บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    ช่องทางทำกิน
23K
4 นาที
22 กุมภาพันธ์ 2565
ส่อง! 6 แบรนด์ดังร้านสะดวกซื้อเมืองไทย ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ
 

หลายคนมองว่าตลาดธุรกิจร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยยังมีช่องว่างให้ขยายตัวอีกมาก เห็นได้จากหลายๆ แบรนด์ร้านสะดวกซื่อดังมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจาก 2 แบรนด์ชื่อดังอย่าง “7-Eleven และ Family Mart” ที่มุ่งเน้นการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์แล้ว ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่พร้อมขึ้นมาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด อาทิ CJ Express, Lawson 108, Lotus´s go fresh และ Mini Big C ที่กำลังซุ่มขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเงียบๆ
 
สำหรับใครอยากเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อเหล่านี้ วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ทราบ
 
1.7-Eleven 
 
ภาพจาก https://bit.ly/33E4mHV 

แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ภายใต้การดำเนินงานบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกลุ่มธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 โดยได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวจาก 7-Eleven, Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ประกอบธุรกิจภายใต้เครื่องหมายการค้า “7-Eleven” ในประเทศไทย ภายใต้สัญญา Area License Agreement ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2531 โดยเปิดร้านสะดวกซื้อสาขาแรกที่ซอยพัฒน์พงษ์
 
ปัจจุบัน 7-Eleven มีจำนวนสาขาราวๆ 12,432 สาขาทั่วประเทศ โดยในปี 2564 ตั้งเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อใหม่เพิ่มให้ได้ประมาณ 700 สาขา โดยใช้งบประมาณขยายการลงทุนประมาณ 11,500-12,000 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ จำนวนร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ทั่วโลก มีมากกว่า 71,100 สาขา โดยประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนสาขามากที่สุดในโลกราวๆ 21,096 สาขา ส่วนประเทศไทยมีจำนวนร้าน 7-Eleven มากเป็นอันดับ 2 ของโลก 

รายได้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
  • ปี 61 รายได้ 335,532 ล้านบาท กำไร 19,944 ล้านบาท
  • ปี 62 รายได้ 361,034 ล้านบาท กำไร 20,180 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 328,529 ล้านบาท กำไร 14,297 ล้านบาท
งบลงทุนเปิดร้าน 7-Eleven 
 
ภาพจาก https://bit.ly/3t1rNDA

ปัจจุบันการลงทุนเปิดร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ร้านสาขาบริษัทดำเนินการเอง, ร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต (Sub Area) และ ร้านสาขาประเภทร่วมลงทุน หรือ Store Business Partner ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยม และเปิดโอกาสให้กับประชาชนทั่วไป
 
จากข้อมูลบนเว็บไซต์ https://bit.ly/33IjvYU ล่าสุดระบุไว้ว่าการร่วมธุรกิจร้าน 7-Eleven หรือ การเป็น Store Business Partner มีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ ดังนี้ 
 
รูปแบบที่ 1
  • ค่าใช้จ่ายเพื่อการเปิดร้าน 480,000 บาท
  • เงินประกันความเสียหาย 1,000,000 บาท 
  • ระยะเวลาการทำสัญญา 6 ปี
  • โครงการสินเชื่ออัตราพิเศษ Store business partner โดยธนาคาร รูปแบบ 1 (วงเงินกู้ ไม่เกิน 600,000 บาท ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 5 ปี)
#รวมค่าใช้จ่าย 1,480,000 บาท 

รูปแบบที่ 2
  • ค่าใช้จ่ายเพื่อการเปิดร้าน 1,730,000 บาท 
  • เงินประกันความเสียหาย 900,000 บาท 
  • ระยะเวลาการทำสัญญา 10 ปี 
  • โครงการสินเชื่ออัตราพิเศษ Store business partner โดยธนาคาร รูปแบบ 2 (วงเงินกู้ ไม่เกิน 900,000 บาท ระยะเวลา สูงสุดไม่เกิน 8 ปี) 
#รวมค่าใช้จ่าย 2,630,000 บาท
 
สอบถามข้อมูลธุรกิจ 7-Eleven ติดต่อ 02-826-7800
 

2. Family Mart
 
ภาพจาก https://bit.ly/3LT2NqQ

แฟมิลี่มาร์ท แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ในเครือเซ็นทรัลฯ ถือเป็นคู่แข่งสำคัญของ 7-Eleven ปัจจุบันในประเทศไทยมีอยู่ทั้งหมด 973 สาขา
 
จุดเด่นแฟรนไชส์ บริษัทมีฐานข้อมูลสมาชิกเดอะวันการ์ดกว่า 17.3 ล้านคน ที่สามารถวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างเหมาะสม ทั้งสิทธิพิเศษ ตลอดจนโปรโมชั่นต่างๆ และยังมีความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ

ภาพจาก https://bit.ly/3LT2NqQ
 
อาทิ บริการรับฝากซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่น Grab (แกร็บ) ทั้ง GrabMart (แกร็บมาร์ท) และ GrabFood (แกร็บฟู้ด), บริการส่งสินค้ากับ Kerry Express, ชำระค่าบริการด้วย CenPay, ชำระค่าสินค้าไม่มีขั้นต่ำด้วยบัตรเครดิต และเดบิต
 
รายได้บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด
  • ปี 61 รายได้ 17,884 ล้านบาท ขาดทุน 360 ล้านบาท
  • ปี 62 รายได้ 16,754 ล้านบาท ขาดทุน 182 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 11,877 ล้านบาท ขาดทุน 281 ล้านบาท
งบลงทุนเปิดร้านแฟมิลี่มาร์ท 
  • ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) 10,000 บาท 
  • สิทธิแรกเข้า 80,000 บาท 
  • ค่าจัดเตรียมการเปิดร้าน 10,000 บาท 
  • เงินประกันสัญญาและสินค้า 300,000 บาท 
  • ค่าอุปกรณ์เบ็ดเตล็ด 20,000 บาท 
  • เงินสำรองทอน 20,000 บาท 
  • รวม 440,000 บาท 
  • อายุสัญญา 6 ปี (3+3) 
สนใจสมัครแฟรนไชส์ โทร. 02-836-5999 ต่อ 804-808
 

3. CJ Express 
 
ภาพจาก https://bit.ly/3p4OA08

CJ Supermarket ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เริ่มแรกจะปักหลักสร้างฐานอยู่แถบภาคกลางและตะวันตก จำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคในราคาประหยัดภายใต้การบริหารงานของ บริษัท พีเอสดี รักษ์ไทย จำกัด ผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่งรายใหญ่ในจังหวัดราชบุรี อยู่ภายใต้การบริหารของ “วิทย์ ศศลักษณานนท์” โดยได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 มกราคม ปี 2548
 
ต่อมาได้มาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 หลังจาก “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” ประธานกรรมการบริหารเครื่องดื่ม “คาราบาวแดง” และพันธมิตร เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่กว่า 80%
 
CJ Express มีจุดกำเนิดและมีความแข็งแกร่งอยู่ที่จังหวัดราชบุรี สมุทรสาคร มีความชำนาญในพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ จึงไม่คิดที่จะต่อกรกับร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่โดยตรง กลยุทธ์ของ CJ Express ที่กำลังใช้อยู่ก็คือ “ป่าล้อมเมือง”
 
ปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการแล้วกว่า 700 สาขา ในพื้นที่ 31 จังหวัด คือ กทม. นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชุมพร ชัยนาท นครนายก ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ระยอง ลพบุรี สระบุรี สมุทรสงคราม สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี อ่างทอง นครสวรรค์ นครราชสีมา จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ และตราด โดยมีโครงการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัดในประเทศไทย


ภาพจาก https://bit.ly/3BIhuso
  
รายได้บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด
  • ปี 61 รายได้ 11,581 ล้านบาท กำไร 262 ล้านบาท
  • ปี 62 รายได้ 13,796 ล้านบาท กำไร 357 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 18,417 ล้านบาท กำไร 933 ล้านบาท 
งบลงทุนเปิดร้าน CJ Express
 
ปัจจุบัน CJ Express ยังลงทุนขยายสาขาภายใต้การดำเนินของบริษัท ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด ยังมีไม่มีแผนการขยายสาขาแบบแฟรนไชส์ แต่ในอนาคตใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ CJ Express เตรียมเงินลงทุนไว้รอได้เลย
 

4. Lawson 108 
 

ภาพจาก www.facebook.com/LAWSON108

“LAWSON 108” หนึ่งในร้านสะดวกซื้อสายเลือดญี่ปุ่น ธุรกิจมีลักษณะคล้ายๆ กับร้าน MNISO, MUJI, Daiso มีนโยบายสร้างธุรกิจให้เติบโตในญี่ปุ่นแล้วขยายตลาดเข้าเอเชียรวมถึงประเทศไทย พร้อมกับปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบ “แฟรนไชส์” โดยวางเป้าเหมายเติบโตก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดค้าปลีกร้านสะดวกซื้อในเมืองไทย
 
 “LAWSON 108” ก่อตั้งขึ้นวันที่ 29 มีนาคม 2556 ภายใต้การดำเนินงานบริษัท สห ลอว์สัน จำกัด ในเครือ “บริษัทสหกรุ๊ป” ยักษ์ใหญ่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดย “LAWSON 108” พัฒนาขึ้นจากแบรนด์ “108 SHOP” 
 
จุดเด่นของ “LAWSON108” คือ เมนูอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ หลากหลายรสชาติ และเบเกอรี่ที่เป็นสูตรเฉพาะ ซึ่งมีขายที่ “LAWSON108” เท่านั้น ซึ่งวัตถุดิบหลากหลายชนิดเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้ได้คุณภาพ และรสชาติที่อร่อย 
 

ภาพจาก www.facebook.com/LAWSON108
 
รายได้บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด
  • ปี 61 รายได้ 2,903 ล้านบาท ขาดทุน 79.9 ล้านบาท
  • ปี 62 รายได้ 2,957 ล้านบาท ขาดทุน 79.3 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 2,660 ล้านบาท ขาดทุน 54.5 ล้านบาท
งบลงทุนเปิดร้าน LAWSON 108
 
เมื่อปี 2560 Lawson 108 มีแผนขยายสาขาใหม่อีก 50 สาขา เฉลี่ยลงทุนสาขาละ 2-2.5 ล้านบาท หรือต้องใช้เงินลงทุนรวม 100 ล้านบาท โดยตั้งแต่ตั้งแต่ปี 2560 บริษัทมีแผนขยายสาขารูปแบบแฟรนไชส์ แต่จนถึงปัจจุบันบริษัทยังลงทุนขยายสาขาเอง ยังไม่เปิดขายแฟรนไชส์ให้แก่นักลงทุน ปัจจุบันมีราวๆ กว่า 160 สาขาทั่วประเทศ
 

5. Lotus´s go fresh
 
ภาพจาก https://bit.ly/3t2gw6l

“ธุรกิจโลตัส” ในประเทศไทยและมาเลเซีย อยู่ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยึดมั่นในปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนของเครือฯ ที่มุ่งสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคม และเครือฯ ประกอบกับหลักการบริหารจัดการคุณภาพโดยรวม ภายใต้แนวทาง ซีพีสู่ความเป็นเลิศ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน บนหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส การตรวจสอบได้และความรับผิดชอบ สอดคล้องกับกฎระเบียบ ข้อบังคับ มาตรฐานของประเทศ
 
เครือซีพีได้มีการเปลี่ยนชื่อและโลโก้ใหม่ พร้อมสีสันที่สดใสกว่าเดิม โดยใช้ชื่อว่า Lotus´s พร้อมสโลแกน รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส และสีสันใหม่ที่ดูสดใสกว่าเดิม ขณะที่ Lotus Express ก็ได้เปลี่ยนเป็น Lotus´s go fresh ประเดิมสาขาแรกที่เอกชัย 99 ซึ่งเป็นร้านค้ารูปแบบสะดวกซื้อขนาดเล็ก เน้นการมอบสินค้าอาหารสุดคุณภาพสูงอย่างครบครัน พร้อมสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค New Normal ที่ขยับมาซื้ออาหารสดในร้านขนาดเล็กที่ใกล้บ้านมากกว่าเดิม
 
ภาพจาก https://bit.ly/3LPCamI
 
หลังจากการควบรวมและเปลี่ยนชื่อ Lotus Express มาเป็น Lotus´s go fresh กลุ่มซีพีมีวิธีการแบ่งเซ็กเมนต์ค้าปลีกไซต์เล็กให้กินส่วนแบ่งของตลาดระหว่างธุรกิจในเครือเดียวกันให้น้อยที่สุด แม้ว่ากลุ่มลูกค้าจะเป็นคนละกลุ่ม แต่สามารถใช้บริการร่วมกันได้ โดยเฉพาะอาหารสด ผลไม้ และอื่นๆ โดยปัจจุบัน Lotus´s go fresh มีจำนวนกว่า 1,635 สาขา
 
ภายใน 2-3 ปีจะเปิดเพิ่มอีก 750 สาขา หรือเฉลี่ยปีละ 250 สาขา เพื่อขยายสาขา Lotus´s go fresh มากกว่า 2,350 สาขา แม้ตลาดไทยจะมีร้านสะดวกซื้ออยู่แล้วกว่า 20,000 สาขา แต่หากเทียบกับอัตราการให้บริการต่อสาขากับประชากร จึงมองว่าประเทศไทยยังมีโอกาสเปิดร้านสะดวกซื้อได้อีกมาก

รายได้บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด
  • ปี 62 รายได้ 188,628 ล้านบาท กำไร 7,819 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 187,958 ล้านบาท กำไร 12,107 ล้านบาท
  • ปี 64 รายได้ 175,097 ล้านบาท กำไร 7,877 ล้านบาท

6. Mini Big C
 
ภาพจาก https://bit.ly/3H7xo0j

“มินิบิ๊กซี” ที่เป็นโมเดลธุรกิจร้านสะดวกซื้อของ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จํากัด (มหาชน) ปัจจุบันในเครือธุรกิจของ “เจ้าสัวเจริญ” เป็นร้านสะดวกซื้อมีขนาดร้าน 150 – 250 ตารางเมตร ปัจจุบันมินิบิ๊กซีในประเทศไทยมี 1,300 สาขา และบริษัทฯ ยังมีแผนการขยายสาขาในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีร้านมินิบิ๊กซีในรูปแบบแฟรนไชส์ในประเทศสปป.ลาว จำนวน 51 สาขา และกัมพูชา 1 สาขา อีกทั้งยังเตรียมแผนขยายสาขามินิบิ๊กซีเพิ่มต่อเนื่องในต่างประเทศ 
 
งบลงทุนเปิดร้าน Mini Big C
 
ภาพจาก https://bit.ly/3Hb5CjF

ที่ผ่านมาบริษัทบิ๊กซีฯ ได้ออกแพ็กเกจราคาขายแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ “มินิบิ๊กซี” 3 รูปแบบ คือ เงินลงทุนระดับราคา 1-2 ล้านบาท, ระดับราคา 2-3 ล้านบาท และระดับราคา 3-4 ล้านบาท และสัดส่วนการแบ่งกำไรขั้นต้น คือ บริษัทบิ๊กซีฯ เจ้าของแฟรนไชส์ได้ 27% จากกำไรขั้นต้น และอีก 73% เป็นของผู้ซื้อแฟรนไชส์ อายุสัญญาแฟรนไชส์ 9 ปี
 
รายได้บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
  • ปี 61 รายได้ 126,407 ล้านบาท กำไร 6,374 ล้านบาท
  • ปี 62 รายได้ 129,010 ล้านบาท ขาดทุน 4,470 ล้านบาท
  • ปี 63 รายได้ 112,050 ล้านบาท ขาดทุน 24,016 ล้านบาท
นั่นคือ 6 แบรนด์แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อชั้นนำของเมืองไทย ที่หลายๆ คนอยากเป็นเจ้าของ 
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
อ้างอิงข้อมูล 
 
ในวันนี้เครือซีพีถือว่าเป็นผู้รายใหญ่ในธุรกิจ “ร้านสะดวกซื้อ” และ “ซูเปอร์มาร์เก็ต” ด้วยจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทย หลังจากได้ทำการซื้อกิจการโลตัสจากกลุ่มเทสโก้เสร็จเรียบร้อย เครือซีพีได้มีการเปลี่ยนชื่อและโลโก้ใหม่ พร้อมสีสันที่สดใสกว่าเดิม โดยใช้ชื่อว่า Lotus&ac..
41months ago   4,020  6 นาที
ธุรกิจร้านสะดวกซื้อในเมืองไทยน่าจะแข่งขันกันอย่างร้อนแรง หลังจากทางเครือเซ็นทรัลเข้าครอบครอง Family Mart ในประเทศไทย ต่อจากพาร์ทเนอร์บริษัทญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีขณะที่ 7-Eleven ยังคงเป็นเจ้าตลาด ด้วยจำนวนสาขาที่กว่า 12,432 สาขา แถมยังเป็นร้านที่ทำรายได้ต่อสาขาสูงที่สุด..
40months ago   62,391  8 นาที
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนพฤษภาคม 2567..
24,355
“มูฟ อีวี เอกซ์” สร้างรายได้ดีแค่ไหน! ทำไมถึงน่า..
3,513
รวม 12 แฟรนไชส์โหนกระแส คนไทยไม่เคยลืม!
2,262
จริงมั้ย? กำเงิน 15 ล้านบาท ถึงจะซื้อแฟรนไชส์ DQ..
1,897
กลยุทธ์ “แดรี่ควีน” เจ้าไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเมืองไ..
1,270
จริงมั้ย? 7-Eleven เห็นทำเลไหนดี เปิดเองแข่งสาขา..
1,229
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด