บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    การลงทุน
2.6K
3 นาที
21 มกราคม 2564
อยากลงทุนแต่ไม่มีตังค์! ต้องทำยังไง


 
อยากลงทุนต้องมีเงิน ถ้าไม่มีเงินก็เริ่มต้นธุรกิจไม่ได้ นี่คือนิยามของคนส่วนใหญ่ที่ฝังหัวเอาไว้ กลายเป็นกรอบความคิดที่ไม่มีใครกล้าจะก้าวออกมา บ้างกลัวพลาด บ้างกลัวล้มเหลว สุดท้ายหลายคนก็ยืนอยู่ที่เดิมเพราะมัวแต่คิดว่าตัวเองไม่มีเงินลงทุน
 
www.ThaiFranchiseCenter.com อยากจะเปลี่ยนความคิดเหล่านี้ซะใหม่ และอยากบอกให้ทุกคนเข้าใจว่าแม้เราไม่มีเงินทุนเราก็มีโอกาสในการสร้างธุรกิจได้ จะต้องทำยังไงบ้าง ลองไปดูกัน!

1. หาแหล่งเงินทุนในการกู้ยืม


ภาพจาก freepik
 
ข้อดีของการจัดหาเงินทุนเพื่อธุรกิจแบบนี้คือ ความหลากหลายของรูปแบบเงินทุน ทั้งระยะสั้น ระยะยาว ระยะกลาง และการกู้ยืมที่มีเงื่อนไขหลายแบบที่สามารถเลือกให้เหมาะสมกับคุณสมบัติของผู้กู้ได้ แต่แหล่งเงินทุนลักษณะนี้มักใช้เวลานานในการพิจารณา และมักต้องใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน ในกรณีกู้ยืมสินเชื่อ SME
 
แต่ก็ยังมีแหล่งเงินทุนอื่นๆ ที่น่าสนใจที่ไม่ใช่การกู้ยืมจากสถาบันโดยตรง เช่น จากบัตรเครดิตที่แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเงินแต่บัตรเครดิตก็มีก็สามารถเป็นแหล่งเงินทุนได้เช่นกัน เราสามารถใช้วงเงินในบัตร รูดซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ มาใช้ในการตั้งต้นเปิดร้านทำธุรกิจหรือสั่งซื้อสินค้ามาสต็อกเพื่อจำหน่ายให้ลูกค้าต่อไปได้ ซึ่งหากเราบริหารจัดการการใช้จ่ายดีคืนเงินตามระยะเวลาที่กำหนดเราก็อาจจะไม่เสียดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว (เงือนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) 
 
หรือจะเลือกใช้บัตรกดเงินสดซึ่งเป็น แหล่งเงินทุนหมุนเวียนยามฉุกเฉินที่ไม่ต้องการหลักทรัพย์ค้ำประกันตอนสมัคร เพียงคุณมีเครดิตทางการเงินที่เข้าเงื่อนไข ก็สามารถสมัครบัตรกดเงินสดมาใช้ได้ทันที แต่มีจุดที่ต้องทราบไว้ก่อนคือ วงเงินที่ให้อาจไม่ตอบโจทย์ในกรณีที่ต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อนำไปลงทุน
 
2. ใช้ไอเดียและความสามารถทดแทนเงินทุน


ภาพจาก freepik
 
สำหรับคนที่ไม่มีเงินทุน แต่มีสมอง และไอเดียก็สามารถสร้างธุรกิจของตัวเองได้ หลายธุรกิจที่เริ่มต้นจากไอเดียง่ายๆ ทำจากเล็กไปใหญ่ ค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ  ยกตัวอย่าง คนที่มีความสามารถด้านศิลปะไม่ว่าจะวาดภาพ งานปั้น แกะสลัก สามารถผลิตชิ้นงานและจำหน่ายให้กับคนที่สนใจในช่องทางโซเชี่ยลได้ หรือคนที่มีความสามารถด้านภาษา มีทักษะด้านงานซ่อม มีความสามารถด้านการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สามารถรับงานฟรีแลนด์ หรือเป็นติวเตอร์รับจ้างสอนตามบ้าน ก็เป็นการลงทุนสร้างรายได้ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเริ่มต้นแถมยังสามารถต่อยอดไปได้ไกลมากด้วย
 
3. ใช้ต้นทุนเท่าที่เรามี

ภาพจาก facebook.com/torbeefgrill
 
คำว่าไม่มี “ต้นทุน” ก็ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่บาทเดียว คำว่าเงินทุนไม่มีอาจจะหมายถึงมีแต่เพียงพอเอาไปลงทุน ถ้าดังนั้นแล้ว ก็ “ใช้เท่าที่มี” เช่น เรามีเงินเก็บอยู่ 20,000 บาท หากจะเอาไปลงทุนทั้งหมดนี้ก็จะเป็นความเสี่ยงเกินไป ลองแบ่งมาลงทุนสัก 5,000  แล้วลองดูว่า เงิน 5,000 ที่เราแบ่งมานี้พอจะเอาไปทำอะไรให้งอกเงยได้บ้าง เช่น การซื้อแฟรนไชส์บางแห่ง ที่ใช้งบไม่เกิน 5,000 ก็มีหลายแพคเกจให้เลือกลงทุนได้ หรือจะเอาเงินทุนนี้ซื้ออุปกรณ์สำหรับทำสิ่งที่ตัวเองถนัด เช่นซื้อเมล็ดผัก อุปกรณ์ปลูกผัก มาลองปลูกพืชสวนครัวขาย เป็นต้น การที่เราใช้เงินทุนตามศักยภาพที่เรามี แม้จะไม่สามารถเติบโตเป็นธุรกิจได้กำไรในทันทีแต่ถ้าค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ต่อยอดให้ดีขึ้น เมื่อมีเงินทุนมากขึ้นก็มาลงทุนเพิ่ม กิจการก็จะขยายใหญ่ขึ้นในอนาคตได้
 
4. หาคนลงทุนร่วมด้วย


ภาพจาก freepik
 
ปัจจุบัน นักลงทุนหรือสถาบันต่างๆ ที่มีเงินลงทุนมหาศาล พยายามมองหาธุรกิจที่น่าสนใจ และให้เงินทุนเพื่อให้ธุรกิจเหล่านั้นได้ถูกพัฒนาไปได้ ซึ่งเราอาจใช้ประโยชน์จากส่วนนี้ในการหาผู้ร่วมลงทุนกับเราได้ ซึ่งก็มีหลายรูปแบบเช่น
  • เงินรางวัลสนับสนุนแผนธุรกิจ มีบริษัทรายใหญ่หลายราย เปิดโอกาสให้ธุรกิจเล็กๆ ที่ต้องการเงินทุน และมีแผนธุรกิจที่น่าสนใจ เข้าร่วม Pitch หรือ นำเสนอแผนธุรกิจ เพื่อคว้ารางวัลเงินสนับสนุน แล้วแต่ละบริษัทก็สนับสนุนเงินรางวัลให้แก่บุคคลเหล่านั้น
     
  • Angel Investor แหล่งเงินทุนประเภทนี้เป็นที่พูดถึงกันมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ Start up โดย Angel Investor คือนักลงทุนมืออาชีพ ที่มีความสนใจในด้านการทำธุรกิจ และหากเจอธุรกิจที่เข้าตา ก็พร้อมสนับสนุนเงินลงทุนให้แก่ธุรกิจเหล่านั้น เพื่อแลกกับหุ้นของบริษัทบางส่วน และนอกจากจะเข้ามาสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุนแล้ว ยังจะเป็นผู้ช่วยให้คำแนะนำที่ดี เปิดมุมมองให้กับบริษัทได้อีกด้วย
     
  • Crowdfunding ป็นระบบช่องทางการเงินยุคปัจจุบัน ที่เข้ามาช่วยคนที่มีไอเดียอยากเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างแต่ขาดเงินทุน สามารถขายไอเดียเพื่อระดมเงินทุน ให้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอไอเดียหรือผลงาน ผ่านแคมเปญหรือกิจกรรม โดยที่ไม่ต้องลงทุนเอง เพื่อขอรับการสนับสนุนจากคนทั่วโลก ปัจจุบันแพลตฟอร์มหรือช่องทางการระดมทุนแบบ Crowdfunding อยู่มีหลายแห่งทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ตัวอย่างแพลตฟอร์ม Kickstarter ถือเป็นแหล่งระดมทุนยอดนิยมแห่งหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง (ก่อตั้งเดือนธันวาคม ปี 2009) เน้นโครงการที่มีความคิดสร้างสรรค์โดดเด่น ณ ธันวาคม 2019 มีโครงการได้รับการสนับสนุนแล้ว รวมเป็นเงินถึง 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากผู้สนับสนุน 17.2 ล้านราย เป็นต้น
 
5. ใช้โซเชี่ยลสร้างรายได้


ภาพจาก freepik
 
น่าจะเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่คนไม่มีทุนนึกถึงมากที่สุด การใช้โซเชี่ยลสร้างรายได้แน่นอนว่าทุกคนรู้จัก “การขายออนไลน์” ซึ่งก็มีหลายช่องทางให้เลือกใช้เช่น
  • Facebook ใช้งานได้หลายแบบ เช่น การสร้างเพจต่างๆ, ขายของออนไลน์, ทำอาหาร, ออกกำลังกาย, แชร์เรื่องราว, รีวิวสินค้าหรืรอท่องเที่ยว ฯลฯ หากเป็นเพจที่ฮอตฮิตมีคนติดตามเยอะก็จะมีรายได้จากการจ้างให้โฆษณา , การจ้างรีวิวสินค้า เป็นต้น
     
  • Youtube เป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่รู้จักดีมีรายได้จากยอดคลิกโฆษณา และ รายได้จากยอดคนดู (ในกรณีที่ผ่านเงื่อนไขตามกฏของ Youtube)
     
  • Instagram สามารถใช้ขายของออนไลน์ได้เช่นเดียวกับโซเชี่ยลอื่นๆ รายได้มาจาก การจ้างโปรโมทสินค้า,รีวิวสินค้า,การขายสินค้าตัวเอง เป็นต้น
6. ลงทุนแบบจับเสือมือเปล่า “ซื้อมาขายไป”


ภาพจาก freepik
 
เป็นวิธีที่อาจไม่ต้องใช้ทุนมากแต่ต้องใช้ทักษะมาก คนที่เก่งด้านนี้แทบจะไม่ต้องใช้เงินในการซื้อสินค้า แต่ใช้รูปแบบหาสินค้าและคนที่ต้องการสินค้า โดยใช้ตัวเองเป็นคนกลาง เมื่อได้สินค้ามาก็นำไปขายและหักต้นทุนสินค้าให้กับเจ้าของ ส่วนตัวเองก็รับเปอร์เซ็นต์หรือส่วนต่าง มีหลายวิธีในการจับเสือมือเปล่าเช่น  
  • การเป็นนายหน้า คอยเป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้เกิดการซื้อขายขึ้น แล้วกินค่าธรรมเนียมหรือค่านายหน้า (Commission) ตามที่ตกลง
     
  • ขายสินค้าจากร้านค้า คือการเอาสินค้าจากร้านหนึ่งมาโพสต์ขาย โดยที่ไม่ต้องจับสินค้ามาก่อนแต่เมื่อมีคนต้องการสินค้าชิ้นนี้จึงเอามาจำหน่ายส่วนใหญ่จะหักส่วนต่างของราคาเป็นรายได้ตัวเอง
7. เปลี่ยนทรัพยากรรอบตัวให้เป็นรายได้


ภาพจาก bit.ly/39UW1yC
 
หากเราไม่มีต้นทุนใดๆ เลย ให้ลองมองดูรอบตัวเองว่ามีอะไรที่พอจะหยิบจับมาสร้างรายได้ บางคนอาจมองไกลตัวแต่ที่จริงรอบตัวมีทรัพยากรมากพอที่จะใช้สร้างอาชีพได้ เช่น บางคนสร้างสินค้าจากกะลามะพร้าว หรือทำสินค้าจากเปลือกหอย บางคนปลูกต้นไม้-ดอกไม้ขาย หรือบางคนบอกว่าถนัดเล่นเกมส์ก็ยังสร้างรายได้กับการขายไอเท็มในเกมส์ให้กับคนที่สนใจ สิ่งสำคัญคือเราต้องมองรอบตัวและพยายามหาจุดเด่นให้เจอ ไม่แน่ว่ารอบตัวของเรานั่นแหละคือ ต้นทุนที่ดีที่สุดแต่คนส่วนใหญ่มักมองไม่เห็นในเรื่องเหล่านี้
 
คนที่รวยเป็นเศรษฐีกับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จแตกต่างกันที่ความคิด คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเราไม่มีเงิน เราไม่มีทุน เราไม่ได้รวยเหมือนอื่นเขา เขารวยกว่าเขาก็ทำได้ บางคนจึงได้แต่คิดและโทษชะตาฟ้าลิขิต แต่ไม่เคยคิดจะลุกขึ้นมาพยายามด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้คือข้ออ้างของคนที่ยอมแท้ แต่คนที่อยากรวยจริงๆ เขาจะไม่สนใจกับสิ่งที่เขาไม่มี แต่จะพยายามสร้างให้สิ่งที่ไม่มีกลายเป็นจริง คนรวยส่วนใหญ่จึงเริ่มต้นลงมือทำทันทีแบบไม่ต้องรีรอ แม้จะไม่เคยทำ แม้จะไม่รู้ว่าทางข้างหน้าเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้ทำ จะมีโอกาสสำเร็จกว่าคนที่เอาแต่นั่งคิดนอนคิดอย่างเดียว

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล
 

ท่านใดสนใจอยากให้ร่างสัญญาแฟรนไชส์โดยถูกต้องตามหลักกฎหมายแจ้งความประสงค์ได้ที่
โทร : 02-1019187, Line : @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
500
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด