขนส่ง รวมทั้งมีท่าเรือน้ำลึกและการบริหารจัดการที่รวดเร็ว ส่งผลให้สิงคโปร์คงความเป็นตลาดเสรี เป็นศูนย์กลางของธุรกิจโลกทั้งด้านการค้า การลงทุน และการเงิน 
 
นโยบายด้านการค้าการลงทุน เพื่อจูงใจให้มีการค้าการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีมากมายกับนักลงทุนต่างชาติและส่งเสริมให้ไป ลงทุนในต่างประเทศ เช่น ไม่เรียกเก็บ Capital Gain Tax อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเพียงร้อยละ 17 และใช้ระบบ Single Tier System คือจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลถือเป็นภาษีสุดท้าย ฯลฯ อย่างไรก็ดีกิจการที่รัฐบาลไม่อนุญาตให้ต่างชาติลงทุน ได้แก่ ธุรกิจด้านกฎหมาย การประกอบอาชีพทนายความ กิจการที่เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้รัฐบาลสิงคโปร์มีความเข้มงวดกับมาตรการสุขอนามัยของสินค้าที่นำ เข้าเพื่อจำหน่ายและบริโภคในสิงคโปร์มาก

ส่วนปัญหาและอุปสรรคทางการค้าของไทย คือ รัฐบาลสิงคโปร์อนุญาตให้แรงงานไทยเข้าไปทำงานในภาคบริการ ซึ่งจะมีการให้ใบอนุญาต 3 แบบ คือ
  1. E Pass ใบอนุญาตทำงานระดับวิชาชีพ และระดับบริหาร
  2. S Pass ใบอนุญาตทำงานสำหรับแรงงานฝีมือระดับกลาง
  3. Work Permit ใบอนุญาตทำงานประเภทกึ่งฝีมือและแรงงานมีฝีมือน้อย ซึ่งในส่วนนี้ ไทยได้รับอนุญาตให้ทำงานเพียง 3 สาขา จากจำนวน 5 สาขาที่อนุญาตให้แรงงานต่างชาติเข้ามาทำงาน คือ ก่อสร้าง อู่ต่อเรือ และงานรับใช้ในบ้าน และไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานใน การผลิตและบริการ 
 
 
 
รบ.ไทยมุ่งนโยบายเปิดกว้างลงทุนจากต่างชาติ 
 
ไทย มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ตลาดในประเทศตื่นตัว แรงงานมีฝีมือ มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งที่ทันสมัย การคมนาคมและโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศก้าวหน้า 
 
นโยบายการค้าการลงทุน รัฐบาลไทยดำเนินนโยบายโดยมุ่งเน้นการเปิดเสรีและส่งเสริมการค้าเสรี ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศที่นำไปสู่การพัฒนาทักษะ เทคโนโลยี และนวัตกรรมอย่างจริงจัง โดยได้รับการจัดอันดับจากผลสำรวจนานาชาติให้เป็นแหล่งรองรับการลงทุนที่น่าดึงดูดที่สุดแห่งหนึ่งอย่างต่อเนื่อง

โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและชักจูงอุตสาหกรรม 6 สาขาหลัก ได้แก่ เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร พลังงานทดแทน ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แฟชั่น และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมบันเทิง บริการเพื่อสุขภาพและการท่องเที่ยว
 
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ออกนโยบายเร่งส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ด้วยการปรับปรุงกฎ ระเบียบ และปฏิรูปกฎหมายหลายฉบับเพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้า แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรการจำกัดการเข้าสู่ตลาดและการปฏิบัติเยี่ยงชาติ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุนของต่างชาติ ซึ่งต้องเร่งแก้ไขให้เป็นไปตามพันธกรณีที่ตกลงไว้ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน

นอกจากนี้ยังมีมาตรการทางการค้าและมาตรการที่มิใช้ภาษีที่ใช้สำหรับปกป้อง อุตสาหกรรมในประเทศ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค แต่ภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียนมาตรการทางการค้าของไทยส่วนใหญ่ได้ ถูกขจัดไปหมดแล้วเมื่อปี 2553 ยกเว้นสินค้าบางรายการที่เป็นสินค้าอ่อนไหวสูงเช่นเดียวกับประเทศสมาชิกอื่นๆ 
 
เวียดนามสานต่อยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเสรี 
 
เวียดนาม รัฐบาลประกาศใช้นโยบายทางเศรษฐกิจ “โด่ย เหมย” โดยกำหนดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ 6 ประการเพื่อยกระดับการเติบโตทางเศรษกิจ ได้แก่ การกระจายอำนาจบริหารแก่ภาคธุรกิจและท้องถิ่น ระบบเศรษฐกิจเสรี อัตราการแลกเปลี่ยนและดอกเบี้ยเป็นไปตามกลไกตลาด ให้สิทธิครอบครองที่ดินในระยะยาวและเสรีการซื้อขายสินค้าเกษตร เพิ่มบทบาทภาคเอกชน เปิดเสรีการลงทุน โดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะเวลา 10 ปี (2554-2563) กำหนดเป้าหมายที่จะทำให้เวียดนามเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยภายในปี 2563 
 
นโยบายการค้าการลงทุน เน้นการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเสรี ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเวียดนามประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ รัฐบาลมีการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบทางการค้าและการลงทุนให้เกิดความคล่องตัว สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงขึ้น และปรับเปลี่ยนนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ จากกิจการร่วมทุนมาเป็นกิจการที่ลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมดมากขึ้น

โดยภาคธุรกิจที่รัฐบาลเวียดนามให้การสนับสนุน ได้แก่ การท่องเที่ยว การขนส่ง โลจิสติกส์และการบริการท่าเรือ และภาคการเกษตร รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ นอกจากนี้เวียดนามยังเตรียมการปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีอย่างจริงจังเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ AEC อย่างไรก็ดีมาตรการของเวียดนามที่อาจจะส่งผลกระทบต่อไทย คือ ระเบียบการควบคุมความปลอดภัยด้านอาหารสำหรับสินค้าอาหารที่มีแหล่งกำเนิดจากพืช เนื่องจากครอบคลุมผลไม้สดของไทย

อ้างอิงจาก ไทยรัฐ
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
799
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
713
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
642
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
529
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
447
เจ้าของธุรกิจกุมขมับ! วิกฤตเด็กไทยเกิดน้อยกระทบธ..
432
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด