Dunkin’ เตรียมปิดหน้าร้านกว่า 800 แห่งภายในปี 2020 แม้จะเป็นตัวเลขที่น่าใจหาย แต่บริษัทอธิบายว่ารายได้ไม่ได้เลวร้าย เมื่อเทียบกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา 
 

Dunkin’ มียอดขายติดลบ 18.7% ในไตมาสที่ 2 และรายรับลดลง 20% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังแพ้สตาร์บัคส์ที่มียอดขายติดลบแค่ 10% ขณะภาพรวมของอุตสาหกรรมร้านอาหารในสหรัฐอเมริกาพบว่ามียอดขายติดลบ 37.9%  

ภาพจาก bit.ly/2Pngmmg

 

Scott Murphy ประธาน Dunkin’ อเมริกา กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้นตามลำดับ โดยในเดือนเมษายนยอดขายลดลง 30% ในเดือนพฤษภาคมยอดขายลดลง 15% และในเดือนมิถุนายนยอดขายลดลงเพียง 9% ภาพรวมดีขึ้นเรื่อยๆ โดยช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 บริษัทได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้บริการลูกค้าทางออนไลน์มากขึ้น โดยปัจจุบัน Dunkin’ มีร้านสาขาแฟรนไชส์กว่า 1,400 แห่งจั้งอยู่ตามถนนหนทางต่างๆ 
 

ภาพจาก bit.ly/39SmtIX

 

แต่ปัญหาที่ Dunkin’ กำลังประสบอยู่ ก็คือ ร้านที่อยู่ในนิวยอร์กและชิคาโก ที่ถือว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของ Dunkin’ ในสหรัฐอเมริกา สถานการณ์ยังไม่เป็นปกติ ประชาชนยังหลีกเลี่ยงการออกมาทำงานนอกบ้าน ทำให้ลูกค้าลดน้อยลง หรือปิดให้บริการชั่วคราว โดยท่านมาบริษัทได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสาขาแฟรนไชส์ซีที่ได้รับผลกระทบ 

ภาพจาก bit.ly/3fmn7PZ

 

ก่อนหน้านี้ Dunkin’ ยังได้ประกาศว่าจะปิดร้านในปั้มน้ำมัน Speedway กว่า 450 แห่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ "Raising the Bar" ที่ผ่านมาได้ปิดร้านในปั้มไปแล้ว 10 แห่งในไตรมาสที่สอง และปิดอีก 30 แห่งที่เป็นสถานที่ตั้งเดิม ซึ่งคาดว่าจะมีร้าน Dunkin’ กว่า 800 แห่งที่จะต้องปิดทำงานในปี 2020 ส่วนใหญ่เป็นร้านที่ไม่สามารถทำกำไรได้ ส่วนร้านที่เหลือจะเน้นบริการในรูปแบบไดร์ฟอิน ตามถนนที่มีผู้คนสัญจรผ่านไปมา รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ด้วย 
 

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

 

อ้างอิงข้อมูล 

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)