บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    รีวิวหนังสือ สปอยหนัง
3.5K
3 นาที
27 มีนาคม 2563
สปอยล์หนัง Jerry Maguire (เจอร์รี่ แม็คไกวร์ เทพบุตรรักติดดิน)
 

พบกับ ไทยแฟรนไชส์สปอย การสปอยหนังที่ไม่อยากให้คุณรอคอย! เจอร์รี่ แม็คไกวร์ เทพบุตรรักติดดิน เป็นหนังแนวที่ผสมผสานทั้งตลก-ดราม่าและโรแมนติค แม้ว่าหนังเรื่องนี้ออกเป็นแนวที่ดูเหมือนว่า ดูเพื่อความบันเทิงหรือคลายเครียด แต่กลับเป็นหนังที่มีข้อคิด คติเตือนใจหลายอย่างเกี่ยวกับความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจและการสำนึกผิดแล้วกลับตัวกลับใจหันมาเริ่มใหม่อีกครั้ง และเป็นเริ่มต้นใหม่อย่างยิ่งใหญ่จนไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ซึ่งคุณจะเห็นได้จากหนังเรื่องนี้


 
เริ่มเรื่องนั้นเจอร์รี่ได้อธิบายถึงบทบาทการเป็นนายหน้านักกีฬาของเขา ไม่ว่าจะเป็นการอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาหลายคน การดูแลลูกค้าหลายคนที่ต้องอาศัยความขยันและความรับผิดชอบ การเจรจาต่อรองที่เน้นในการยัดเหยียดจนลูกค้าเกิดความใจอ่อน รวมไปถึงการเป็นตัวแทนในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งสิ่งเจอร์รี่ได้ทำเป็นการทำเพื่อเงินก้อนโตและผลประโยชน์ของตัวเองเฉพาะหน้า
 
เจอร์รี่เริ่มตระหนักถึงตัวเองแล้วว่า สิ่งที่เขาทำลงไปนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เขาเริ่มรู้สึกผิดและอยากเปลี่ยนแปลงหลักจรรยาบรรณของนายหน้า เจอร์รี่เริ่มเขียนอะไรบางอย่างประมาณ 25 หน้า โดยเขาได้ร่ายยาวถึงเรื่องของจรรยาบรรณของการเป็นนายหน้าและการให้ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพของลูกค้ามากกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง เขาได้เสนอว่าจะต้องทำการลดจำนวนลูกค้าให้น้อยลงเพื่อได้ใส่ใจ่ดูแลลูกค้าที่มีอยู่ให้มากขึ้น


ภาพจาก bit.ly/33QymMg
 
เจอร์รี่รู้สึกว่า เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง เขาได้ถ่ายเอกสารที่ตัวเองได้เขียนออกมาและได้ตั้งชื่อแถลงการณ์ว่า “The things we think and do not say” ซึ่งเป็นแถลงการณ์ที่กำหนดแนวทางอนาคตของบริษัทนายหน้า แล้วนำไปแจกจ่ายให้กับทุก ๆ คน ซึ่งผลปรากฏว่า สิ่งที่เขาได้เขียนเป็นที่ยกย่องต่อพนักงานทุกคนเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่เจอร์รี่ได้เขียนในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าปริปากออกมา แต่นั่นก็ต้องแลกกลับอะไรบางอย่างที่เจอร์รี่เองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
 
เแม้ว่าเพื่อน ๆ ของเจอร์รี่จะปรี่เข้ามาแสดงความยินดีจำนวนมาก แต่เมื่อเจอร์รี่ได้กลับเข้ามายังบริษัทนายหน้าที่ตัวเองทำงานอยู่ ทางบริษัทได้ไล่เจอร์รี่ออกเนื่องจากแถลงการณ์ที่เจอร์รี่ได้เขียนก่อนหน้านี้ ซึ่งขัดกับแนวทางของบริษัท แต่เจอร์รี่ไม่ได้หวั่นไหว ซ้ำยังประกาศอีกว่า เขาจะดึงลูกค้าของบริษัทมาอยู่ในมือของเขา


ภาพจาก bit.ly/3dxsRXv
 
เจอร์รี่ไม่รอช้า เขาตัดสินใจรีบค้นหาและเก็บข้อมูลลูกค้าทั้งหมดจากบริษัททันที โดยเขากับทางบริษัทต่างแย่งลูกค้ากันอย่างบ้าเลือด เจอร์รี่ยังคงใช้ทักษะการเจรจาต่อรองเพื่อหาลูกค้าให้ได้มากที่สุด แต่เนื่องจากลูกค้าหลายรายที่เจอร์รี่ได้ดูแลมีความผูกพันต่อบริษัทนั้นมาก บวกอีกทั้งทักษะของเจอร์รี่ที่เน้นไปทางรุกและยัดเหยียดทำให้ลูกค้าหลายรายต่างปฏิเสธทำงานร่วมกับเขา ทำให้เจอร์รี่ต้องคิดหนัก แต่มีลูกค้าเพียงคนเดียวที่ขอร่วมงานกับเจอร์รี่ก็คือ ร็อด ทิดเวลล์ ซึ่งเป็นนักอเมริกาฟุตบอลที่กำลังประสบปัญหาเรื่องเงินอยู่ 
 
เจอร์รี่ยังไม่ยอมแพ้ ก่อนที่เขาจะออกจากบริษัทนั้น เขาได้ชักชวนให้คนอื่นมาทำงานร่วมกันโดยที่เขาจะทำการก่อตั้งบริษัทของตัวเองขึ้นมาใหม่ แม้ว่าบริษัทจะมีพนักงานหลายร้อยคน แต่ก็มีเพียงแค่โดโรธี บอยด์ ซึ่งเป็นพนักงานบัญชีสาวลูกติดกับปลาทองที่เขาตักใส่ถุงเท่านั้นที่ขอติดตามเจอร์รี่ไปด้วย


ภาพจาก bit.ly/2UmDMvr 
 
เจอร์รี่ได้ครุ่นคิดพยายามอย่างหนักเลยตัดสินใจบินไปหาพ่อของเพื่อนที่เป็นนักกีฬาชื่อดังชื่อ คุช เพื่อขอร่วมงานด้วย ซึ่งคุช ของเจอร์รี่ตอบรับแต่โดยดี ทำให้เจอร์รี่เริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว 
 
ต่อมาเจอร์รี่ได้คุยกับร็อดเกี่ยวกับการให้ร็อดแสดงธาตุแท้ออกมาต่อหน้าสื่อเพื่อเรียกเรตติ้งและสร้างมูลค่าให้กับร็อดคืนมาอีกครั้ง แล้วจากนั้นเจอร์รี่ได้พาร็อดไปรู้จักกับบุคคลต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงเส้นสายและความก้าวหน้าในอาชีพของตน แล้วจากนั้นไม่นานเจอร์รี่ก็พาร็อดกลับมาอยู่ในหน้าสื่ออีกครั้ง และเริ่มกลายเป็นบุคคลที่เริ่มให้ความสนใจอีกครั้ง

เจอร์รี่ได้รู้ความจริงว่า บริษัทที่เตะก้นเขาออกก่อนหน้านั้นพยายามจะจีบคุช ทำให้เจอร์รี่ไม่รอช้า เริ่มพยายามทำทุกอย่างเพื่อรั้งคุชให้อยู่กับเขาต่อไป แต่เมื่อรู้ว่าทางคุชได้ดีลกับทางบริษัทคู่ปรับของเจอร์รี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้เจอร์รี่โมโหตัวเองและกลับมาคิดหนักอีกครั้ง พร้อมกับเจอเรื่องปวดหัวมากขึ้นไปอีกเมื่อเจอร์รี่กับภรรยาขอแยกทางกัน


ภาพจาก bit.ly/2Jkm2uA
 
ตอนนี้เจอร์รี่ได้ทำงานร่วมกับร็อดอย่างเต็มที่เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับมา เจอร์รี่ได้พยายามเจรจาทำสัญญาระหว่างร็อดกับทางทีมสโมสร แต่ก็ไม่ได้ผล เจอร์รี่พยายามเข็นร็อดให้อยู่แถวเดียวกับซุปเปอร์สตาร์ เจอร์รี่ได้ใช้ความอดทนและใช้วาทศิลป์ให้ร็อดพยายามเรียกศรัทธากลับคืนมา ขณะเดียวกันเจอร์รี่กับโดโรธีได้ออกเดทกัน แต่แม้ทั้งสองต่างมีใจให้กัน และมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ทั้งสองยังคงความซึ่งเป็นมืออาชีพโดยให้โฟกัสกับเรื่องงานมากกว่าเรื่องรักหรือเศร้า แล้วทั้งสองก็ได้แต่งงานกันในช่วงเวลาต่อมา
 
ทั้งเจอร์รี่, โดโรธี,และร็อด สามคนคิดหนักที่ข้อตกลงไม่เป็นไปตามเงื่อนไข แต่ทั้งสามยังคงทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันไม่ยอมแพ้ แม้จะมีอุปสรรคอะไรก็ตาม ร็อดจึงต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองว่า เขานั้นมีมูลค่ามากพอที่สามารถเรียกค่าตัวได้เยอะ โดยเจอร์รี่แนะนำร็อดว่า อย่าพยายามเล่นเพื่อเงิน แต่ต้องใช้ใจในการพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง อย่าโทษหรือตำหนิใคร และอื่น ๆ ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ แต่ร็อดก็ไม่ได้ฟังเจอร์รี่เลย ซ้ำยังต่อเถียงอีก
 
ร็อดยังคงเล่นด้วยฟอร์มย่ำแย่ต่อเนื่อง จนเจอร์รี่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี ในชีวิตส่วนตัวของเจอร์รี่กับโดโรธีนั้น เริ่มมีปัญหาขึ้นมา จนทั้งสองได้พูดคุยกันถึงการแยกทางกัน แต่ยังคงมีสถานะความเป็นเพื่อนกันอยู่ 


ภาพจาก bit.ly/2JfaIzR
 
เจอร์รี่โฟกัสกับงานของตัวเองอย่างเต็มที่และได้เข้ามาชมการเล่นของร็อดอีกครั้ง คราวนี้ร็อดพยายามเค้นฟอร์มของตัวเองออกมาให้คนทั่วประเทศได้เห็น แต่ดูเหมือนร็อดยังคงเค้นฟอร์มไม่ออกจากการที่ผู้เล่นคนอื่นได้เข้ามารุมสกัดเอาไว้ ร็อดได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการกระโดดรับลูกและทำทัชดาวน์สำคัญได้สำเร็จ แต่ทว่าร็อดนอนสลบจากแรงกระแทก ผู้คนทั้งสนามเงียบหมด ทำให้เจอร์รี่อดเป็นห่วงไม่ได้จึงรีบไปดูอาการของร็อดที่สนาม รวมไปถึงภรรยากับครอบครัวที่ได้เห็นเหตุการณ์บนโทรทัศน์ ในที่สุดร็อดก็ฟื้นขึ้นมา จนผู้ชมทั้งในและนอกสนามต่างก็ส่งเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจ และทั้งเจอร์รี่กับร็อดก็ได้แสดงให้เห็นผู้คนทั้งหมดเห็นแล้วว่า ร็อดนั้นมีคุณค่ามากแค่ไหน และสุดท้ายร็อดได้รับดีลข้อตกลงที่มีมูลค่าสูงกว่า 11.5 ล้านดอลลาร์ด้วยกัน 


ภาพจาก bit.ly/2wu9Zbj
 
เมื่อเจอร์รี่ประสบความสำเร็จจากการแข่งขันธุรกิจที่ดุเดือดแล้ว เจอร์รี่ได้ไปหาภรรยาของเขาเพื่อขอคืนดี และทางภรรยาก็ตอบรับการขอคืนดีแต่โดยดี และทั้งสองต่างก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
 
และหนังก็จบลงเพียงเท่านั้น จะเห็นได้ว่าหนังเรื่องนี้ไม่เพียงแค่สอดแทรกเนื้อหาที่สร้างความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกเรื่องของแรงบันดาลใจหลายอย่างด้วยกัน รวมไปถึงความไม่สมบูรณ์แบบของเจอร์รี่ที่เจอทั้งเรื่องดีและแย่ และสุดท้ายเขาก็สามารถฝ่าฟันได้อย่างสำเร็จ ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะประสบความสำเร็จเหมือนเจอร์รี่ แม็คไกวร์ นะครับ
 
พบกับ ไทยแฟรนไชส์สปอย การสปอยหนังที่ไม่อยากให้คุณรอคอย! ภาพยนตร์เรื่อง Chef (เชฟจ๋า) ถือเป็นอีกหนึ่งในภาพยนตร์ที่ใครหลายคนอาจไม่คุ้นหูนัก แต่หารู้ไม่ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่หมดหวังและกำลังจะยอมแพ้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวของเชฟฝีมือดีคนหนึ่งที่ม..
66months ago   2,788  7 นาที
The Founder เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงประวัติของเรย์คล็อก จากเซลล์ขายเครื่องทำมิลค์เชค สู่คนที่ทำให้แมคโดนัลด์มีชื่อเสียงโด่งดังและขยายสาขาไปทั่วโลก โดยในหนังได้จับ “ไมเคิล คีตัน” จากหนังออสการ์ Birdman (2014) มารับบทสุดท้าทายอีกครั้ง กับบท “เรย์ คล็อก” นักธุรกิจผู้อยู่เ..
66months ago   2,712  6 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
424
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด