พบกับ ไทยแฟรนไชส์สปอย การสปอยหนังที่ไม่อยากให้คุณรอคอย! ภาพยนตร์เรื่อง Top Secret วัยรุ่นพันล้าน เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของต๊อบ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ เจ้าของธุรกิจสาหร่ายทะเลทอดกรอบยี่ห้อ “เถ้าแก่น้อย” และเป็นมหาเศรษฐีคนไทยที่มีอายุน้อยที่สุด ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ เรื่องราวของต๊อบกว่าจะมาถึงตรงจุดนี้ได้นั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะเขาเคยเป็นเด็กติดเกม โดนดูถูกว่าเป็นคนไม่เอาถ่าน และแน่นอนวันนี้เขาได้พิสูจน์ให้ทุก ๆ คนเห็นแล้วว่า สิ่งที่เขาคิดและได้ทำนั้น มันสำเร็จมากแค่ไหน เรื่องราวก่อนหน้านั้นของเขาจะเป็นอย่างไรนั้น ลองมาดูกันครับ

 

เริ่มเรื่องนั้น ต๊อบเดินเข้าไปยังธนาคารแห่งหนึ่ง และคุยกับผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อว่า จะขอกู้เงิน 10 ล้านบาทเพื่อจะเปิดโรงงานของตัวเอง แต่ทางผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อสินเชื่อกลับไม่ได้ใส่ใจแถมยังไล่ต๊อบเชิญไปเคานเตอร์อื่น แต่ต๊อบยังคงยืนกรานจะกู้เงิน ต๊อบได้เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้กับทางผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อให้ได้รับรู้ 

 

จากนั้นภาพตัดมาสมัยที่ต๊อบเรียนอยู่มัธยม ต๊อบกำลังเล่นเกมออนไลน์ขณะที่กำลังเรียนวิชาคอมพิวเตอร์อยู่ ขณะเดียวกันต๊อบได้ทำการขายไอเท็มในเกมให้กับผู้เล่นออนไลน์คนอื่น ทีแรกต๊อบเองไม่ได้คิดว่าจะได้เงินจริงจากการขายไอเท็มในเกม ต๊อบจึงลองเสี่ยงให้บัญชีของลุงต๊อบแล้วปรากฎว่า ผู้เล่นคนนั้นได้โอนเงินเข้ามาในบัญชีจริงถึง 50000 บาท นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของต๊อบเริ่มมีหัวทางการค้าขึ้นมา จนทำให้ต๊อบเริ่มขายไอเท็มในเกมจนมีเงินเก็บเป็นล้านกว่าบาท

ภาพจาก bit.ly/33Th8OE

 

ต๊อบได้นำเงินที่ได้จากการขายไอเท็มในเกมมาซื้อรถ แล้วก็นำรถของตัวเองขับมาที่โรงเรียนจนมีเรื่องกับทางผู้อำนวยการ เมื่อทางพ่อแม่ได้รับรู้เรื่องจากผู้อำนวยการ พ่อแม่ต๊อบสงสัยว่า ต๊อบได้เอาเงินพนันมาซื้อรถ แต่ต๊อบก็ได้เถียงว่า เป็นเงินที่ได้จากการขายไอเท็มในเกม สุดท้ายทางพ่อแม่ของต๊อบยังคงยืนกรานให้ต๊อบเรียนให้จบเท่านั้น

 

ต๊อบได้สอบคัดเลือกมหาวิทยาลัย แต่ปรากฏว่าผลที่ออกมาไม่ผ่าน ต๊อบจึงตัดสินใจเรียนมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แต่เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ต๊อบคิดว่าจะหาเงินจากในเกมออนไลน์ดังกล่าว แต่ปรากฎว่าทางเกมได้แบนบัญชีเกมของต๊อบไปแล้ว 

 

ต๊อบได้นำเงินไปลงทุนกับเครื่องเล่นดีวีดีจีนแดงราคาถูก แต่นั่นเป็นเครื่องดีวีดีที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้เงินลงทุนร่องรอยหายไปในอากาศ สุดท้ายพ่อของต๊อบได้ให้เงินต๊อบไปเรียนต่อ แต่ต๊อบปฏิเสธ ทว่าต๊อบได้แอบขโมยพระเครื่องของพ่อมาปล่อยเช่า สุดท้ายต๊อบปล่อยเช่าในราคา 1 แสนบาทเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

 

ต๊อบได้เรียนภาควิชาบริหารธุรกิจ แต่ต๊อบไม่ได้สนใจเรียนมากนัก คิดแต่ว่าจะหาเงินมาซื้อพระเครื่องให้พ่อคืนเมื่อไร ต๊อบเริ่มมีไอเดียขึ้นมา ต๊อบจึงดิ่งไปเมืองทองธานีเพื่อดูเครื่องผลิตขนม ต๊อบสนใจเครื่องทำเกาลัดจึงได้เช่าเครื่องทำเกาลัดราคา 5 หมื่นบาท (หากซื้ออยู่ที่ 5 แสนบาท) แต่สุดท้ายทางพ่อต๊อบไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวเท่าไรนัก

ภาพจาก bit.ly/3aijKbe 
 

ต๊อบได้สอบถามวิธีการและเคล็ดลับการทำเกาลัดตามร้านต่าง ๆ ที่เยาวราช จากนั้นต๊อบเริ่มทำการขายเกาลัดอย่างจริงจัง โดยเริ่มแรกต๊อบได้เริ่มตั้งร้านขายเกาลัดที่ห้างบิ๊กซี ซุปเปอร์มาร์เก็ต ชื่อร้าน “เถ้าแก่น้อย เกาลัด” โดยให้ลุงของต๊อบเป็นผู้ยืนขายเกาลัดในห้าง แต่ปรากฎว่าขายเกาลัดเพียงแค่ 6 ขีดเท่านั้น ต๊อบจึงแนะนำให้ลุงตะโกนขายของให้ดังมากขึ้นและกวักมือเพื่อดึงดูดลูกค้า ต๊อบเดินไปที่ตลาดเพื่อศึกษากลยุทธ์การดึงดูดลูกค้าตามร้านขายเสื้อผ้า

ภาพจาก bit.ly/3aijKbe 
 

โดยกลยุทธ์ที่ต๊อบได้จดมานั้นก็คือ 1.แถม 2.ตัดราคา 3.เพื่อสังคม แต่ต๊อบเริ่มเข้าใจว่า เพื่อสังคมนั้นมาจากทำเลจุดดี จึงตัดเพื่อสังคมแล้วแทนที่เป็นทำเลดีแทน

 

ต๊อบรู้สึกแปลกใจที่ลุงบอกว่า เกาลัดขายไม่ดีทั้ง ๆ ที่ลุงได้ทำตามที่ต๊อบบอกทุกอย่าง ต๊อบเข้าใจแล้วว่า การขายของให้ดีนั้น จะต้องมีทำเลที่ดีเข้ามาช่วยด้วย ต๊อบจึงตัดสินใจเปลี่ยนทำเลในช่วงเดือนต่อมา แต่พอเปลี่ยนทำเลแล้ว ก็ไม่ได้ขายดีขึ้นแต่อย่างใด 

 

ต๊อบเริ่มคิดหนักมากขึ้นจนไม่มีกะจิตกะใจสอบ ในขณะที่ต๊อบกำลังสอบอยู่นั้น ลุงของต๊อบได้โทรมาเพื่อแจ้งข่าวที่ต๊อบเองคิดไม่ถึง จนทำให้ต๊อบตัดสินใจออกจากห้องสอบเมื่อพบว่า ทำเลใหม่นี้เริ่มมีลูกค้าเข้ามากินกันมากขึ้นจนทำให้ต๊อบรีบดิ่งช่วยลุงขายทันที

ภาพจาก bit.ly/3aijKbe

ต๊อบใจร้อนเริ่มคิดถึงเรื่องการขยายสาขาร้านเกาลัดทันทีเมื่อได้เห็นลูกค้าต่อแถวแน่นขนาดนี้ เมื่อแฟนของต๊อบรู้ว่า กำลังเปิดร้านขายเกาลัด แฟนสาวของต๊อบโน้มน้าวให้ต๊อบเลิกคิดขายเกาลัดและหันมาเรียนต่อให้จบ แต่ต๊อบยังคงยืนกรานขายเกาลัดต่อไป

 

ต่อมาต๊อบรู้ความจริงว่า ครอบครัวต๊อบเป็นหนี้สินแล้วให้ต๊อบไปอยู่กับครอบครัวที่ประเทศจีน แต่ต๊อบตัดสินใจทำธุรกิจและเรียนต่อ แล้วก่อนจากไป พ่อของต๊อบโน้มน้าวให้ต๊อบเลิกคิดขายเกาลัดและเรียนต่อให้จบ

 

สุดท้ายทางห้างตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ขายเกาลัดด้วยเหตุที่สร้างความเดือดร้านให้กับผู้ประกอบการรายอื่น อีกทั้งต๊อบยังได้รับหมายศาลล้มละลายให้ยึดบ้านที่ต๊อบอาศัยอยู่ 

ภาพจาก bit.ly/3aijKbe 
 

แฟนสาวของต๊อบยังคงโน้มน้าวให้ต๊อบกลับไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่และขอให้ต๊อบเรียนต่อให้จบ พร้อมกับให้คำมั่นว่า จะช่วยสนับสนุนเรื่องเรียนให้กับต๊อบ ต๊อบเห็นแฟนสาวกินสาหร่ายทอด แล้วต๊อบก็ได้กินสาหร่ายจากแฟนสาว สาหร่ายทอดที่ต๊อบกินไปนั้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของต๊อบไปตลอดกาล

 

ต๊อบชอบสาหร่ายทอดของแฟนสาวมาก จนทำให้ต๊อบหาวิธีทำสาหร่ายทอดอย่างไรไม่ให้หืด ต๊อบได้ดิ่งสอบถามอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อขอเคล็ดลับการทำสาหร่ายไม่ให้หืด เมื่อต๊อบรู้เคล็ดลับแล้ว ต๊อบจึงตัดสินใจที่จะเอาเครื่องทำเกาลัดแลกกับสาหร่ายหลายกล่องด้วยกัน

 

ปัญหาตอนนี้ก็คือ จะทอดสาหร่ายอย่างไรให้อร่อยและตอบโจทย์ที่สุด ต๊อบได้ทดลองทอดสาหร่ายกับลุง ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ จนทำให้ต๊อบตัดสินใจนำเครื่องใช้ในบ้านเพื่อแลกกับการทำสาหร่ายให้ดีที่สุดและถูกปากที่สุด

 

หลังจากที่ต๊อบกลับไปสมัครสอบมหาวิทยาลัยกับแฟนสาวแล้ว ต๊อบพบกับลุงในสภาพที่นอนกับพื้น จึงรีบพาลุงส่งโรงพยาบาล แต่กระนั้นต๊อบยังคงทดลองทอดสาหร่ายต่อไป จนสาหร่ายเหลือเพียงไม่กี่ชิ้นแล้ว สุดท้ายได้สาหร่ายทีถูกปากและอร่อยที่สุดได้สมใจ

ภาพจาก bit.ly/3aijKbe
 

จากนั้นต๊อบเปิดร้ายสาหร่ายทอดชื่อ “เถ้าแก่น้อย” ในห้างเดิม แล้วปรากฏว่า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จากนั้นพ่อแม่ของต๊อบได้โทรมา ต๊อบได้ถามพ่อว่า ติดหนี้อยู่เท่าไร แต่คำตอบที่ออกมาทำให้ต๊อบอิ้งเมื่อพ่อบอกว่า 40 ล้าน ทำให้ต๊อบเริ่มรู้สึกหนักใจกับการแบกภาระหนี้ที่หนักอึ้งนี้

 

ต๊อบได้เริ่มกลับมาคิดทบทวนชีวิตของตัวเองอีกครั้ง เริ่มกลับมาฟังเทปคาสเซ็ทที่บรรยายเกี่ยวกับเรื่องความร่ำรวยซ้ำไปมาเรื่อย ๆ จากนั้นต๊อบเริ่มมีไอเดียขึ้นมาว่า จะนำธุรกิจสาหร่ายทอดของตัวเองมาจัดจำหน่ายที่เซเว่น ต๊อบจึงติดต่อทางเซเว่นเพื่อหาช่องทางวางขายสาหร่าย 

 

ต่อมาต๊อบได้เข้าไปยังสำนักงานใหญ่ของเซเว่น เมื่อนำเสนอขายปรากฏว่า ไม่ผ่านเพราะเรื่องการแพ็คเกจดีไซน์ที่ไม่น่าดึงดูด ใหญ่เกินไป ราคาแพงเกินไป ทำให้ต๊อบเดินคอตกอีกครั้ง แล้วเริ่มเข้าใจว่า การแพ็คเกจดีไซน์เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง

 

เมื่อแฟนสาวรู้ความจริงว่า ต๊อบกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากการยึดบ้าน ทำให้แฟนสาวอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ต๊อบยังคงยืนกรานยืนด้วยลำแข้งตัวเองต่อไปแล้วก็ไล่แฟนสาวออกไป ซึ่งต๊อบเองก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ไล่แฟนสาวของเขาแบบนั้น

ภาพจาก bit.ly/3do0JG6

 

ต๊อบพยายามหาแนวทางดีไซน์ออกแบบขนมสาหร่ายทอดต่อไป เมื่อออกแบบดีไซน์แล้ว ต๊อบจึงรีบดิ่งนำเสนอขายสาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อยที่สำนักงานใหญ่เซเว่นโดยทันที ต๊อบใช้เวลารอคอยทั้งวันเพื่อนำเสนอขายสาหร่ายทอด แต่ต๊อบรอไม่ไหว ขอกลับก่อน สุดท้ายต๊อบก็ได้ให้สาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อยให้คนอื่นกิน ซึ่งพอขนมสาหร่ายทอดถึงมือเจ้าหน้าที่ผู้จัดจำหน่ายสินค้า สุดท้ายทางสำนักงานเซเว่นได้ทำการอนุมัติขนมสาหร่ายทอดวางจำหน่ายตามร้านทั่วประเทศ แต่ต้องมีการตรวจโรงงานผลิตก่อน

ภาพจาก facebook.com/topsecretmovie

 

ต๊อบต้องคิดหนักเรื่องการตั้งโรงงานให้ได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แล้วภาพก็ตัดกลับมาที่ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อกับต๊อบ โดยผู้จัดการสินเชื่อไม่สามารถอนุมัติเงินสินเชื่อให้กับต๊อบได้ เนื่องจากต๊อบอายุเพียงแค่ 19 ปี จึงไม่ผ่านเกณฑ์ที่จะทำเรื่องกู้ บวกกับมีหนี้อีก 40 ล้าน แต่ผู้จัดการสินเชื่อก็อดที่จะชื่นชอบในสิ่งที่ต๊อบทำมาไม่ได้ จึงได้แต่ให้กำลังใจเรียนต่อให้จบไป

 

ต๊อบตัดสินขายรถยนต์สุดที่รักของตัวเองไปเพื่อตั้งโรงงานเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง คิดเป็นงบประมาณ 1 ล้านบาท ระหว่างที่ต๊อบกำลังเดินทางกลับรถไฟฟ้า ต๊อบได้เห็นแฟนเก่าของตัวเองอยู่กับผู้ชายคนอื่นแล้ว ทำให้ต๊อบเริ่มรู้แล้วว่า สิ่งที่ตัวเองทำคือทางเดียวที่จะพิสูจน์ได้ว่า ที่ผ่านมาเขาคิดถูกมาตลอด

 

ต๊อบกับลุงของต๊อบได้เดินหน้าสร้างโรงงานของตัวเองจนเสร็จ เมื่อฝ่ายตัวแทนตรวจสอบโรงงานของเซเว่นได้มาถึง ต่างก็รู้สึกแปลกใจที่โรงงานของต็อบมีขนาดเล็กกว่าที่คิดเอาไว้ แต่ก็เป็นไปตามคาดเมื่อพบว่า โรงงานของต๊อบยังไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งทางฝ่ายตรวจสอบได้แนะนำให้ต๊อบปรับปรุงแก้ไขตามที่ฝ่ายตรวจสอบได้แนะนำเอาไว้ 

ภาพจาก bit.ly/3do0ZVA

 

เมื่อต๊อบได้แก้ไขตามที่ฝ่ายตรวจสอบโรงงานแนะนำแล้ว ทางสำนักงานใหญ่อนุมัติให้โรงงานเถ้าแก่น้อยของต๊อบผ่าน ทำให้ต๊อบเข้าใจทุกอย่างแล้วว่า สิ่งที่เขาทุ่มเทแรงกายและแรงใจทุกอย่างมันสัมฤทธิ์ผลออกมาแล้วจริง และได้จัดจำหน่ายขนมสาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อยได้ตามดั่งที่หวังเอาไว้ และต๊อบสามารถใช้หนี้ 40 ล้านบาทได้ภายในระยะเวลา 2 ปีหลังจากที่นำสาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อยวางจำหน่ายที่เซเว่น และยังส่งออกสินค้าไปจัดจำหน่ายกว่า 27 ประเทศทั่วโลก

ภาพจาก bit.ly/3bp8A4u

 

และหนังก็จบลงเพียงเท่านั้น จะเห็นได้ว่าคาถาที่เสี่ยต๊อบ เถ้าแก่น้อยได้ถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์ชิ้นนี้นั้น ก็คือ 1.อย่ายอมแพ้ 2.อย่าล้มเลิกความฝัน ทุ่มกับมันให้เต็มที่ อย่างที่เจ้าตัวได้เคยบอกว่า “ทุกครั้งที่เจอปัญหา ห้ามหมดกำลังใจเป็นอันขาด เพราะถ้าเรายอมแพ้ เกมจะจบลงทันที” สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนอย่ายอมแพ้และเดินหน้าทำความฝันให้เป็นจริงทุกท่านนะครับ

 

บทความ SMEs | การตลาด บริหารธุรกิจ | รีวิวหนังสือ สปอยหนัง สปอยล์หนัง Chef (เชฟจ๋า) พบกับ ไทยแฟรนไชส์สปอย การสปอยหนังที่ไม่อยากให้คุณรอคอย! ภาพยนตร์เรื่อง Chef (เชฟจ๋า) ถือเป็นอีกหนึ่งในภาพยนตร์ที่ใครหลายคนอาจไม่คุ้นหูนัก แต่หารู้ไม่ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่หมดหวังและกำลังจะยอมแพ้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวของเชฟฝีมือดีคนหนึ่งที่ม.. 66months ago   2,787  7 นาที

บทความ SMEs | การตลาด บริหารธุรกิจ | รีวิวหนังสือ สปอยหนัง สปอยล์หนัง The Founder The Founder เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงประวัติของเรย์คล็อก จากเซลล์ขายเครื่องทำมิลค์เชค สู่คนที่ทำให้แมคโดนัลด์มีชื่อเสียงโด่งดังและขยายสาขาไปทั่วโลก โดยในหนังได้จับ “ไมเคิล คีตัน” จากหนังออสการ์ Birdman (2014) มารับบทสุดท้าทายอีกครั้ง กับบท “เรย์ คล็อก” นักธุรกิจผู้อยู่เ.. 66months ago   2,711  6 นาที

บทความ SMEs | การตลาด บริหารธุรกิจ | รีวิวหนังสือ สปอยหนัง สปอยล์หนัง The Social Network เดอะโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นภาพยนตร์เรื่องราวการก่อตั้งบริษัทเฟสบุ๊คของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก มหาเศรษฐีพันล้านอายุน้อยที่สุดในโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นอีกภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการกวาดรางวัลและได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี หนังเรื่องนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวของมาร์ค ซั.. 66months ago   4,734  8 นาที

บทความ SMEs | การตลาด บริหารธุรกิจ | รีวิวหนังสือ สปอยหนัง สปอยล์หนัง The Wolf of Wall Street (คนจะรวยช่วยไม่ได้) พบกับ ไทยแฟรนไชส์สปอย การสปอยหนังที่ไม่อยากให้คุณรอคอย! หนังเรื่อง The Wolf of Wall Street นั้น เป็นหนังที่สร้างจากหนังสืออัตชีวประวัติตามชื่อหนังเลยก็คือ “The Wolf Of Wall Street ซึ่งเขียนโดย จอร์แดน เบลฟอร์ท หนังสือเล่มนี้มีการตีพิมพ์เมื่อปี 2007 จอร์แดน เบลฟอร์ทเป็นอดีตนายหน้าค้าห.. 66months ago   5,664  11 นาที

บทความ SMEs | การตลาด บริหารธุรกิจ | รีวิวหนังสือ สปอยหนัง สปอยล์หนัง The Pursuit of Happyness (ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้) ภาพยนตร์เรื่อง The Pursuit of Happyness หรือยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ เป็นภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก โดยเฉพาะกับคนที่มีความรู้สึกสิ้นหวังด้วยแล้ว ยิ่งต้องดูเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของคริส การ์ดเนอร์ พ่อหม่ายผู้แทบจะสูญสิ้นความหวังทุกอย่างแล้วประสบความ.. 66months ago   8,977  8 นาที