กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ กรณีร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู ชาบู นางใน สาขาพระรามเก้า 43 จะคิดเงินลูกค้าเพิ่ม โดยให้เหตุผลว่า ลูกค้ารายนี้กินแต่เนื้อกับกุ้ง ไม่กินอย่างอื่น จนกระแสก็ตีกลับไปที่ทางร้านเต็มๆ จนถึงขั้นเจ้าของต้นตำรับแบรนด์ชาบู ชาบู นางใน “คุณลุงวันเลิด” ต้องออกมาขอโทษลูกค้าด้วยตัวเอง

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาเจาะลึกแฟรนไชส์ร้านชาบู ชาบู นางใน ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น แต่กลิ่นอายแบบไทยๆ รสชาติไทยๆ บรรยากาศร้านมีความอบอุ่นเหมือนนั่งรับประทานอาหารอยู่ในบ้านของตัวเอง 

ภาพจาก pakwan.bloggang.com

 

จุดเริ่มต้นของร้านชาบู ชาบู นางใน เกิดขึ้นจาก “คุณลุงวันเลิด พวงพยอม” เมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา โดยคุณลุงวันเลิดเป็นคนชอบและหลงใหลในการทำอาหาร มีการคิดสูตรเอง และปรับปรุงสูตรด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ จนลูกค้าให้การยอมรับ 

 

หลังจากนั้นได้ตั้งร้านต้นตำรับที่ถนนพระรามเก้า 41 โดยตั้งใจให้เป็นร้านชาบูที่รวมเอาวัฒนธรรมการทานอาหารแบบครอบครัวญี่ปุ่น ผสมกับรสชาติความเข้มข้นแบบไทย สามารถทานได้ทุกคนทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ในราคาไม่แพง

ภาพจาก pakwan.bloggang.com

 

ส่วนที่มาที่ไปของคำว่า “นางใน” นั้น หมายถึง สาวชาววังไทย ที่บ่งบอกถึงความเรียบร้อย ความงามแบบไทยๆ โดยได้รับเกียรติจากท่านอาจารย์หทัย บุญนาค ได้วาดรูปผู้หญิงสาวมีความอ่อนช้อยแบบไทย ให้เป็นสัญลักษณ์ของร้านชาบู ชาบู นางใน กลิ่นอาย และสัญลักษณ์ จะเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าได้เห็นเมื่อเดินเข้าร้านชาบู ชาบู นางใน

ภาพจาก bit.ly/3ivUi61

 

ปัจจุบันร้านชาบู ชาบู นางใน มีจำนวนสาขากว่า 60 สาขาทั่วประเทศ โดยในช่วง 2-3 ปีแรกนั้น สามารถขยายสาขาได้มากถึง 100 สาขา ถือเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ที่คนนิยมมาเรื่อยๆ แต่จริงๆ คุณลุงวันเลิด ไม่ต้องการที่จะขายแฟรนไชส์มาตั้งแต่แรก แต่พอลูกค้าที่เข้าไปรับประทานอาหารในร้านบ่อยๆ เกิดความชื่นชอบ จึงขอซื้อแฟรนไชส์ไปเปิด

 

จริงๆ แล้วระบบแฟรนไชส์นั้น ต้องมีค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า แต่คุณลุงวันเลิด ไม่เก็บค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์จากคนที่มาขอแฟรนไชส์ ให้ชื่อ ให้แบรนด์ ให้สูตร รวมถึงสอนวิธีการทำทุกอย่างให้หมด แต่คิด 10% จากกำไรของร้านสาขาในแต่ละเดือน เพื่อนำไปทำบุญ โดยจะให้สิทธิเจ้าของร้านแต่ละสาขาบริหารจัดการเองทุกอย่าง ราคาอาหารก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม

ภาพจาก facebook.com/TKinTTiew

 

ส่วนวัตถุดิบต่างๆ นั้น ลุงวันเลิดจะมีลิสต์ซัพพลายเออร์ให้ผู้ขอแฟรนไชส์ทุกคน ว่าจะต้องสั่งซื้อจากที่ไหนบ้าง เพื่อให้ได้มาตรฐาน ส่วนผักสดให้หาเอาที่ใกล้ๆ เพื่อความสดของวัตถุดิบให้เลือกของที่ดีมีคุณภาพ อันไหนไม่ดีให้ทิ้งไป 

 

สำหรับน้ำซุปจะมีสูตรเฉพาะว่าต้องใส่อะไรบ้าง เท่าไหร่ เพื่อให้น้ำซุปมีความหอม โดดเด่น แตกต่างจากที่อื่น ส่วนน้ำจิ้มเป็นสูตรลับของนางใน รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ทานกับหมูสามชั้น หรือเนื้อ  โดยราคาแรกเริ่ม 349 บาท 

 

หากเปรียบเทียบลุงวันเลิดเจ้าของแฟรนไชส์ชาบู ชาบู นางใน ก็เหมือนกับ “ผู้พันแซนเดอร์ส” ผู้ก่อตั้งไก่ทอดเคเอฟซี ที่เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ไก่ทอดชื่อดังของโลกในช่วงอายุสูงวัย โดยทั้งสองคนมีความชอบและหลงใหลการทำอาหารเช่นเดียวกัน 

ภาพจาก bit.ly/3iuB80v

 

โดยที่ผ่านมา ร้าน ชาบู ชาบู นางใน เป็นร้านที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ถึงขนาดว่าลูกค้ายอมยืนต่อแถวรอคิวเพื่อช่วงชิงเก้าอี้ แล้วเข้าไปนั่งกินชาบูชิลๆ ในร้าน เพราะร้านชาบู ชาบู นางใน แต่ละสาขาจะมีการออกแบบและตกแต่งร้านให้เป้นเหมือนบ้าน มีความเป็นเอกลักษณ์และอบอุ่น แตกต่างจากร้านชาบูทั่วๆ ไป 

 

เพราะลุงวันเลิด มองว่า การทานอาหารให้ได้บรรยากาศดีที่สุด คือ ทานอยู่ในบ้าน บ้านจึงเป็นทำเลทองของชาบู ชาบู นางใน แม้อาจไม่ได้อยู่ในจุดมองเห็นง่าย แต่ทว่าถ้าเสิร์ฟอาหารดี มีคุณภาพ สะอาด สำคัญคือ รสอร่อย มีหรือใครจะไม่มา

ภาพจาก bit.ly/3bV6b2Y

 

ปัจจุบันชาบู ชาบู นางใน หยุดการขายแฟรนไชส์ก่อน เพราะต้องการรักษาคุณภาพมาตรฐานให้มากที่สุด เพราะเมื่อไหร่ที่สาขาใดสาขาหนึ่งมีปัญหา สาขาอื่นๆ ก็จะกระทบด้วย เพราะแบรนด์เดียวกัน เหมือนกรณีดาราม่าที่เกิดขึ้นกับสาขาพระรามเก้า 43 

 

แต่ด้วยความรับผิดชอบของลุงวันเลิดในฐานะเจ้าของแบรนด์ รีบออกมาขอโทษลูกค้าแทนสาขาแฟรนไชส์อย่างทันท่วงที จึงมีส่วนช่วยให้สาขาอื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก กลับยิ่งทำให้มีลูกค้าไปใช้บริการมากขึ้น

 

 

อ้างอิงข้อมูล 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)